ต้องบอกไว้ก่อนว่าผู้เขียนคือแฟนคลับของเกมแฟรนไชส์ Zelda เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และ The Legend of Zelda: Tears of The Kingdom คือการต่อยอดจากภาค BOTW ที่ยอดเยี่ยม
The Legend of Zelda: Tears of The Kingdom คือการขยายตัวเกมจากภาค Breath of the Wild ให้กว้างขวางขึ้นในแง่ของอิสระ แต่ก็ยังคงเก็บจุดเด่นจากภาคก่อนหน้าไว้ได้เกือบทั้งหมด ทั้งระดับของความ Open World, Puzzle Dungeon ที่เยอะและเหมือนเราได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอด ทำให้ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นสาย Hardcore เน้นผ่านด่านเคลียร์ทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว หรือสายชิลสำรวจโลกไปเรื่อยๆ ก็สามารถสนุกไปกับเกมได้ทั้งคู่
หายนะกลับมาอีกครั้ง
ก่อนรีวิวส่วนอื่นต้องพูดถึงเนื้อเรื่องคร่าวๆ ก่อน โดยในภาคนี้เกิดสิ่งที่เรียกว่า The Gloom ขึ้นสร้างความเสียหายไปทั่ว Hyrule Zelda และ Link เลยช่วยสำรวจเพื่อยับยั้งที่มา แต่ก็กลายเป็นการปลุกให้ Ganondorf ตื่นขึ้นมาอีกรอบ หลังจากสู้แพ้ Ganondorf Link ก็ตื่นมาพบว่าตัวเองอยู่ด้านนอกแล้วแต่ Zelda หายตัวไปทำให้ตัวเอกของเราต้องออกตามหาเจ้าหญิงและแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กลับมาปกติอีกครั้ง
Zelda ไม่ได้ถูกลักพาตัวแล้ว
ความแตกต่างของภาคนี้คือ Zelda นั้นไม่ได้ถูกลักพาตัวแบบเดิมๆ ทำให้เป็นการเสริมเนื้อเรื่องว่าหลังจากเหตุการณ์ในช่วงต้นนั้น Zelda กำลังทำอะไรอยู่ แล้วหายตัวไปไหน
สำหรับเนื้อเรื่องหลักใน TOTK ยังใช้ระบบเหมือน BOTW คือการที่เล่าผ่านความทรงจำที่เก็บได้จากภารกิจหลัก ที่เน้นการสำรวจ ซึ่งบางคนอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่สำหรับตัวคนเขียนก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะก็มองว่าเป็นหนึ่งในวิธีการเล่าเรื่องเช่นเดียวกันอาจจะไม่ได้ตรงไปตรงมา แต่ก็เป็นจุดเด่นของแฟรนไชส์ Zelda ไปแทน
ระบบ Open World นำร่อง
เรียกว่าตั้งแต่ภาค BOTW ระบบ Open World ของเกมในแฟรนไชส์นี้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว สำหรับความตื่นเต้นในภาค TOTK อาจจะไม่ได้เยอะระดับนั้นเพราะตัวแผนที่จะคล้ายคลึงกับภาค ก่อนหน้า แต่ระบบ Open World ที่ยกมาก็เป็นของจริง คือเกมไม่บอกอะไรเลย อยากทำอะไรก็ทำได้ ถ้ารู้ตำแหน่ง Final Boss จะเดินตัวเปล่าไปสู้ก็ยังได้
แต่สำหรับคนที่จะยังเล่นตามเกมทั่วไป สำหรับตัวเควสเนื้อเรื่อง เกมก็จะระบุชัดเจนว่าต้องไปตรงไหนอย่างไร (ซึ่งแบ่งออกเป็นเมืองหลัก) แล้วหลังจากที่เราผ่านเนื้อเรื่องมาสักพัก ก็จะเริ่มเข้าสู่เวลาเถลไถล เมื่อเกมบอกระบบการสร้างสิ่งของ นั่นแหละความ Open World จะเข้ามาอย่างเต็มที่
