ภายในงาน Thailand Game Show 2023 นอกจากจะมีเกมเดโมมากมายหลายเกมให้ชาวไทยสัมผัสเป็นครั้งแรก ยังมีอีกหนึ่งเกมที่ซ่อนตัวอยู่เป็นพิเศษอย่าง Granblue Fantasy: Relink ในบูธของ SEGA ที่หลายคนรอคอยเพราะเลื่อนมานานเหลือเกิน ไปดูกันว่าเกมเพลย์ใน เดโม Granblue Fantasy: Relink ที่สัมผัสมากับมือจะเป็นอย่างไรบ้าง
งานเสียงที่แล้วแต่ความชอบ
สำหรับด้านเสียงในเกมด้วยความที่เรามีเวลามากพอก็เลยลองมาทั้งเสียงพากย์ EN และ JP ซึ่งด้วยความโตมากับเกมฝั่งญี่ปุ่นเยอะถึงจะฟังญี่ปุ่นไม่ออกแต่ผู้เขียนก็อินเข้ากับตัวละครที่มีบทพากย์ภาษาญี่ปุ่นมากกว่า แต่ถ้าเอาด้านความสัมพันธ์ตัวละครเสียง EN เราจะเข้าใจมากกว่าว่าแต่ละตัวละครในปาร์ตี้เรามีความสัมพันธ์แบบใด
สำหรับเสียงในตัวเกมถือว่าทำออกมาได้ดี แม้จะอยู่ในฮอลล์งานที่มีเสียงกวนพอสมควรแต่ว่าเสียงเอฟเฟคการต่อสู้รวมถึงการใช้สกิลก็ยังชัดเจน และได้อารมณ์เกม Action RPG อยู่พอสมควร
เกมเพลย์ที่ต่างกันเหมือนเล่นคนละเกม
ในด้านเกมเพลย์ ตัวเกมประกาศชัดเจนว่าสามารถเล่น Solo หรือ Co-op ก็ได้ สำหรับสายเสพเนื้อเรื่องก็มีโหมดพิเศษอย่าง Half-Assist หรือ Full Assist ที่กดแค่ปุ่มเดียวหรือปล่อยจอยก็ผ่านด่านได้ แน่นอนว่าเราต้องเล่นโหมดปกติ
ในภารกิจของเดโมเรียกว่าสั้นกระชับโดยหลังจากได้ลองปุ่มกับเหล่าศัตรูตัวเล็กๆ เป็นการวอร์มมือพอวิ่งเข้าสู่ลานบอสก็ได้สู้กับบอสในทันที โดยบอสตัวแรกที่เจอเป็นกระดูกยักษ์ Gerasene ที่มาพร้อมขวานซึ่งท่าโจมตีหลบไม่ยาก มีแถบสีแดงบนพื้นแสดงให้เห็นจุดที่จะโดนโจมตีชัดเจน จะมีน่ารำคาญหน่อยตรงท่าปล่อยคลื่นวิญญานที่หลบยากเอาพอตัว
และอย่างที่บอกนั่นคือบอสตัวแรก หลังจากล้มบอสกระดูกได้เสร็จก็มีบอส Golem หินต่อมาในทันที โดยเกมเพลย์ของบอสตัวนี้จะเป็นท่าโจมตีวงกว้างรอบตัว พร้อมกับทุบพื้นทำให้หินหล่นเพื่อโจมตีตัวละครที่อยู่ในระยะไกลได้ โดยทั้งสองบอสต้องล้มให้ได้ในเวลาที่กำหนดถึงจะชนะ(แต่ถึงไม่ทันก็ชนะอยู่ดีนะ 555)
ในด้านตัวละครรอบแรกผู้เขียนเล่นเป็น Lancealot ซึ่งเรียกว่าสนุกมือมากสำหรับสายรัวปุ่มด้วยความที่ท่าโจมตีสามารถกดต่อเนื่องได้เรื่อยๆ คราบใดเท่าที่ไม่โดนสวนมา ทำให้หลังจากจับจังหวะเกมได้แล้วถือเป็นตัวละครที่เข้ามือผู้เล่นสายเกมแอคชั่นพอสมควรเลยทีเดียว แต่ถ้าใครไม่ถนัดก็จะกลายเป็นตัวละครที่โดนทุบตายได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน
ในการเล่นรอบที่สองด้วยความอยากให้เห็นความต่างแบบชัดเจนผู้เขียนเลยเลือกเล่นเป็น Io และมันก็ต่างเกินไปแบบคาดไม่ถึง เพราะว่าท่าโจมตีปกติที่เป็นจุดเด่นของ Lancealot ถูกแทนที่ด้วยคอมโบเบาหวิว แลกกับการมีสกิลที่รุนแรงตามประสาจอมเวทย์เข้ามาแทนที่
อีกจุดสำคัญของความต่างทั้งคู่ก็คือในขณะที่ Lancealot ต้องกะจังหวะหลบเข้าออกหาช่องว่างในการโจมตี Io คือเราสามารถปล่อยจอยเล่นได้เลย อย่างบอสกระดูกไม่มีท่าโจมตีไหนของบอสที่เข้ามาถึงระยะโจมตีของ Io เรียกว่าปุ่มเคลื่อนที่มีไว้แค่วิ่งตามบอสที่กำลังนัวกับบอทในปาร์ตี้ของเราก็พอ หรืออย่างบอสโกเลมก็แค่ระวังท่าหินถล่มที่ลงมาทับหัวเราก็พอ
ระบบการโจมตีประสานที่เอื้อต่อการเล่น Co-op
