ใกล้จะได้เล่นเต็มทีกับอีกหนึ่งเกมระดับ AAA กับการรีบูทเกมภาคหลักในชื่อเดียวกันไปดู รีวิว Lords of the Fallen กันว่าจะเป็นอย่างไร
Lords of the Fallen ถูกพัฒนาขึ้นโดยสตูดิโอที่ก่อตั้งขึ้นมาใหม่อย่าง HEXWORKS ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งเกมตระกูล Souls-like ที่ไม่ได้มาจาก FromSoft และยังมีกลิ่นอายของตัวเองชัดเจนจากความคลาสสิคของเกมต้นฉบับ แม้จะมีการเปลี่ยนแนวมาเป็น Action RPG ในฉบับล่าสุดก็ตาม
เนื้อเรื่องของการประสานสองโลก
เมื่อความมืดคลืบคลานและเริ่มกลืนกินจากอิทธิพลของ Adyr Umbral Lamp ได้เสาะหาเจ้านายใหม่ซึ่งก็เป็นตัวผู้เล่น ในฐานะสมาชิกใหม่ของ Dark Crusaders ที่มีเป้าหมายในการชำระล้างปิศาจให้หมดไป
สำหรับคนที่สงสัย Umbral Lamp คือ heart of the Lords of the Fallen ที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงภพของคนเป็นและคนตายได้ ซึ่งกลายมาเป็นจุดเด่นของเกมในการแบ่งโลกออกเป็น Axiom โลกของคนเป็นที่มีธีมอยู่ในช่วงพระอาทิตย์ตกที่อบอุ่นกับ Umbral โลกที่ถ้าให้พูดง่ายๆ เหมือนโลกกลับด้านใน Stranger Things ที่มีอันตรายและความมืดมิดอยู่รอบด้าน
ด้วยความที่ตัวเอกเป็นผู้ถูกเลือกทำให้เราสามารถเชื่อมต่อสองโลกนี้เข้าด้วยกันได้ผ่าน Umbral Lamp ที่จะทำให้เราเห็นโลก Umbral ผ่าน Axiom ได้ ซึ่งเราก็ต้องผจญภัยผ่านทั้งสองโลกที่ถึงแม้ในโลกหนึ่งอาจจะเป็นทางปิดไม่สามารถผ่านไปได้ แต่ก็สามารถไปแก้ไขผ่านอีกโลกได้เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งจุดที่เสริมความเป็น RPG ในเกมนี้ก็คือการที่เนื้อเรื่องเกมเพลย์ไม่ได้เป็นเส้นตรงเป๊ะ แต่ว่ามีสิ่งให้ทำภายในเกมเมื่อผู้เล่นมาถึงพื้นที่ Skyrest ที่เป็นเหมือนจุดศูนย์รวม NPC ที่ให้ภารกิจและเส้นทางต่างๆ กับผู้เล่น ซึ่งบางทีอาจจะเข้าไปในเขตที่ไม่ควรไปก่อนเวลาอันควร (แบบที่ Dark Souls ทำ)
อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้ Umbral ดูกดดันก็คือเราสามารถเข้าไปตอนไหนก็ได้ แต่ออกไม่ได้ ต้องใช้วิธีการเฉพาะในการหนีจากโลกแห่งความตายนี้ ซึ่งพอเล่นไปผู้เล่นจะคุ้นชินกับโลกนี้เป็นอย่างดีเพราะถึงแม้ไม่อยากจะเข้ามาแต่เมื่อตัวละครถูกสังหารใน Axiom ก็จะมาคืนชีพใน Umbral อยู่ดี แต่ถ้าตายใน Umbral ก็ได้กลับจุดเซฟแน่นอน
เกมเพลย์ที่มีจุดเด่นผูกกับเนื้อเรื่อง
