หลังจากผ่านไปเกือบสามทศวรรษ Final Fantasy Tactics ยุทธศาสตร์ RPG ระดับตำนานจาก Square Enix กำลังจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบฉบับรีเมก FINAL FANTASY TACTICS: The Ivalice Chronicles ที่แฟน ๆ เฝ้ารอคอยมานาน โดยไม่ใช่แค่การรีมาสเตอร์ธรรมดา แต่คือการสร้างขึ้นใหม่ด้วยความตั้งใจที่จะรักษาแก่นแท้ของต้นฉบับ พร้อมเพิ่มคุณภาพในทุกมิติ
ใน บทสัมภาษณ์ FINAL FANTASY TACTICS: The Ivalice Chronicles ครั้งนี้ เราได้พูดคุยกับทีมผู้พัฒนาหลักของโครงการ ได้แก่ Kazutoyo Maehiro (ผู้กำกับ), Yasumi Matsuno (ผู้เขียนบทต้นฉบับ) และ Shoichi Matsuzawa (โปรดิวเซอร์) เพื่อเปิดเผยเบื้องหลังแนวคิด การตัดสินใจสำคัญ และความตั้งใจในการนำเกมยุทธศาสตร์สุดคลาสสิกนี้กลับสู่ยุคใหม่ ทั้งในมุมของผู้สร้างสรรค์ต้นฉบับ และผู้ดูแลการฟื้นคืนชีพเกมครั้งประวัติศาสตร์นี้

*บทสัมภาษณ์มีการแก้ไขบางส่วนเพื่อให้เข้ากับภาษาไทยยิ่งขึ้น
Q: FINAL FANTASY TACTICS ยังคงเป็นหนึ่งในเกมภาคแยกที่ขายดีที่สุด และยังถูกยกย่องจากหลายฝ่ายว่าเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดของแฟรนไชส์นี้ ด้วยมรดกที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ทีมงานตัดสินใจเลือกแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโปรเจกต์นี้ได้อย่างไร?
Kazutoyo Maehiro (ผู้กำกับ): ในฐานะที่ผมเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมพัฒนาดั้งเดิม ผมรู้สึกขอบคุณและยินดีอย่างสุดซึ้งที่ FINAL FANTASY TACTICS ได้รับความรักและการสนับสนุนจากแฟนๆ มาอย่างยาวนาน
จริงๆ แล้ว จุดเริ่มต้นเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน ตอนที่ Return to Ivalice ถูกเพิ่มเข้ามาใน FINAL FANTASY XIV มันทำให้ผมรู้สึกอยากกลับไปเล่น FINAL FANTASY TACTICS เวอร์ชันต้นฉบับอีกครั้ง
ในตอนนั้นเอง ผมก็ได้ตระหนักอีกครั้งว่า เกมนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน ทั้งในแง่ของการออกแบบเกมที่โดดเด่น และเนื้อเรื่องที่ซับซ้อนลุ่มลึก ซึ่งยังคงทรงพลังแม้จะเปรียบเทียบกับเกมยุคปัจจุบัน
แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็เห็นว่า เวลาผ่านไปหลายปีมาก โดยไม่มีภาคต่อหรือภาคที่เกี่ยวข้องออกมาเลย อีกทั้งยังไม่มีวิธีใดที่จะเล่นเกมนี้บนแพลตฟอร์มรุ่นใหม่ได้อีกต่อไป นั่นเป็นจุดที่ผมรู้สึกอย่างแรงกล้าว่า เกมอันยอดเยี่ยมนี้สมควรที่จะถูกส่งต่อไปสู่ผู้เล่นรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสมันมาก่อน และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เราตัดสินใจเริ่มพัฒนาโปรเจกต์นี้ขึ้นมา
เมื่อจะชุบชีวิตเกมนี้ขึ้นมาอีกครั้งหลังจากผ่านไปกว่า 30 ปี เราก็ได้คิดอย่างถี่ถ้วนว่า จะนำเสนอเกมนี้อย่างไรให้ตอบโจทย์ทั้งแฟนรุ่นเก่าที่หลงรัก FINAL FANTASY TACTICS มาตลอด และผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะได้สัมผัสมันเป็นครั้งแรก ผลลัพธ์คือ เราตัดสินใจสร้างเกมนี้ออกมาใน 2 เวอร์ชัน ได้แก่เวอร์ชัน “Classic” ที่ซื่อสัตย์ต่อเวอร์ชันต้นฉบับสำหรับแฟนๆ และเวอร์ชัน “Enhanced” ที่มีการปรับปรุงและเพิ่มองค์ประกอบใหม่ต่างๆ เพื่อให้เหมาะกับผู้เล่นสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น

