ก่อนหน้าที่ ROG Ally จะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกรกฎาคม เราได้โอกาสที่จะสัมภาษณ์กับ Wong Ding Chuen ผู้ออกแบบ ROG Ally รวมถึง Andrew Chan Senior Manager, PR & Marketing ของ ASUS
Wong Ding Chuen มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีเกี่ยวกับการออกแบบผลิตภัณฑ์ ในหลายๆ บริษัทอย่างก่อนจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทีมออกแบบใน ASUS ในขณะที่ Andrew Chan เป็นผู้เชี่ยวชาญการตลาดสายเทคโนโลยี ซึ่งเป็นที่มาให้เขาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ASUS ในตำแหน่ง Senior Manager สำหรับแผนก PR และ Marketing ยาวนานกว่า 7 ปี
ลักษณะที่จับและตัวเครื่อง
เราเริ่มการสัมภาษณ์โดยสอบถาม Ding Chuen เกี่ยวกับเรื่องสรีระในด้านตัวจับของ ROG Ally เขาเผยว่าในขั้นตอนการพัฒนานั้น ASUS ได้เปิดทดสอบหลายต่อหลายรอบกับเหล่าเกมเมอร์ เพื่อที่จะทดสอบหาตัวจับที่ดีที่สุดที่สามารถใช้ได้ร่วมกันกับนิสัยการจับต่างๆ ที่เกมเมอร์ใช้กันเวลาถือเครื่อง handheld
“จากจุดเริ่มต้นของโปรเจค เราได้จำลองรูปแบบท่าทางที่เกิดขึ้นเวลามีคนกำลังใช้งาน ROG Ally อย่างเช่น ท่านั่ง นอนพิงบนโซฟา และอีกมากมายมันเป็นขั้นตอนที่พวกเราทำแล้วทำอีก ทุกครั้งที่เราลองเทสต์โมเดลใหม่ด้วยการปริ้นท์แบบจำลองออกมา เราก็จะทดสอบว่าคนที่ลองมันรู้สึกสบายหรือเปล่า ซึ่งเหล่าคนที่ทดสอบก็ตื่นเต้นมากเวลาได้เห็นรุ่นโปรโตไทป์ที่แตกต่างกันออกไป
ในทุกๆ ครั้งที่เราทดสอบซ้ำไปมานั้น ทุกคนในทีมไม่ว่าจะเป็น Product managers วิศวกร หรือ software specialists ซึ่งทั้งหมดสามารถพูดได้ว่าเป็นเกมเมอร์ตัวยงที่บ้าเล่นเกมมากกว่าผู้เล่นทั่วไปอย่างแน่นอน จะเข้ามาบอกข้อเสนอแนะเกี่ยวกับตัวจับ เพื่อนำไปขัดเกลาการออกแบบให้ดีที่สุด”
Ding Chuen ยังได้พูดถึงว่ามันมีตัวแปรมากมายเข้ามามีส่วนในกระบวนการนี้ เช่น คนทดสอบวางมืออย่างไรขณะถือตัวเครื่อง ตำแหน่งของ joysticks และอีกมากมาย ดังนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทดสอบสถานการณ์ได้ทั้งหมด แต่ทีมก็ทำการทดสอบจำนวนหลายต่อหลายครั้ง จนกว่าทุกคนจะพึงพอใจ
นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอแนะจากชุมชนผู้เล่นเครื่องเกม handheld ที่ต้องการ “docked” mode หรือการที่สามารถชาร์จได้ โดยที่ตัวจอหรือตัวคอนโทรลไม่ต้องเชื่อมต่อสายเทียบกับ handheld อื่นๆ ก่อนหน้า
แบตเตอรี่
“เมื่อมาถึงการปรับแต่งระหว่างขนาดและน้ำหนัก เพื่อต่อสู้กับปริมาณแบตเตอรี่ที่จุได้ ผมคิดว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้าของผู้ใช้ นิสัยของผู้คนแต่ละคนเวลาเล่น” Ding Chuen กล่าว