Umbral Lamp ไม่ได้เป็นแค่ไอเทมที่ใช้เปิดพื้นที่ แต่ยังเป็นอาวุธได้อีกด้วย โดยตัวละครเราจะได้รับสกิลพิเศษ Soul Flay ซึ่งเป็นการดึงวิญญานเป้าหมายออกมาชั่วครู่เปิดช่องว่างให้โจมตี
หรือแม้กระทั่งศัตรูบางประเภทที่เราไม่สามารถทำอะไรได้แต่ว่าเราสามารถใช้ Umbral Lamp ฉายแสงเพื่อสังหารมันแทน
สำหรับระบบการต่อสู้หากคุณเคยเป็นผู้เล่น Soul อยู่แล้วจะปรับตัวกับเกมเพลย์ได้อย่างรวดเร็วแต่ก็มีจุดต่างอยู่ ในที่นี้ผู้เขียนขอเทียบกับ Elden Ring
สำหรับ Lords of the Fallen ตัวเกมจะเปิดทางเลือกฝั่งโจมตีให้หลากหลายกว่าแม้ว่าจะเป็นอาวุธชิ้นเดิมก็สามารถเลือกวิธีการจะฟาดฟันได้ทั้งเชื่องช้าหนักหน่วง หรือว่องไวสลับไปมาได้ ส่วนจำนวนการใช้ของอาวุธบางประเภทก็ถูกมัดรวมกันเป็นเกจเดียวโดยไม่ขึ้นอยู่กับชนิดของอาวุธ อารมณ์แบบว่าเสกลูกธนูจากพลังเวทย์อะไรทำนองนี้
และที่บอกว่าเกมเน้นการจู่โจมมากกว่าป้องกันก็เพราะว่าระบบ Parry ของเกมที่มีลักษณะคล้าย Sekiro: Shadows Die Twice โดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับชนิดของอาวุธหรือโล่ ทำให้ต่อให้เล่นสายโ๗มตีเต็มสูบแต่ก็ยังสามารถ parry ได้เช่นเดิม
ส่วนสิ่งที่รู้สึกแปลกใหม่ก็คือระบบเลือดที่เรียกว่า Withered Health ซึ่งจะฮีลเมื่อเราโจมตีศัตรู โดยอาจจะได้รับเกจเลือดสีเทานี้จากการโดนโจมตี การบล็อค หรือการเข้า Umbral
ซึ่งพอเป็นเช่นนี้ก็เลยมีเทคนิคแปลกๆ อย่างการยอมตายในโลก Axiom เพื่อเข้าโลก Umbral เพราะว่าจะได้ฮีลเลือดกลับมาเพิ่มทางเลือกในการเล่นเวลาต่อสู้นั่นเอง
ข้อเสียอย่างหนึ่งก็คือถึงแม้จะมีทางเลือกประหลาดๆ ให้ดูน่าสนใจในการวางแผนต่อสู้ แต่ด่านค่อนข้างจะบังคับไม่มีทางเลือกเท่าไหร่ ทำให้แผนที่วางเอาไว้ต้องไปดูสภาพด่านอีกที
อีกส่วนก็คือเกมมีลักษณะเป็นเกม Soul แต่ดันมีศัตรูจำนวนระดับเกม Musou ผลเลยกลายเป็นว่าเราถูกรุมกระทืบอยู่บ่อยครั้ง บางจุดก็หนักข้อแบบว่ามีศัตรูยิงไกลจำนวนมากอยู่ในแผนที่เดียวกันทำให้ไอ้ระบบ parry หรือ Soul Flay ด้านบนที่กล่าวมาแทบไม่ได้ใช้ ซึ่งไม่ได้เป็นแค่ใน Axiom เท่านั้นแต่ใน Umbral ยิ่งหนักกว่าเพราะศัตรูตายเกิดได้ไม่จำกัดเนื่องจากอยู่ในโลกแห่งความตายอยู่แล้ว ถึงแม้จะตรงตามเนื้อเรื่องแต่ก็ทำให้เกมจุกจิกมากขึ้นพอตัวเลยทีเดียว
นอกจากนี้ในตอนเล่นผู้เขียนได้พบเจอระบบที่ทำไม่สมบูรณ์อย่าง camera lock-on ที่เปลี่ยนเป้าเองแบบกระทันหันจนจังหวะการเล่นพังไปดื้อๆ ก็มี