Q: พวกเราทราบว่าเกมภาคใหม่นี้จะใช้บทแปลจากภาค War of the Lions แต่เราจะได้เห็นเนื้อเรื่องที่ขยายเพิ่มเติม อาชีพใหม่ และคอนเทนต์อื่นๆ จากเวอร์ชันนั้นรวมอยู่ในเกมเวอร์ชันสุดท้ายนี้ด้วยหรือไม่?
Kazutoyo Maehiro: ไม่ครับ สำหรับเกมเวอร์ชันนี้ เช่นเดียวกับเวอร์ชัน “Classic” ที่ยึดมั่นในความเป็นต้นฉบับอย่างเคร่งครัด เวอร์ชัน “Enhanced” ก็จะไม่มีการนำตัวละครหรือระบบอาชีพที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน FINAL FANTASY TACTICS: The War of the Lions มาใส่ไว้เช่นกัน
ในช่วงที่ The War of the Lions เปิดตัวครั้งแรก เราเชื่อว่าคอนเทนต์ที่เพิ่มเข้ามานั้นเพียงพออย่างมากต่อความคาดหวังของผู้เล่นแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปถึง 28 ปี และเราได้ตัดสินใจกลับมาทำเวอร์ชันรีเมกนี้อีกครั้ง เราได้ไตร่ตรองว่า อะไรคือสิ่งที่ เราในฐานะทีมผู้สร้างดั้งเดิมสามารถมอบให้ได้จริงๆ เราก็ได้ข้อสรุปว่า ทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด คือการชุบชีวิตประสบการณ์การเล่นแบบต้นฉบับให้กลับมาในรูปแบบที่ดีที่สุด
แน่นอนว่า เราก็เคยพิจารณาเรื่องการเพิ่มอาชีพใหม่ ความสามารถใหม่ ตัวละครใหม่ รวมถึงคอนเทนต์จาก The War of the Lions เข้ามาแล้ว แต่ความจริงก็คือ เกมเวอร์ชันต้นฉบับนั้นได้รับการขัดเกลาอย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ทั้งในด้านการออกแบบเกมและการเล่าเรื่อง การเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่มากเกินไป อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อทั้งผู้เล่นเก่าที่ผูกพันกับต้นฉบับ และผู้เล่นใหม่ที่เพิ่งจะได้สัมผัส
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม สำหรับก้าวแรกในการนำ FINAL FANTASY TACTICS กลับสู่ยุคปัจจุบัน เราจึงเลือกที่จะโฟกัสไปที่ตัวละครดั้งเดิม ระบบอาชีพ และประสบการณ์การเล่นในแบบที่มันเคยเป็นมา แทนที่จะไปเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เคยเวิร์กอยู่แล้ว เราตัดสินใจโดยตั้งใจที่จะรักษาความเป็นต้นฉบับให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้วยแรงผลักดันจากความมุ่งมั่นของทีมงานที่อยากเก็บรักษาความรู้สึกดั้งเดิมนั้นไว้ให้ได้อย่างครบถ้วน เราจึงได้แก้ไขปัญหาทั้งหมดที่เคยมีอยู่ในเวอร์ชัน War of the Lions ไม่ว่าจะเป็นเอฟเฟกต์ภาพ เสียง หรือปัญหาด้านการเรนเดอร์ต่างๆ ให้หมดไปด้วย
Q: ผ่านมาเกือบ 30 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ FINAL FANTASY TACTICS เปิดตัวครั้งแรก ก่อนจะมีเวอร์ชันรีเมกอย่าง FINAL FANTASY TACTICS: The War of the Lions ในภายหลัง รู้สึกอย่างไรบ้างที่ในที่สุดหนึ่งในผลงานระดับตำนานของคุณกำลังจะได้รับเวอร์ชันที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงในครั้งนี้?
Yasumi Matsuno (ผู้เขียนบท ผู้วางโครงเรื่อง และบรรณาธิการบทต้นฉบับ): ในฐานะผู้ให้กำเนิดแนวคิดของเกมนี้ ผมเคยมีวิสัยทัศน์ที่สูงกว่าภูเขาและลึกกว่าทะเล แนวคิดต่างๆ ผุดขึ้นมาในหัวผมมากมาย ชนิดที่เรียกได้ว่าไร้ขีดจำกัด
ยกตัวอย่างเช่นระบบ UI (อินเทอร์เฟซผู้ใช้) เดิมทีผมตั้งใจจะออกแบบบทที่เรื่องราวของรามซ่า (Ramza) และเดลิต้า (Delita) จะมาบรรจบกันในแบบที่ซับซ้อน แต่สุดท้ายบริษัทก็ให้เวลาพัฒนาแค่ประมาณหนึ่งปีเท่านั้น แถมยังเป็นครั้งแรกที่เราต้องทำงานกับฮาร์ดแวร์เครื่องนั้น และยังเป็นครั้งแรกที่เราต้องมาร่วมงานกันในฐานะทีมอีกด้วย สมัยนั้น การมีทีมพัฒนาที่มีสมาชิกเกิน 50 คนก็ถือว่าใหญ่มากแล้ว เราจึงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง และโปรเจกต์ที่กลายมาเป็น FINAL FANTASY TACTICS ก็เต็มไปด้วยการตัดทอนและประนีประนอมตลอดเส้นทาง
ในฐานะนักสร้างสรรค์ ผมยังคงรู้สึกเสียดายกับสิ่งที่ไม่ได้ทำให้เสร็จหลายอย่าง แต่ในขณะเดียวกัน ในฐานะผู้นำโปรเจกต์ ผมก็ต้องบริหารทีมในโครงสร้างที่ไม่คุ้นเคย พร้อมกับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดึงศักยภาพของสมาชิกแต่ละคนออกมา และพาทุกคนเดินหน้าไปยังเป้าหมายร่วมกัน แม้จะเจออุปสรรคมากมาย เราก็ยังสามารถทำให้เกมเสร็จสมบูรณ์ได้ในที่สุด
ผมยังคงมีความรู้สึกเสียใจเล็กน้อยในฐานะนักสร้างสรรค์ที่ไม่ได้ใส่ทุกอย่างที่คิดไว้ลงไปในเกม แต่อีกด้านหนึ่ง ในฐานะผู้นำ ผมภูมิใจที่สามารถรับมือกับความท้าทายเหล่านั้นและพาโปรเจกต์นี้ไปสู่ความสำเร็จในเชิงธุรกิจได้
ผมภูมิใจที่สามารถสร้างสมดุลระหว่างสองด้านของตัวเอง ด้านที่ใฝ่ฝันสร้างสรรค์ และด้านที่ต้องรับผิดชอบความเป็นผู้นำ และพาเกมนี้เดินทางจนถึงเส้นชัยได้สำเร็จ ในขณะเดียวกัน ผมก็รู้สึกขอบคุณทีมพัฒนาทุกคนอย่างสุดหัวใจ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างหนักเพื่อทำให้โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจริงในยุคนั้น
ผมรู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่ผลงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหลงใหลและวิสัยทัศน์เมื่อ 30 ปีก่อน กำลังจะได้กลับมาเผยแพร่ให้ผู้คนทั่วโลกได้สัมผัสอีกครั้งในปี 2025 นี้

