Gamer555
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
Gamer555
No Result
View All Result

รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่

Norrachai Anansakdakul by Norrachai Anansakdakul
3 months ago
in Nintendo Switch, ทั้งหมด, รีวิว, รีวิวเกม
Reading Time: 4 mins read
0 0
รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่
Share on FacebookShare on Twitter

หลังจากที่ถูกผูกไว้กับเครื่อง Wii U มานานเกือบสิบปี Nintendo ก็ได้นำ Xenoblade Chronicles X มาลงให้กับ Nintendo Switch ทันเวลารับยุคของเครื่องเกมเจเนอเรชันใหม่ แม้แฟน ๆ จะต้องรอนานกว่าที่คาดไว้ แต่ในที่สุดก็สามารถเล่นเกมในซีรีส์ Xenoblade ครบทุกภาคบน Switch ได้แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวอร์ชันอัปเกรดของสองภาคแรกได้รับการปรับปรุงให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับการปรับปรุงอื่น ๆ อีกมากมาย รวมถึงคอนเทนต์ใหม่

ในโอกาสนี้ เราได้ รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition หลังจากที่ได้ลองเล่นจริงมาหลายสัปดาห์ เกมนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 บน Wii U และถึงแม้ยอดขายจะไม่สูงนักเพราะฐานผู้เล่นของ Wii U มีจำกัด แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก และในตอนนี้ Monolith Soft ก็ได้นำเกมนี้กลับมาให้เฉิดฉายอีกครั้งบน Nintendo Switch ที่มีผู้เล่นจำนวนมาก

Related Posts

พรีวิว Shadow Labyrinth – PAC Man ในโลกมืดที่ทำคุณหัวร้อนได้ง่ายๆ

บทสัมภาษณ์ Shadow Labyrinth กับ โปรดิวเซอร์ Seigo Aizawa

ตั้งแต่การเล่าเรื่องที่แตกต่าง การสร้างโลกที่แปลกใหม่ ระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อน ไปจนถึงการสำรวจที่ดื่มด่ำ—เราจะพาคุณไปดูว่าอะไรทำให้เวอร์ชันรีมาสเตอร์นี้คือวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสหนึ่งในเกมระดับไอคอนของซีรีส์ Xenoblade Chronicles

เนื้อเรื่อง

ต่างจากโครงสร้างเนื้อเรื่องแบบเส้นตรงของเกมอื่นในซีรีส์ Xenoblade ภาค Chronicles X มาในแนวการเล่าเรื่องแบบเปิดกว้างและสดใหม่ เน้นไปที่การเล่าเรื่องผ่านสิ่งแวดล้อม (environmental storytelling) และการสำรวจที่ขับเคลื่อนด้วยตัวผู้เล่น

เรื่องราวเริ่มต้นจากโลกถูกทำลายลงด้วยสงครามระหว่างกาแล็กซี มนุษยชาติจึงต้องหนีออกจากโลกด้วยยานสำรวจขนาดยักษ์ชื่อว่า White Whale ก่อนที่ยานจะตกลงบนดาวต่างดาวที่ไม่รู้จักมาก่อนชื่อว่า Mira เหล่าผู้รอดชีวิตต้องปรับตัวให้เข้ากับดาวดวงใหม่ พร้อมกับค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่

ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นตัวเอกที่สามารถปรับแต่งได้ตามใจ ซึ่งได้เข้าร่วมองค์กรชื่อว่า BLADE ที่มีหน้าที่ดูแลการอยู่รอดของมนุษยชาติ แต่แทนที่จะเป็นเรื่องราวของ “ตัวเอกฮีโร่” แบบดั้งเดิม เกมกลับเปิดโอกาสให้ผู้เล่นเลือกวิธีการค้นพบความลับของดาว Mira ได้ตามจังหวะของตัวเอง

เกมให้ความสำคัญกับ ภารกิจเสริม (side missions) และ การสร้างโลก (world building) อย่างมาก ทำให้รู้สึกเหมือนคุณคือ “นักสำรวจตัวจริง” ในระบบนิเวศที่ซับซ้อนและลึกลับ