สำหรับระบบต่างๆ ภายในเกมนอกจากการโจมตีปกติกับท่าปิดคอมโบแล้ว ยังมีระบบสกิลซึ่งเมื่อปุ่มจะมีสกิลให้เลือกอีก 4 ท่าด้วยกัน แตกต่างตามตัวละคร
ระบบต่อมาคือ Link Assault ที่เมื่อเพื่อนร่วมทีมโจมตีจนเกิดช่องก็จะมีปุ่มพิเศษให้กดเป็นท่าประสานพิเศษ พร้อมกันนี้ยังมีระบบต่อเนื่องอย่าง Full link ที่เมื่อโจมตีบอสจนถึงจุดที่กำหนด(เป็นเกจใต้เลือดบอส) การ Link Assault ต่อเนื่องกัน 4 คนจะเกิด Full link ที่ Slow ศัตรูรอบตัวทั้งหมด(แทบจะหยุดเลยล่ะ) และเพิ่มพลังโจมตีให้กับสมาชิกในทีม
อีกส่วนคือระบบท่าไม้ตายหรือ Burst Skill ซึ่งเป็นเกจแสดงอยู่ใต้เลือดตัวละคร เมื่อเกจเต็มเราสามารถกดท่าไม้ตายได้ และหลังจากมีใครในทีมกดท่าไม้ตายต่อเนื่องกันจะเกิดการประสานท่าไม้ตายโดยไม่จำเป็นต้องครบ 4 คนก็ได้ แต่ถ้าครบ 4 คนจะเรียกว่า Full Burst ซึ่งทำความเสียหายรุนแรงกว่า 2/3 members Burst อย่างมาก
AI ที่ต้องทำความเข้าใจเสียหน่อย
ถ้าเป็น Co-op การหาจุดประสานหรือการใช้ท่าไม้ตายต่อเนื่องกันคงไม่เป็นปัญหามากนัก เพียงแต่ว่าสำหรับ AI ภายในทีมเมื่อเล่น Solo ตัวบอทจะถูกเซ็ตมาชัดเจนอย่างเช่นกรณีที่เกจ Burst เต็มก็จะใช้ออกมาในทันที ซึ่งอาจจะเป็นปัญหากับผู้เล่นได้ถ้าไม่ได้มองในจุดนี้ทำให้มีโอกาสพลาด Full Burst หรือกับตัวละครที่เกจวนไวกว่าปกติก็ไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายก่อนเพื่อนได้เพราะในช่วงเวลาที่ใช้ก่อนแล้วรอเกจรี AI ก็ไม่แคร์ 3Members Burst กันรัวๆ
อีกหนึ่งจุดคือเมื่อเรา HP หมดในเกมนี้จะเข้าสู่สถานะ Down สามารถใช้ไอเทมเพื่อลุกทันทีได้หรือว่าจะรอเพื่อนมาดึงก็ได้ ซึ่งความจริงมีเพื่อนดึงคนเดียวก็พอแล้วแต่ AI เป็นห่วงเราสุดๆ วิ่งมากันทั้งทีมพร้อมลากบอสมาหาด้วยเช่นกัน (แน่สิไม่มีใคร tank บอสแล้ว)
สำหรับข้อเสียอื่นๆ อีกเล็กน้อยก็คือระบบล็อคเป้าที่ล็อคเป้าก็จริงแต่ว่ากล้องไม่ได้หันไปด้วย ทำให้บางทีไปล็อคตัวที่อยู่นอกหน้าจอแล้วเราไม่รู้ว่ากำลังล็อคใครอยู่ก็มี แต่ใน Boss Battle ก็ไม่มีปัญหาเพราะมีอยู่แค่ตัวเดียว
สรุปเดโม
ต้องบอกว่าใน เดโม Granblue Fantasy: Relink ทีมงานทำออกมาได้กระชับเข้าใจเกมเพลย์ได้ตรงประเด็น มีตัวละครให้ลองเล่นหลากหลายและใครที่รู้จัก Granblue มาก่อนจะชอบได้ไม่ยากหรือแม้กระทั่งคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนก็สามารถเข้าเล่นได้ไม่ยากจากโหมดการเล่นที่เกมเอื้อมาให้
ในส่วนของเกมเพลย์แอคชั่นก็ทำออกมาลื่นไหลไม่มีปัญหาโดยเฉพาะ Boss Battle ถึงแม้ท่าโจมตีของบอสอาจจะซ้ำวนกันไปบ้าง หรือการที่บอสบางตัวไม่สามารถรับมือกับตัวละครสายตีไกลได้เลย แต่คิดว่าถ้าเจอรูปแบบบอสที่หลากหลายขึ้นน่าจะมีบอสที่ตัวละครบางตัวได้เปรียบตัวละครอื่นสลับวนกันไปตามปกติ
และเกมยังทำออกมาดูรองรับ Co-op แบบชัดเจนถึงแม้ AI จะไม่ได้มีปัญหามากกับการเป็นเพื่อนร่วมทีมแต่คิดว่าการเล่นกับผู้เล่นด้วยกันจะประสานงานกันได้ดีกว่ามากแต่ถึงกระนั้นผู้เล่นสาย solo ก็ยังสามารถหาความสนุกส่วนนี้ได้อยู่เรียกว่าทีมงานทำออกมาสมดุลทั้งการเล่นคนเดียวและการเล่นกับคนอื่น
Granblue Fantasy: Relink มีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2024 บน PlayStation 4, PlayStation 5 และ PC
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post