Q: มีอาชีพใหม่ใดบ้างไหมที่คุณเคยอยากเพิ่มเข้าไปใน Final Fantasy Tactics แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำ?
Yasumi Matsuno: มีทั้งตัวละครและอาชีพอยู่หลายแบบทีเดียวที่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องถูกตัดออกจากโปรเจกต์ครับ อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าในตอนนี้คงไม่มีประโยชน์นักที่จะพูดถึงรายละเอียดของสิ่งเหล่านั้นแล้ว มันอาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ใน FINAL FANTASY TACTICS ก็จริง แต่ถ้าในอนาคตมีโอกาสอีก ผมก็อยากจะพิจารณานำแนวคิดเหล่านั้นกลับมาใช้อีกครั้งครับ

Q: เราได้เห็นการกลับมาของเกมแนว Tactical RPG ในช่วงหลัง เช่น Tactics Ogre Reborn, Triangle Strategy, และ Unicorn Overlord ที่ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก แม้ว่าเกมจากค่ายญี่ปุ่นหลายแห่งจะเน้นเกมแอ็กชันเพื่อเจาะตลาดโลกมากขึ้น คุณมองอนาคตของแนวเกมนี้ไว้อย่างไร และคิดว่า Final Fantasy Tactics จะมีบทบาทอย่างไรท่ามกลางกระแสนี้?
Shoichi Matsuzawa (โปรดิวเซอร์): ในฐานะแฟนพันธุ์แท้ของเกมแนว Tactical RPG ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นเทรนด์นี้กลับมาอีกครั้งครับ
เกมแนวนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากเกมแอ็กชัน อย่างการวางแผนการสร้างตัวละครล่วงหน้า หรือการอ่านเกมและคาดเดาการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้ ผมคิดว่าแนวนี้ยังมีศักยภาพอีกมากที่ยังไม่ได้ถูกขุดค้น
FINAL FANTASY TACTICS เองก็สามารถมอบประสบการณ์สนุกๆ ในการทดลองผสมผสานอาชีพและความสามารถต่างๆ ได้อย่างอิสระ ระบบการควบคุมจำนวนยูนิตก็ถือว่ากำลังพอดี ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป ทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้เล่นทุกระดับ ผมเชื่อจริงๆ ว่านี่คือเกมที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ที่อยากเข้าสู่โลกของเกมแนว Tactical RPG
ผมหวังว่าเกมนี้จะช่วยดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาหลงใหลในแนวเกมนี้ได้มากยิ่งขึ้นครับ

ทั้งหมดนี้คือ บทสัมภาษณ์ FINAL FANTASY TACTICS: The Ivalice Chronicles ต้องขอขอบคุณเหล่าทีมพัฒนาที่มาบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังมากมายเกี่ยวกับเกม
FINAL FANTASY TACTICS – The Ivalice Chronicles จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 กันยายน 2025 บน PS5, PS4, Nintendo Switch, Nintendo Switch 2, Xbox Series X|S และ PC สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ผ่านเว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post