Dragon Ball: Sparking! Zero ถือเป็นภาคใหม่ของแฟรนไชส์เกมใน DRAGON BALL Budokai Tenkaichi ซึ่งกลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปเกือบ 15 ปี ซึ่งเราได้โอกาสไปสัมผัสมา ไปติดตามได้ใน พรีวิว Dragon Ball: Sparking! Zero นี้
เกมเพลย์
Episode Battle
สำหรับโหมดนี้คือโหมดเนื้อเรื่องเล่นคนเดียว ซึ่งเราสามารถเลือกดำเนินเนื้อเรื่องได้ผ่าน 8 ตัวละคร ซึ่งก็จะมีการเล่าการต่อสู้สำคัญๆ ใน DRAGON BALL Z จนไปถึง DRAGON BALL SUPER แต่นอกจากฉากต่อสู้รัวปุ่มที่แสนคุ้นเคยแล้ว ยังมีเนื้อเรื่องคัทซีนให้เรานั่งดูแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งซึ่งแตกต่างจากที่เคยมีในอนิเมะ และบางครั้งการเลือกตอบคำถามบางข้อในเกมก็สร้างจุดเปลี่ยนของฉากที่จะเกิดขึ้นเสียด้วย
Custom Mode
สำหรับโหมดนี้คือโหมดสร้างจินตนาการล้วนๆ เราสามารถทำอะไรก็ได้ ที่ว่าทำอะไรก็ได้หมายถึง เราสามารถเลือกตัวละคร กำหนดท่าทาง บทบาท เสมือนดั่งผู้กำกับหนัง เราสามารถเลือกเหล่าร้ายให้กลายเป็นผู้พิทักษ์โลก มีบทพูดสุดแสนจะรักพวกพ้อง หรือสร้างการต่อสู้ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงขึ้นมาได้
และแน่นอนว่าถ้าใช้เวลาทำขนาดนี้เก็บไว้ดูคนเดียวก็จะไม่ค่อยคุ้มค่า เราสามารถอัพโหลดและแชร์ให้เพื่อนหรือคนอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มผู้เล่นได้ดู ซึ่งน่าจะบันเทิงอยู่ไม่ใช่น้อยเมื่อเราจะได้เห็นฉากแปลกๆ สุดสร้างสรรค์เกิดขึ้น
Split-Screen Battle
และมาถึงอีกโหมดสำคัญคือการต่อยกับเพื่อน ซึ่ง DRAGON BALL: Sparking! ZERO ก็มีโหมดออฟไลน์ไว้เล่นกับเพื่อน ดั่งเช่นในสมัยเด็กของคุณ ในขณะที่เกมส่วนใหญ่เน้นการเล่นแบบออนไลน์เป็นหลักในยุคนี้ ซึ่งถ้าจะเก่าจริงแบบสมัยก่อนก็ต้องมีการแบ่งจอเป็นสองจอเพื่อให้รู้ว่าตัวละครที่เราบังคับนั้นอยู่ตรงไหน เรียกว่าโหมดนี้ทำให้นึกถึงวัยเด็กขึ้นมาเลยทีเดียว
ส่วนคนที่กังวลว่าเป็นมือใหม่ หรือมือเก๋าจะมีเรื่องความสามารถการเล่นมาด้วยหรือเปล่า ตัวเกมมีระบบ auto combo ให้ดังนั้นเราสามารถรัวปุ่มแล้วเน้นจังหวะการรุกรับแทนได้ ไม่ต้องเสียเวลาจำท่าคอมโบแต่อย่างใด
VS Battle
สำหรับจุดนี้จะรวมทั้งการเล่นแบบออฟไลน์ด้านบนและการเล่นแบบออนไลน์จับคู่ สำหรับในภาคนี้ข้อดีที่ให้มาก็คือมีตัวละครมหาศาลให้เราเลือกเล่น ไม่ว่าจะตัวหลัก ร่างไหนก็ตาม ตัวละครประกอบยิบย่อย และแยกเป็นร่างต่างๆ ทำให้มีความหลากหลายในการเล่นสูงอย่างมาก
โดยระบบการเล่นนั้นจะแบ่งออกเป็นทีมละ 3 ตัวละคร ซึ่งเราจะเลือกตัวต่างกันหรือตัวเดียวกันแต่คนละร่างมารวมทีมก็ได้ เพราะแต่ละตัวมีสกิลและท่าโจมตีที่แตกต่างออกไปทั้งหมด
แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือด้วยการที่มีตัวละครเยอะมากๆ ทำให้การบาลานซ์ตัวละครนั้นยากไป อย่างหนึ่งที่ทางทีมพัฒนาได้ระบุไว้ก็คือสำหรับความแข็งแกร่งของตัวละครนั้นส่วนมากจะอิงตามสเกลพลังในอนิเมะ ทำให้บางตัวละครโกงกว่าชาวบ้านอย่างชัดเจน ส่วนบางตัวก็ถูกทำมาเพื่อเป็นมีมเท่านั้น
กราฟฟิค
.ในแง่ของกราฟฟิค ตัวเกมยังนำจุดเด่นความเป็น 3D ผสมกับงานภาพ 2D ในสไตล์ Dragon Ball ส่วน stage การต่อสู้ทั้ง 9 ด่านก็เลือกมาได้ดี เป็นฉากสำคัญๆ ในเนื้อเรื่อง ซึ่งถ้าเราไม่ต่อยกันบางทีบินดูด่านก็เป็นเรื่องที่ดูน่าสนใจดี แถมด่านทุกด่านมีสิ่งของให้พังได้ เรียกว่าดีเทลในส่วนนี้จัดเต็มมากทีเดียว
ในด้านแสงสี จากการปล่อยท่าพลังต่างๆ เรียกว่ามันช่างจ้าซะเหลือเกิน แต่ไม่ใช่ทีมงานทำมาเป็นคลื่นเรียบๆ ลวกๆ ทุกการปล่อยท่ามีดีเทลรายละเอียดของมัน ทำให้เราอยากลองหลายๆ ตัวละครว่าท่าคล้ายๆ กัน สีใกล้เคียงกันจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมอะไรบ้างในแต่ละตัวละคร
สรุป พรีวิว Dragon Ball: Sparking! Zero
โดยรวมนั้นจากที่เราสัมผัสมาตัวเกมนั้นอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยม กราฟฟิคยังคงมีเอกลักษณ์ ฉากการต่อสู้และเกมเพลย์ลื่นไหล อีกทั้งรายละเอียดทีมงานยังใส่มาเต็มเปี่ยม มีระบบช่วยเหลือมือใหม่ให้เข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น ทำให้สนุกไปกับเกมได้ไม่ยาก อีกทั้ง Custom Mode ที่น่าจะบันเทิงเอาสุดๆ ซึ่งเราไม่มีเวลามากพอที่จะลองแบบจัดเต็ม ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อเกมวางจำหน่ายแล้วจะมีฉากบันเทิงๆ อัพโหลดเต็มแพลตฟอร์มวิดีโอในอนาคต
Dragon Ball: Sparking! Zero มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 11 ตุลาคม 2024 บน PlayStation 5, Xbox Series X/S และ PC (via Steam) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post