โลกของ Little Nightmares สามารถทำให้ผู้เล่นรู้สึกตัวเล็ก, เปราะบาง และติดอยู่ในฝันร้ายที่สมจริงเกินไปได้เสมอ และด้วย Little Nightmares III ซีรีส์นี้ได้ท้าทายขีดจำกัดของความกลัวอีกครั้งด้วยโลกใหม่ที่เรียกว่า Spiral, ตัวเอกสองคนที่ต้องพึ่งพากัน และฟีเจอร์ออนไลน์ co-op ที่เป็นครั้งแรกของแฟรนไชส์
เพื่อเจาะลึกยิ่งขึ้น เราได้สัมภาษณ์โปรดิวเซอร์ Coralie Feniello ตั้งแต่แรงบันดาลใจในการออกแบบด่านที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์ของความกลัวในวัยเด็ก ไปจนถึงความท้าทายในการออกแบบเกมเพลย์แบบเล่นคนเดียวและแบบร่วมมือกัน และวิธีสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์ระหว่าง Low และ Alone Coralie ได้แบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสรรค์เบื้องหลัง Little Nightmares III

โลก Spiral และด่านใหม่ที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
สำหรับ Little Nightmares III ทีมงานต้องการให้ผู้เล่นได้ดื่มด่ำกับโลกที่ใหญ่กว่าที่เคยเป็นมา Spiral ซึ่งเป็นชื่อของโลกใหม่ที่ทำหน้าที่เป็นเวทีหลัก ถูกสร้างขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าจักรวาลของ Little Nightmares นั้นใหญ่กว่าที่เราเคยเห็นมาก Coralie Feniello โปรดิวเซอร์ของเกม อธิบายว่า Spiral ถูกออกแบบมาให้เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศ, สภาพแวดล้อม และศัตรูที่หลากหลาย ในขณะที่ยังคงความสอดคล้องเพื่อไม่ให้รู้สึกแปลกแยกไปจากเอกลักษณ์ของซีรีส์
ตั้งแต่ Necropolis ที่มีโทนสีอบอุ่น ไปจนถึงโรงงานขนมหวาน ที่ดูหอมหวานแต่ก็แปลกประหลาด และลานจัดงานรื่นเริง ที่มีชีวิตชีวาแต่ก็น่าขนลุก แต่ละสถานที่มีเรื่องราวเป็นของตัวเอง “เราพยายามเชื่อมโยงเรื่องราวและบริบทของสถานที่เข้ากับองค์ประกอบของเกมเพลย์ที่ปรากฏอยู่ภายในเสมอ” Coralie กล่าว นั่นคือเหตุผลที่แต่ละด่านไม่ได้เป็นเพียงฉากหลัง แต่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์การเล่าเรื่องและเกมเพลย์
ออนไลน์ Co-op และความท้าทายของเกมเพลย์
นวัตกรรมที่ใหญ่ที่สุดใน Little Nightmares III คือการเพิ่มโหมดออนไลน์ co-op เข้ามาอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นสามารถสำรวจฝันร้ายนี้ไปพร้อมกับเพื่อนได้ ที่น่าสนใจคือ การออกแบบปริศนาและด่านนั้นเริ่มต้นจากโหมดผู้เล่นหลายคนก่อน หลังจากนั้น ทีมงานได้ทำการทดสอบอย่างกว้างขวางเพื่อให้แน่ใจว่าจังหวะของเกมจะไม่ถูกรบกวน “เราต้องการให้แน่ใจว่าเกมจะสนุกเท่ากันทั้งในการเล่นคนเดียวและออนไลน์ co-op” Coralie อธิบาย
ผู้เล่นที่เล่นคนเดียวไม่ต้องกังวล เนื่องจากคู่หู AI ได้รับการขัดเกลาให้รู้สึกเหมือนมีชีวิต พร้อมด้วยแอนิเมชันเล็กๆ น้อยๆ ที่ให้ความรู้สึกถึงบุคลิก ในขณะเดียวกัน ในโหมด co-op ผู้เล่นแต่ละคนสามารถรับบทบาทที่แตกต่างกันได้ผ่าน asymmetrical puzzles จะมีช่วงเวลาที่ตัวละครหนึ่งต้องกระทำการอย่างหนึ่ง ในขณะที่อีกตัวละครต้องทำอีกส่วนหนึ่งให้เสร็จในที่อื่น ทุกอย่างถูกออกแบบมาเพื่อให้การร่วมมือกันรู้สึกเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง

รักษาเอกลักษณ์พร้อมสร้างสรรค์สิ่งใหม่
หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่คือการนำเสนอสิ่งใหม่โดยไม่เปลี่ยนแปลงเอกลักษณ์ของ Little Nightmares โลกที่ไม่น่าไว้วางใจนั้นเป็นเครื่องหมายการค้าอยู่แล้ว และตอนนี้เมื่อมีเด็กสองคนเป็นตัวเอก Low และ Alone ความท้าทายใหม่ๆ ก็ปรากฏขึ้น Coralie เน้นย้ำว่าทีมงานคิดอยู่เสมอว่าอะไรที่สมเหตุสมผลสำหรับเรื่องราวและโลกใบนี้ “เมื่อมีเด็กสองคนอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย ประเภทของความท้าทายที่เกิดขึ้นจึงให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ” เธอกล่าว
นอกจากนี้ ความท้าทายทั้งหมดต้องยังคงความสนุกสนานทั้งในการเล่นแบบ co-op และเล่นคนเดียว ซึ่งหมายความว่าปริศนาจะต้องไม่ดูง่ายเกินไปเมื่อเล่นด้วยกัน แต่ก็ต้องไม่รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้เมื่อเล่นคนเดียวเช่นกัน กระบวนการปรับเปลี่ยนนี้ต้องอาศัยการทดสอบ, การรับฟังความคิดเห็น และการปรับแก้อย่างละเอียดเพื่อให้ได้ความสมดุลที่ต้องการ

ความกลัวที่เป็นสากลในฐานะแรงบันดาลใจ
เมื่อพูดถึง Little Nightmares ภาพสยองขวัญและบรรยากาศมักจะเป็นไฮไลท์เสมอ ในภาคที่สามนี้ ทีมงานยังคงเน้นย้ำถึงความกลัวในวัยเด็ก แต่ยังได้สัมผัสถึงความกลัวที่เป็นสากลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ตัวอย่างเช่น งานรื่นเริง ที่มีแสงไฟระยิบระยับ, ดนตรีที่ดัง และบรรยากาศที่วุ่นวาย อาจจะดูสนุกสนานผิวเผิน แต่กลับกลายเป็นน่าสะพรึงกลัวเมื่อมองจากมุมมองที่ต่างออกไป
นอกจากนี้ยังมี Monster Baby ซึ่งเป็นการนำเสนอสิ่งที่ดูเหมือนไร้เดียงสาแต่กลับกลายเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว “ธีมที่เราสำรวจนั้นสอดคล้องกับผู้คนจำนวนมาก” Coralie กล่าว “สมาชิกในทีมบางคนถึงกับนำความกลัวส่วนตัวของตนเองมาใส่ไว้ในการออกแบบด้วย” ไม่น่าแปลกใจเลยที่เกมนี้สามารถสร้างประสบการณ์สยองขวัญที่คุ้นเคยแต่ก็เซอร์ไพรส์ได้อยู่เสมอ

ความสัมพันธ์ทางอารมณ์ของ Low และ Alone
ตัวเอกใหม่สองคน Low และ Alone ไม่ได้มีอยู่แค่เพื่อเกมเพลย์เท่านั้น แต่ยังเป็นแกนกลางทางอารมณ์ของเรื่องราวด้วย ไม่ว่าจะเล่นคนเดียวหรือแบบ co-op ความสัมพันธ์ของพวกเขาจะถูกมองเห็นว่าพัฒนาขึ้นผ่านคัตซีนและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตลอดทั้งเกม
ในโหมด co-op ผู้เล่นจะสามารถรู้สึกถึงสายสัมพันธ์นี้กับเพื่อนได้ทันที ในขณะที่โหมดเล่นคนเดียว ตัวละคร AI จะมี “แอนิเมชันเสริมบรรยากาศ” (flavor animations) ที่ทำให้พวกเขารู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น “ผู้เล่นจะสร้างความเชื่อมโยงทางกายภาพและอารมณ์กับ Low และ Alone ในขณะที่พวกเขาเดินทางผ่าน Spiral” Coralie อธิบาย ที่น่าสนใจคือ แม้ว่าเกมจะสามารถเล่นได้สองคน แต่ความรู้สึกโดดเดี่ยวและการดิ้นรนที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ก่อนหน้ายังคงอยู่ครบถ้วน
Coralie เองเรียกบทสุดท้ายว่าเป็นบทที่เธอชอบเป็นการส่วนตัว ทั้งในแง่ของเรื่องราวและบรรยากาศ เธอแทบจะรอไม่ไหวให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับจุดจบของ Low และ Alone ซึ่งเธอกล่าวว่าจะเป็นทั้งเรื่องที่ซาบซึ้งและลึกลับ