แม้ว่าเนื้อเรื่องหลักจะน่าสนใจ แต่การที่ตัวเอกเป็น “ตัวละครใบ้” (mute protagonist) และความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครที่ยังพัฒนาได้ไม่สุด นับว่าเป็นจุดที่พลาดโอกาสในการสร้างความผูกพันทางอารมณ์กับผู้เล่น อย่างไรก็ตามใน Definitive Edition ก็ได้มีการเพิ่มฉากและบทสนทนาใหม่ ๆ ที่ช่วยเสริมบุคลิกของตัวละคร ทำให้พวกเขามีชีวิตชีวามากขึ้น และเพิ่มน้ำหนักทางอารมณ์ให้กับเรื่องราว

ถึงแม้เกมจะยังขาดความลึกซึ้งทางอารมณ์แบบเกม Xenoblade ภาคอื่น ๆ แต่ Chronicles X ก็ชดเชยด้วยการทำให้การสำรวจโลกเต็มไปด้วยความหมาย ทุกการค้นพบจะค่อย ๆ เปิดเผยความลับของโลกต่างดาวอันกว้างใหญ่ สร้างทั้งความตื่นตา ความสงสัย และความตึงเครียดได้อย่างยอดเยี่ยม จนบางครั้งกลบช่วงเวลาทางอารมณ์ของตัวละครไปเลยด้วยซ้ำ

ระบบการเล่นที่ซับซ้อน และอิสระแบบไร้ขีดจำกัด

Xenoblade Chronicles X มาพร้อมระบบการเล่นที่ดื่มด่ำลึกซึ้ง ตอบแทนผู้เล่นที่วางแผนอย่างมีกลยุทธ์ รู้จักการใช้ประโยชน์จากทีม และสำรวจโลกในเกมอย่างทั่วถึง ระบบการต่อสู้นั้นพัฒนาต่อจากระบบ real-time combat ที่เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ Xenoblade ผสมผสานการโจมตีอัตโนมัติ (auto-attacks) เข้ากับการใช้สกิล Arts แบบกดใช้เอง พร้อมกับการบริหารทรัพยากรที่ซับซ้อน ส่งเสริมให้ผู้เล่นตัดสินใจอย่างมีชั้นเชิงในระหว่างการต่อสู้

หัวใจของระบบการต่อสู้อยู่ที่ การวางตำแหน่ง (positioning), สถานะบัฟและดีบัฟ, และ การจัดการเวลาคูลดาวน์ของ Arts ผู้เล่นจะควบคุมตัวเอกที่ปรับแต่งได้อย่างอิสระ ขณะที่สมาชิกคนอื่นในทีมจะถูกควบคุมด้วย AI แต่ละตัวละครจะมีคลาสเฉพาะที่กำหนดบทบาทของพวกเขาในสนามรบ—ไม่ว่าจะเป็นสายโจมตี (attacker), ป้องกัน (protector) หรือสนับสนุน (support)—รวมถึงสกิล Arts ที่สามารถใช้ได้ ความสามารถในการเปลี่ยนคลาส และทดลองจัดค่าตัวละครในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสไตล์การเล่นได้อย่างอิสระและหลากหลาย

หนึ่งในระบบเด่นคือ Soul Voice system ซึ่งเพิ่มชั้นเชิงใหม่ให้กับการต่อสู้ โดยระหว่างต่อสู้ สมาชิกในทีมจะตะโกนสั่งการพิเศษบางอย่างออกมา ทำให้ผู้เล่นสามารถกดใช้ Arts บางประเภทตามคำแนะนำ เพื่อเรียกเอฟเฟกต์พิเศษ เช่น การฮีลหรือเพิ่มบัฟ สิ่งนี้สร้างจังหวะและไดนามิกในระบบการต่อสู้ที่ต้องอาศัยทั้งความใส่ใจและการตอบสนองอย่างรวดเร็วเพื่อให้ได้ผลสูงสุด