ถึงแม้จะคล้ายกับภาคก่อนหน้าอย่างมากแต่ TOTK ก็ไม่ใช่ DLC ที่ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม แต่คือเกมใหม่ที่ดึงระบบต่างๆ จากภาคก่อนหน้ามาใช้งาน โดยในภาคนี้การสำรวจกว้างขวางแบบสุดๆ นอกจากพื้นที่ทั่วไปรวมถึงดันเจี้ยน ยังมีเกาะลอยฟ้าและเหมืองใต้ดินให้สำรวจ ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีความโดดเด่นแตกต่างกันไปทั้งสภาพแวดล้อม ศัตรูชนิดใหม่
อย่างพื้นที่ใต้ดินคือเปิดประสบการณ์ใหม่อย่างชัดเจนแล้วยังมีลูกเล่นใส่เข้าไปอีก ซึ่งต้องบอกว่ามืดโคตรๆ ถ้าเตรียมตัวมาไม่ดีพอ
ระบบดันเจี้ยน Shrine และภารกิจ
อย่างที่เกริ่นก่อนหน้าคือแม้เกมจะเป็น Open World เอามากๆ และแทบไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรเลยแต่ว่าภารกิจเนื้อเรื่องหลักจะถูกวางให้อยู่ในเฉพาะ 4 สถานที่หลักในเกมทำให้ไม่ยุ่งยากนักหากจะหันมาเก็บเนื้อเรื่องหลัก แต่ตัวเควสรองแต่ละเควสก็เหมาะสมแก่การออกนอกลู่นอกทางพอสมควร
ในส่วนของดันเจี้ยน ซึ่งทำได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้วใน BOTW มาในภาคนี้ก็เช่นกันโดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ใหม่ในดันเจี้ยน โดยแต่ละสถานที่ก็จะมีเอกลักษณ์ต่างกันไป แต่ถึงกระนั้นเกมก็ไม่ได้บังคับให้คุณไปลงดันเจี้ยน ไขปริศนาใน Shrine หรือทำเควสรอง หากเล่นแต่เควสหลักก็สามารถจบเกมได้เช่นกัน เรียกว่าเปิดทางเลือกให้ผู้เล่นแบบไม่บีบคั้นไปในทางใดทางหนึ่งมากนัก
ระบบการต่อสู้
เรียกว่าดึงจากภาคก่อนมาแบบเต็มๆ หากใครเป็นผู้เล่นที่มีประสบการณ์ก็คือไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ระบบการต่อสู้ก็ไม่ได้เข้าใจยากนัก ทั้งอาวุธใกล้และไกล
ข้อเสียอย่างหนึ่งคืออาจจะไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นใหม่มากเท่าที่ควร เพราะมอนสเตอร์รวมถึงบอสในภาคนี้ตีแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ถ้าในตอนแรกยังไม่ชินกับระบบควบคุมเผลอๆ บางทีอาจจะมีนอนลงไปกองกับพื้นแล้วก็ได้
ส่วนระบบอาวุธพัง ซ่อมอาวุธ แล้วก็ขัดอาวุธยังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนคงบอกว่าไม่ได้ดีขึ้นและแย่ลง เพราะเราก็สามารถวางแผนที่จะมีอาวุธได้หลายชิ้นก่อนจะไปสู้กับเหล่ามอนสเตอร์ได้
สุดยอดเทคโนโลยี
นี่แหละคือสิ่งที่ทำให้คนเล่นภาคนี้ไม่ต้องไปทำอะไรอีกแล้ว พร้อมทั้งหายไปในเกมเป็นอาทิตย์ได้แบบสบายๆ ที่จริงมันคือหนึ่งในสกิลใหม่ที่ตัว Link จะได้เรียนรู้ในภาคนี้
อย่างสกิล Fuse ที่จะรวมอาวุธเรากับของอะไรก็ได้ ซึ่งทำให้อาวุธดาดๆ โกงขึ้นมาทันทีหากใช้ได้อย่างถูกต้อง ทั้งยังเปิดให้เราลองเอาอาวุธไปรวมกับสิ่งอื่นได้เรื่อยๆ ตามที่จินตนาการของเราจะทำได้