เรื่องราว และความสามารถในการเล่นซ้ำ
นแง่ของเรื่องราว Little Nightmares III ยังคงมีโครงเรื่องหลักที่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ของผู้เล่นอาจแตกต่างกันเล็กน้อยขึ้นอยู่กับตัวละครที่เล่น ปริศนาและช่วงเวลาบางอย่างจะนำเสนอการกระทำที่แตกต่างกันสำหรับ Low และ Alone ทำให้คุ้มค่าที่จะลองเล่นซ้ำจากมุมมองที่ต่างออกไป
เกี่ยวกับความเชื่อมโยงกับสองเกมก่อนหน้า Coralie เน้นย้ำว่าเรื่องราวของ Little Nightmares III นั้นจบในตัว ดังนั้น ผู้เล่นใหม่ไม่จำเป็นต้องเคยเล่นภาคก่อนๆ มาเพื่อที่จะสนุกกับมันได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนๆ รุ่นเก่า มีการอ้างอิงและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่พวกเขาสามารถสังเกตเห็นได้ซึ่งเชื่อมโยงโลกต่างๆ เข้าด้วยกัน

น่ากลัวแค่ไหนเมื่อเทียบกับภาคก่อน?
คำถามคลาสสิกที่เกิดขึ้นเสมอ ภาคล่าสุดนี้น่ากลัวกว่าหรือไม่? Coralie กล่าวว่า Little Nightmares III ยังคงรักษาแนวคิด “ความสยองขวัญที่มีเสน่ห์” อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมไว้ เด็กน้อยสองคนถูกวางอยู่ในโลกที่ไม่เป็นมิตรและน่าสะพรึงกลัว โดยมีสถานที่และตัวละครที่ดึงมาจากความกลัวที่เป็นสากล ดังนั้น ความสยองขวัญจึงไม่ใช่แค่เรื่องของฉากตกใจ jump scares แต่เป็นบรรยากาศที่คืบคลานเข้ามา ทำให้ผู้เล่นไม่เคยรู้สึกปลอดภัยอย่างแท้จริง

การปรับตัวสำหรับคอนโซลและเทคโนโลยีใหม่
เกี่ยวกับประสิทธิภาพ Coralie ยังได้กล่าวถึงความแตกต่างระหว่าง Nintendo Switch และ Nintendo Switch 2 เวอร์ชัน Switch 2 จะให้ภาพที่ใกล้เคียงกับคอนโซลรุ่นที่เก้าได้มากขึ้นด้วยฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังกว่า อย่างไรก็ตาม ทีมงานได้ทำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าเกมจะยังคงสนุกสนานบนทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง Switch รุ่นแรกด้วย
อนาคตของ Little Nightmares
ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้ Little Nightmares กำลังขยายตัวไปไกลกว่าแค่โลกของวิดีโอเกม มีพอดคาสต์ Sounds of Nightmares ที่สำรวจเรื่องราวจาก The Counties ซึ่งเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่คล้ายกับโลกแห่งความจริงของเรามากกว่า นอกจากนี้ยังมีหนังสือการ์ตูน, สต็อปโมชันแอนิเมชัน และแม้กระทั่งเกม VR ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะทำให้ Little Nightmares กลายเป็นแฟรนไชส์ที่มีหลายหมวดหมู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม Coralie ยังคงเก็บงำว่าทิศทางของเกมภาคต่อไปจะเป็นอย่างไร “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนั้นในตอนนี้ เพราะเป้าหมายหลักของเราคือการเปิดตัว Little Nightmares III” เธอกล่าว

Little Nightmares III จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ บน PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series, Xbox One, Nintendo Switch และ PC สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Little Nightmares III สามารถติดตามได้ผ่านเว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post