เกมเพลย์จะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อผู้เล่นได้รับ Skell หุ่นยนต์ขนาดยักษ์ที่สามารถขับได้ ซึ่งเปลี่ยนทั้งรูปแบบการต่อสู้และการสำรวจอย่างมาก Skell มอบทั้งทางเลือกเชิงกลยุทธ์ใหม่และการเคลื่อนไหวที่หลากหลาย ทำให้การเดินทางบนดาว Mira กลายเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

Xenoblade Chronicles X ให้อิสระในการสำรวจโลกเปิดที่ยิ่งใหญ่ของมันอย่างแท้จริง ตั้งแต่ก้าวแรกบนดาว Mira ผู้เล่นจะสามารถสำรวจภูมิประเทศที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าทึบ ทะเลทรายโล่ง หรือหน้าผาสูงตระหง่าน ความสามารถในการปีนแทบทุกพื้นผิว รวมถึงการบินด้วย Skell (ที่จะได้ใช้งานในช่วงหลังของเกม) สร้างความรู้สึกถึงมิติความสูงและขนาดของโลกได้อย่างน่าทึ่ง

การสำรวจยังมีมิติเพิ่มขึ้นผ่านระบบ Affinity ซึ่งการพูดคุยกับ NPC, ทำภารกิจ, และค้นพบสถานที่ลับ ๆ จะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกในเกมมากขึ้น ภารกิจเสริมหลายภารกิจมีเนื้อเรื่องและ lore ที่น่าสนใจ ทำให้พวกมันไม่ใช่แค่คอนเทนต์เติมเต็ม แต่เป็นประสบการณ์ที่มีความหมาย

แม้ระบบการต่อสู้จะมีช่วงเริ่มต้นที่ค่อนข้างยากในการเรียนรู้ แต่ผู้ที่อดทนเรียนรู้จะพบว่ามันคุ้มค่าอย่างมหาศาล Definitive Edition ได้ช่วยลดความยากในการเข้าถึงด้วยอินเทอร์เฟซที่ดีขึ้น, ระบบแนะนำที่ชัดเจนกว่าเดิม, และระบบเศรษฐกิจในเกมที่สมดุลยิ่งขึ้น ทำให้เกม RPG ที่มีความทะเยอทะยานนี้เปิดรับผู้เล่นใหม่ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ลดทอนความลึกของระบบเดิมลง

มีอะไรใหม่ใน Definitive Edition?

  • นอกจากเนื้อหาใหม่หลากหลายที่เพิ่มเข้ามาแล้ว Definitive Edition ยังมาพร้อมการปรับปรุงครั้งใหญ่หลายจุดที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ในการเล่นอย่างเห็นได้ชัด:
  • เท็กซ์เจอร์ความละเอียดสูงขึ้น, แสงเงาที่ได้รับการปรับปรุง, และ โมเดลตัวละครที่ละเอียดมากขึ้น ทำให้โลกบนดาว Mira ดูสวยงามกว่าที่เคย
  • การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบช่วยให้เฟรมเรตมีความเสถียรมากขึ้น เพิ่มความไหลลื่นและความดื่มด่ำตลอดทั้งการเล่น
  • UI และเมนู ถูกออกแบบใหม่ให้นำทางได้ง่ายขึ้น ทำให้ระบบต่าง ๆ ที่ซับซ้อนเข้าใจง่ายขึ้นอย่างมาก
  • ระบบ Tutorial ที่อัปเดตแล้วสามารถอธิบายระบบเกมที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้เล่นใหม่
  • เวลาในการโหลดที่สั้นลงช่วยลดช่วงรอยต่อระหว่างการต่อสู้กับการสำรวจ
  • ฉากเพิ่มเติม ที่ใส่เข้ามาให้พื้นหลังของตัวละครหลักลึกซึ้งยิ่งขึ้น และเสริมบริบทให้เนื้อเรื่องหลัก
  • ภารกิจเสริมใหม่ เพิ่มมิติให้กับบทบาทขององค์กร BLADE และบุคลากรภายใน
  • ผู้เล่นสามารถเลือกได้ระหว่าง เพลงประกอบต้นฉบับ หรือ เวอร์ชันรีมาสเตอร์ ที่มีการปรับปรุงด้านเสียง ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับเพลงประกอบฉากต่อสู้ที่เน้นเสียงร้องมากเกินไปในเวอร์ชันดั้งเดิม