“จะพูดยังไงดี เอาเป็นว่าถ้าคุณจะซื้อ handheld สักเครื่อง แบตเตอรี่เราเหมือนกับ Steam Deck เพราะเรามองว่า ไม่น่าจะมีผู้ใช้งานที่เล่นมาราธอนยาวติดกัน 8 ถึง 10 ชั่วโมง ส่วนมากผู้ที่เล่นเครื่อง handheld น่าจะเล่นในช่วงระหว่างรอกิจกรรมหลัก ตัวอย่างเช่น คุณพ่อที่ผมได้คุยมาล่าสุดได้บอกไว้ว่าเขาน่าจะเล่นช่วงระหว่างรอทานข้าว สัก 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งพอเป็นแบบนี้แบตเตอรี่ที่เราใส่เข้าไปก็เพียงพอที่จะเล่นในช่วงเวลานั้น แล้วก็นำไปชาร์จอีกครั้ง” Ding Chuen สรุป
Ding Chuen ยังได้พูดถึง Armoury Crate program ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งเครื่องได้เองเช่น frame rate limits เพื่อให้เล่นได้นานขึ้น เขายังได้นำระบบ fast charging เข้ามาใส่ใน ROG Ally รวมถึง mode ต่างๆ เช่น Turbo และ Performance mode ซึ่ง ROG หวังว่าจะมีผู้เล่นเข้ามามากขึ้นในอนาคต
การทำให้ตั้งค่าเครื่องได้ง่าย เป็นจุดที่สำคัญต่อปริมาณแบตเตอรี่
อายุการใช้งานแบตเตอรี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเป็นห่วงมากที่สุดกับอุปกรณ์ handheld เราได้ถาม Ding Chuen ว่า ROG ได้ค้นพบวิธีการบาลานซ์ระหว่างอายุแบตเตอรี่กับการที่ให้ผู้เล่นสามารถเล่นได้นานที่สุดโดยไม่ต้องชาร์จ
เขาพูดว่า “เราได้พัฒนาอุปกรณ์นี้มาพร้อมกันในทุกส่วน ทั้งขนาดที่เหมาะกับสรีระการถือ แต่ก็ยังสามารถมีแบตเตอรี่ที่พอเหมาะ ซึ่งถือเป็นเรื่องท้าทาย
เมื่อเราได้ออกแบบองค์ประกอบพวกนี้ สิ่งที่น่าสนใจที่เราได้พบคือ ผู้ใช้งานใช้เวลาไปนานมากกับการตั้งค่า เหมือน Steam Deck ที่เปิดให้มีการตั้งค่าตามเกมที่เราเล่น เพื่อทำให้สามารถเล่นได้นานมากขึ้น และมีระดับการประมวลผลที่ยอมรับได้ของผู้ใช้
พอเห็นดังนั้นเราก็เลยสรุปว่า ทุกอย่างมันขึ้นกับระบบซอฟแวร์เสียมากกว่า และการที่ทำให้ระบบควบคุมการตั้งค่าปรับแต่งได้ง่ายก็จะทำให้เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของแต่ละคน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าวางแผนจะเดินทางไกลแล้วเล่นเกมยาวติดกัน 2-3 ชั่วโมง อาจจะปรับการตั้งค่าให้กินแบตน้อยลง แต่ถ้าคุณมีเวลาชั่วโมงนึงเพื่อการเล่น ก็ปรับให้กราฟฟิคแบบใส่สุดแบบไม่ต้องแคร์แบต”
Ding Chuen ได้บอกว่า ROG Ally ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้ปรับการตั้งค่าได้ง่ายที่สุด ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่กับอุปกรณ์ handheld และนั่นคือจุดสำคัญสำหรับการออกแบบเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งาน
การจัดการเรื่องความร้อน