และสกิลที่สำคัญที่สุดอย่าง Ultra Hand ที่ถ้าไม่มีสกิลนี้ผู้เขียนอาจจะมองว่า TOTK ไม่ได้สดใหม่ระดับนี้ก็ได้ เพราะการที่สกิลนี้ทำให้สิ่งของมาติดกัน สามารถสร้างอะไรก็ได้ที่เรียกว่าโกงเกมได้เลยทีเดียว คิดง่ายๆ อย่างการไปเกาะลอยฟ้า เราก็เอาไม้ต่อกันไปเรื่อยๆ แทนที่จะไปหาเงื่อนไขขึ้นเกาะ หรือถ้าสร้างสรรค์สุดๆ การสร้างเทคโนโลยีทั้งรถ เรือ เครื่องบิน ลากยาวไปถึงกันดั้ม รถถัง เครื่องยิงเลเซอร์ เรียกว่ามั่วซั่วแต่สนุกโคตรๆ เพราะได้ดึงศักยภาพของผู้เล่นในการสรรค์สร้างอย่างเต็มที่ ลองคิดว่าในตอนแรกรถที่เราสร้างยังวิ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่เมื่อเราเล่นจนชำนาญ เราสามารถสร้างเครื่องบินรบทิ้งระเบิดได้ มันโคตรเจ๋งไปเลย
หรืออย่างสกิลอื่น ascend และ recall ก็มีประโยชน์และช่วยให้เล่นเกมได้สะดวกขึ้น รวมถึงยังเห็นบางคนเอาไปใช้สู้ได้ด้วยก็มี
กราฟฟิคที่อยู่ในระดับพอใช้ได้
อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับหลายคนเรื่องกราฟฟิค เนื่องจากเครื่อง Nintendo Switch นั้นก็วางจำหน่ายมาหลายปีแล้ว ทำให้การดันคุณภาพของภาพในเกมไม่ได้ออกมาสวยหรูเวอร์วังอลังการมาก จนหลายคนอาจจะไม่ชอบเลยทีเดียว แต่ส่วนตัวแล้ว ตัวเกมก็ไม่ได้แย่มากนักในเรื่องกราฟฟิค เรียกว่าไปสุดด้วยซ้ำด้วยความสามารถของตัวเครื่อง Switch เอง
อีกส่วนหนึ่งคือ Frame rate ภายในเกมที่อยู่ 30 FPS ซึ่งในสายตาทั่วไปอาจจะไม่ได้แย่นัก แต่ว่าก็มีหลายคนที่เข้าสู่ยุค 60 FPS กันแล้วเลยมองว่าเป็นปัญหา แต่อันนี้โดยรวมก็ไม่ได้กระทบกับการเล่น เนื่องจากผู้เขียนก็ไม่ได้เจอ FPS Drop หรืออาการแลคภายในเกมแต่อย่างใด (อาจจะยกเว้นเวลาสร้างอะไรอลังการเอฟเฟคเต็มหน้าจอ ซึ่งก็เข้าใจได้ที่ FPS จะร่วง)
สรุปรวม
The Legend of Zelda: Tears of The Kingdom ยังเป็นภาคที่ดึงจุดขายของแฟรนไชส์อย่าง Open World มาใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมถึงพัฒนาความ Open World เข้าไปด้วยระบบสรรค์สร้าง ซึ่งทำให้เรามีอิสระอยากทำอะไรก็ได้เข้าไปอีกแบบแทบไม่มีขีดจำกัด
นอกจากนี้ด้วยขนาดแผนที่ ที่กว้างขึ้นอย่างมาก (เนื่องจากมีเกาะลอยฟ้า และใต้ดิน) ทำให้การสำรวจรวมถึงประสบการณ์ที่ได้รับเพิ่มเติมเข้าไปอีก ถึงแม้ผู้เขียนจะเล่นเกมนี้เป็นเวลาสักพักแล้ว แต่ก็ไม่ได้ใกล้กับการเคลียร์เนื้อเรื่องแต่อย่างใด เนื่องจากเพลินไปกับการฟาร์มของ คราฟของแบบไม่หยุด ซึ่งนั่นแหละคือข้อสรุปของเกมว่ามันดีพอที่จะทำดูดเวลาคนเล่นได้เลยทีเดียว
ข้อดี | ข้อเสีย |
– มีแผนที่ใหม่เพิ่มเติมนอกจาก Hyrule ปกติ – ระบบการสร้างของทำให้เล่นเกมได้นานมากๆ ด้วยจินตนาการที่ต้องการ – ดันเจี้ยนมีการปรับปรุงให้น่าค้นหามากขึ้น | – เกมถูกสร้างบน Nintendo Switch อาจจะทำให้ดึง Frame rate และกราฟฟิค ไม่ได้สูงเท่าที่ควร – คนที่ไม่ชอบการเล่นที่อิสระเกินไปอาจจะกลายเป็นเเบื่อได้แทน |
สรุปคะแนนรวม 9/10
The Legend of Zelda: Tears of The Kingdom วางจำหน่ายบน Nintendo Switch แล้ววันนี้
Discussion about this post