แต่จุดเด่นที่สำคัญที่สุดอย่าง Boss Battle เกมก็ทำออกมาได้อย่างไม่มีปัญหา
ส่วนในด้านงานภาพและเสียง งานภาพทำออกมาได้ดีบรรยากาศเข้ากันธีมอย่างมาก แต่งานเสียงออกจะดีไซน์มีปัญหาเล็กน้อยด้าน sound effects ที่ระยะใกล้ไกลไม่สามารถแยกออก หรือบางทีเสียงการโจมตีของศัตรูระยะไกลก็กลืนไปกับเสียง background จนทำให้สู้ยากยิ่งกว่าเดิม
สรุป รีวิว Lords of the Fallen
นับตั้งแต่การประกาศครั้งแรกจนถึงล่าสุดที่ได้ตัวเกมมารีวิวก่อนวางจำหน่ายจริงนั้น ทางทีมงานได้พัฒนาเกมขึ้นมาเยอะมากจากความคิดเห็นต่างๆ ที่นำไปปรับปรุงเพื่อที่จะสามารถเทียบเคียงกับเกมอื่นในแนวเดียวกันได้
สิ่งที่เป็นจุดเด่นเกมนี้เลยคือ Axiom และ Umbral ซึ่งดึงเนื้อเรื่องมาใช้เป็นจุดเด่นได้ดีมากถึงแม้โลกคู่ขนานจะมีเกมหลากหลายเกมทำมาก่อนหน้าแล้ว แต่ว่าทางทีมพัฒนาเอามาใช้อย่างจริงจังให้กลายเป็นเมคคานิคของเกมไปเลย เพราะเหมือนกับว่าเราเดินผ่านแผนที่ 2 แผนที่ซ้อนกันตลอดเวลา
ส่วนระบบการต่อสู้เข้าใจว่าทางทีมงานอยากทำให้เข้าธีมเช่นเดียวกัน แต่พอใส่ความยากระดับ Souls-like เข้าไปเกมน่าจะไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่แน่นอน ยิ่งในโลกของ Umbral ที่ศัตรูมาแบบไม่มีจำกัดทำให้แม้จะยังไม่ถึงบอสก็รากเลือดได้เช่นเดียวกัน
สรุปรวมตัวเกม Lords of the Fallen ภาครีบูทนี้ยังมีคุณค่าพอที่จะลองสัมผัสถ้าเป็นเกมสไตล์ Souls-like อยู่แล้วก็จะแนะนำเลยทีเดียวว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก
ข้อดี
- การใช้ Axiom และ Umbral อยู่ในเกมเพลย์หลักเพิ่มทิศทางการเล่น การสำรวจ การต่อสู้
- ระบบการต่อสู้ที่ไม่ต้องปรับตัวมากจากเกมตระกูลเดียวกัน
- บอสหลักยังทำออกมาได้ยอดเยี่ยม
ข้อเสีย
- ศัตรูในด่านเยอะเกินโดยเฉพาะ Umbral ที่ทำให้ใช้เวลาในเกมมากเกินควร
- เสียง Sound effects ทำออกมาไม่ค่อยเข้ากับตัวเกม
8/10 คะแนน
ขอบคุณทาง Ripples Asia Venture สำหรับโค้ดเกมที่ทำให้เกิด รีวิว Lords of the Fallen นี้ขึ้นได้
Lords of the Fallen เตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 13 ตุลาคมนี้บน PlayStation 5, Xbox Series X|S และ PC ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของเกม https://lordsofthefallen.com
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post