การปรับปรุงเหล่านี้แก้ไขหลายสิ่งที่เคยสร้างความหงุดหงิดในเวอร์ชันดั้งเดิม และยกระดับ Xenoblade Chronicles X ให้กลายเป็นประสบการณ์ที่กลมกล่อมและเป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้น UI ที่เรียบง่ายขึ้น, เนื้อหาเสริมด้านเนื้อเรื่อง, และการปรับสมดุล Skell ทำให้ตัวเกมรู้สึก “ทันสมัย” ขึ้นโดยไม่สูญเสียความลึกของระบบเดิม แม้ว่าจะยังไม่สามารถแก้จุดอ่อนในเชิงการเล่าเรื่องได้ทั้งหมด แต่เนื้อหาเสริมเหล่านี้ก็ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร และทำให้เวอร์ชันนี้กลายเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสัมผัสกับ RPG ที่ทะเยอทะยานเกมนี้

สรุป รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition

Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition ประสบความสำเร็จในการนำหนึ่งในเกม RPG โลกเปิดที่ทะเยอทะยานที่สุดมาสู่ผู้เล่นในวงกว้างขึ้น แม้ว่ารูปแบบการเล่าเรื่องอาจจะไม่สามารถแตะอารมณ์ลึกเท่ากับภาคอื่น ๆ ในซีรีส์ Xenoblade ได้ แต่ก็ชดเชยด้วยการสำรวจโลกที่ไร้ขอบเขต ระบบเกมที่ลึกซึ้ง และโลกต่างดาวที่มีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง

การอัปเกรดต่าง ๆ ในเวอร์ชัน Definitive Edition แก้ไขข้อด้อยหลายประการจากต้นฉบับ ทำให้มันกลายเป็นโอกาสที่สมบูรณ์แบบทั้งสำหรับผู้เล่นหน้าใหม่และแฟนเดิมในการออกผจญภัยบนดาว Mira สำหรับผู้ที่พร้อมจะดำดิ่งสู่ระบบเกมอันซับซ้อนและโครงสร้างแบบเปิดกว้าง Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition คือหนึ่งในประสบการณ์ RPG ที่ทั้งแตกต่างและน่าจดจำที่สุดบน Nintendo Switch

คะแนน 8.5/10

ข้อดี

  • โลกเปิดที่สวยงามและกว้างใหญ่ สำรวจได้อย่างสนุกและเต็มไปด้วยความน่าค้นหา
  • ระบบการต่อสู้ที่ซับซ้อน ปรับแต่งได้สูง และให้รางวัลกับผู้ที่เข้าใจกลไกต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง
  • อัปเกรดด้านกราฟิก UI และประสิทธิภาพอย่างชัดเจน ทำให้ประสบการณ์ลื่นไหลขึ้นมาก
  • มีการเพิ่มเนื้อเรื่องเสริมและภารกิจรองที่ช่วยขยายมิติของโลกและตัวละคร
  • ปรับปรุงหลายจุดด้าน Quality of Life ให้ผู้เล่นเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้นและสะดวกมากกว่าเดิม

ข้อเสีย

  • ผู้เล่นจำเป็นต้องเข้าใจระบบการต่อสู้และสายอาชีพของตัวละครให้ดี มิฉะนั้นอาจสับสน
  • โครงสร้างภารกิจหลักยังมีจุดบกพร่อง และภารกิจย่อยบางส่วนค่อนข้างน่าเบื่อ
  • ตัวเอกที่ไม่มีเสียงพูด (Mute Protagonist) ทำให้เรื่องราวโดยรวมขาดอารมณ์ร่วมเทียบกับภาคอื่นในซีรีส์

อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

Tags: NintendoNintendo SwitchReviewXenobladeXenoblade Chronicles X: Definitive Edition
ShareTweetPin
Previous Post

บทสัมภาษณ์พิเศษ Do the Game ที่มาของสารคดีที่ตีแผ่กระบวนการสร้างเกม

Next Post

[SEA Exclusive] บทสัมภาษณ์ Jennifer English การสร้างตัวละครให้มีชีวิตใน Clair Obscur: Expedition 33

Norrachai Anansakdakul

Norrachai Anansakdakul

Book - เภสัชกรผู้เสพติดเกม รวมถึงชอบงานเขียน สามารถหายไปเป็นวัน เพราะการเล่นเกม Turn Base Strategy ได้

Related Posts

พรีวิว Shadow Labyrinth – PAC Man ในโลกมืดที่ทำคุณหัวร้อนได้ง่ายๆ
ทั้งหมด

พรีวิว Shadow Labyrinth – PAC Man ในโลกมืดที่ทำคุณหัวร้อนได้ง่ายๆ

June 23, 2025
บทสัมภาษณ์ Shadow Labyrinth กับ โปรดิวเซอร์ Seigo Aizawa
ทั้งหมด

บทสัมภาษณ์ Shadow Labyrinth กับ โปรดิวเซอร์ Seigo Aizawa

June 23, 2025 - Updated on June 24, 2025
รีวิว Death Stranding 2: On the Beach – การอัปเกรดที่ไม่ใช่แค่ ส่งของ Simulator อีกต่อไป
Playstation

รีวิว Death Stranding 2: On the Beach – การอัปเกรดที่ไม่ใช่แค่ ส่งของ Simulator อีกต่อไป

June 23, 2025
Next Post
[SEA Exclusive] บทสัมภาษณ์ Jennifer English การสร้างตัวละครให้มีชีวิตใน Clair Obscur: Expedition 33

[SEA Exclusive] บทสัมภาษณ์ Jennifer English การสร้างตัวละครให้มีชีวิตใน Clair Obscur: Expedition 33

Discussion about this post

ติดตามเราได้ที่ Facebook

รีวิว

พรีวิว RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army – การคืนชีพเกมคลาสสิกที่มีแนวทางแตกต่างจากแฟรนไชส์
ทั้งหมด

รีวิว RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army

June 19, 2025
พรีวิว Digimon Story Time Stranger – การพัฒนาก้าวกระโดดที่เข้าใจง่ายแต่แรกเห็น
ทั้งหมด

พรีวิว Digimon Story Time Stranger – การพัฒนาก้าวกระโดดที่เข้าใจง่ายแต่แรกเห็น

June 18, 2025
พรีวิว Borderlands 4 – ระบบสำรวจใหม่ พร้อมตัวละครแหวกแนวอย่าง Vex
Playstation

พรีวิว Borderlands 4 – ระบบสำรวจใหม่ พร้อมตัวละครแหวกแนวอย่าง Vex

June 18, 2025
พรีวิว Duet Night Abyss – เกมกาชาที่ดูมี potential
ทั้งหมด

พรีวิว Duet Night Abyss – เกมกาชาที่ดูมี potential

June 17, 2025
คุยหลังเล่น พรีวิว Towa and the Guardians of the Sacred Tree – Roguelite ผสม Waifu
Nintendo Switch

คุยหลังเล่น พรีวิว Towa and the Guardians of the Sacred Tree – Roguelite ผสม Waifu

June 12, 2025
คุยหลังเล่น พรีวิว Onimusha: Way of the Sword – การกลับมาของเกมระดับตำนาน
Playstation

คุยหลังเล่น พรีวิว Onimusha: Way of the Sword – การกลับมาของเกมระดับตำนาน

June 12, 2025
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

No Result
View All Result
  • Home
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • เกี่ยวกับเรา

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In