อีกหนึ่งคำถามที่เรายกขึ้นมาเกี่ยวกับความร้อนของตัวเครื่อง ซึ่งก็เป็นอีกสิ่งที่ผู้ใช้ทั่วไปกังวลเวลาเล่นเกมกราฟฟิคระดับเทพหรือเกม AAA หรือ ROG ได้ออกแบบฟังก์ชั่นพิเศษอะไรที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานไม่รู้สึกไม่สบายมือเวลาที่เครื่องเริ่มร้อนบ้างไหม
“ผมคิดว่าทีมที่ดูแลเรื่องอุณหภูมิของเครื่องทำงานออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก พูดตามความจริงเลยคือ ASUS มีทีมออกแบบด้านอุณหภูมิที่น่าจะยอดเยี่ยมที่สุดในโลกแล้ว เราได้ออกแบบอย่างระมัดระวังกับระบบระบายความร้อน ดังนั้นสำหรับ ROG Ally มันจะลดความร้อนโดยตรงโดยท่อที่ติดตั้งอยู่ภายใน และปล่อยออกทางด้านบนเพื่อที่จะเป็นการยืนยันว่า ความร้อนจะไม่ถูกปล่อยออกมาในส่วนที่เป็นมือจับ
และผมคิดว่าเราประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อผมลองเล่นตัวเครื่อง ผมไม่รู้สึกถึงความร้อนที่เพิ่มขึ้นเลย จนกว่าผมจะไปจับส่วนบนของเครื่องที่เป็นจุดระบายความร้อน เอาจริงๆ มันร้อนมากพอตัวนะในจุดนั้น แต่ถ้าไม่ได้ตั้งใจที่จะไปจับมัน ตอนเล่นผมแทบไม่รู้สึกถึงความร้อนเลยด้วยซ้ำ
ให้พูดตรงๆ ก็คือประสบการณ์ที่สัมผัสระหว่างเล่นนั้นสำคัญที่สุด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เครื่องไม่ร้อน แต่เราสามารถทำให้ความร้อนนั้นไม่ไปเผามือในขณะที่กำลังเล่นอยู่” Ding Chuen กล่าว
การปรับเปลี่ยน Design ของ ROG Ally
เราได้ถาม Ding Chuen ว่ามีไอเดียอะไรไหมที่ทีมอยากใส่เข้าไปในตัวเครื่อง แต่ผลสุดท้ายแล้วไม่ได้ใส่เข้าไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงอะไรกับตัวเครื่องในนาทีสุดท้ายบ้างไหม
Ding Chuen บอกว่า ตอนเริ่มมันก็มีไอเดียมากมาก แต่สุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานรู้สึกอย่างไร ต้องการอะไร และ ROG ให้ความสำคัญเรื่องน้ำหนัก และประสบการณ์โดยรวมของผู้ใช้งานหลังได้ลองเล่นตัวเครื่อง อย่างเช่น ตอนแรกมีไอเดียว่าเราจะทำขาตั้งติดไปอยู่กับเครื่องเลย แต่ก็โดนตัดออกไปเพราะปัญหาเรื่องน้ำหนักที่เราให้ความสำคัญมากกว่า
สำหรับคำถามส่วนที่สอง Ding Chuen ได้บอกว่าไม่ได้มีอะไรถูกตัดออกในนาทีสุดท้ายของกระบวนการพัฒนาเครื่อง มันถูกวางแผนมาอย่างดีตั้งแต่ช่วงต้นของการพัฒนา แต่ Ding Chuenได้พูดบางอย่างที่น่าสนใจกับ เวอร์ชั่น 2 ของ ROG Ally
“เรารอที่จะเห็นเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานทั่วไปอยู่ ซึ่งสำคัญอยู่ที่ผู้ที่ใช้งานจริงมากกว่าความเห็นทั้งหมดที่อยูบนเว็บไซต์ ผมว่านี่คือการเริ่มต้นก้าวใหม่ของ ASUS และเป็นสิ่งที่เราจะบุกเบิกมันต่อไป
โอ้มีเรื่องนึง ผมรู้ว่าชุมชนของ PC ยังสำคัญมาก แล้วก็จะมีคำถามเรื่องการ mod ตัวเครื่องเข้ามาอยู่เสมอจากชุมชนเหล่านั้น ดังนั้นในอนาคตเราอาจจะมองถึงการปรับปรุงชิ้นส่วนเฉพาะจุดของ ROG Ally ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อไปเสริมกันเองได้”
Andrew Chan แทรกขึ้นมาว่าการปรับแต่งเครื่องคอนโซลด้วยเครื่องปริ้นท์ 3D เป็นเรื่องปกติที่ทำกันอยู่ แต่อย่างไรก็ดีในฐานะที่ตัวเครื่องเป็นผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายทั่วโลก รวมถึงในฐานะตัวบริษัท ASUS คงไม่สามารถปล่อยให้มีใครก็ตามมาแกะเครื่องแล้วปรับแต่งภายในได้ตามใจชอบ
Andrew ยังได้บอกอีกว่าการปรับแต่งตัวเครื่องเองจะเป็นการทำให้ประกันหมดไปทันที เนื่องจาก ROG ไม่ได้มีการเจรจากับ 3rd party แต่เขาก็เข้าใจได้ถ้า ROG Ally ได้รับความนิยม ก็ต้องมีคนที่เอาตัวเครื่องไปปรับแต่งแน่ๆ
นอกจากนี้ Andrew ยังบอกว่าทุกอย่างในตัวเครื่องคือลายมือของ ROG ไม่ว่าจะระบบระบายความร้อนไปจนถึงทุกอย่างที่ร่วมมือกับ AMD และ Microsoft มันต้องเป็น ROG เท่านั้นที่จะทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ยักษ์ใหญี่เพื่อให้เครื่องนี้สำเร็จในความเป็นจริงในตลาดโลก
Ding Chuen ได้พูดต่อว่าจากมุมมองของหลายต่อหลายคนเพราะแบรนด์อย่าง ROG ทำให้ได้เป็นพาร์ทเนอร์กับ AMD, Microsoft และ Best Buy และทำให้พวกเขามั่นใจที่จะนำ PC มาสร้างใหม่ในรูปแบบเครื่อง handheld
การทำงานร่วมกับ VR
VR Games ค่อยๆ ได้รับความนิยมในหมู่ผู้เล่นเกม ตัวอย่างเกมดังเช่น Half-Life: Alyx หรือล่าสุดอย่าง Horizon Call of the Mountain พอเห็นแบบนี้เราเลยถาม Andrew และ Ding Chuen if the ROG Ally จะสามารถทำงานร่วมกับ VR ได้หรือไม่
Ding Chuen บอกว่า ROG Ally เป็นเครื่องที่เหมือน PC ดังนั้นก็สามารถเข้ากันได้กับ VR Andrew เสริมขึ้นมาว่า ตอนนี้เทคโนโลยี VR นั้นต้องใช้พลังการประมวลผลมากโขเลยทีเดียว และมันจะกินแบตของเครื่องเอามากๆ ดังนั้นยังคงต้องเสียบเชื่อมต่อโดยตรงไปก่อนทั้งตัว VR และ ตัวเครื่องกับสายชาร์จ สำหรับเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบันนั้น คงยังไม่สามารถทำให้ VR สามารถเล่นได้อย่างสมบูรณ์กับเครื่อง handheld ที่ไร้สายและไม่ได้เชื่อมต่อกับอะไรเลย
เราขอขอบคุณทั้ง Wong Ding Chuen และ Andrew Chan ที่สละเวลามาตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ ROG Ally ซึ่งในขณะที่เขียนบทสัมภาษณ์นี้อยู่ ยังไม่ได้มีกำหนดวันที่วางจำหน่ายของ ROG Ally อย่างเป็นทางการ นอกจากระบุคร่าวๆ ว่าเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม
นอกจากนี้ทางเรายังได้โอกาสทดสอบตัวเครื่อง ROG Ally ด้วย ถ้าหากสนใจเตรียมติดตามบทความรีวิวได้เร็วๆ นี้
Discussion about this post