Team Ninja เป็นอีกหนึ่งในทีมพัฒนาที่มักสร้างเกมที่มีความท้าทายในการต่อสู้สูง ซึ่งคราวนี้มาจับแนวเกม open-world เป็นครั้งแรกในชื่อ Rise of the Ronin ซึ่งประกาศตัวเกมไปเมื่อหลายปีก่อนและใกล้จะถึงวันวางจำหน่ายแล้ว มาดู พรีวิว Rise of the Ronin กันว่าตัวเกมจะมีแนวทางโดยรวมเป็นอย่างไร
ทีมของเราได้รับโอกาสจาก Sony Interactive Entertainment Asia ที่ได้ทดสอบเกมก่อนล่วงหน้า แต่ว่าจะมีแค่ส่วนต้นเกมเท่านั้นทีเราจะพูดถึง(และไม่สปอยล์เนื้อเรื่อง) ซึ่งอย่างน้อยก็พอจะเป็นแนวทางให้ทุกคนได้รับรู้ว่าภาพรวมของเกมจะเป็นอย่างไร
เกริ่นนำ
ก่อนจะเริ่มบรรยายถึงสิ่งที่ได้สัมผัสมา ก็ต้องเล่าถึงตัวเกมก่อนเล็กน้อย สำหรับ Rise of the Ronin คือเกม RPG IP ใหม่เอี่ยมจาก Team Ninja ซึ่งเป็นความท้าทายอย่างมากของทีมพัฒนาด้วยการเพิ่มระดับเกมไปสู่ open-world
และถึงแม้ว่าเกมของ Team Ninja จะขึ้นชื่อในเรื่องความยากอยู่พอตัว แต่ว่า Rise of the Ronin ทางทีมวางแผนจะเข้าถึงคนหลากหลายกลุ่มมากขึ้น ทำให้มีระบบปรับระดับความยากเพิ่มเข้ามา เพื่อตอบสนองทั้งผู้เล่นใหม่ และผู้เล่นที่ต้องการความยาก ความท้าทาย
ข้อมูลคร่าวๆ
อย่างที่บอกไปว่าในเกมนี้เราสามารถปรับระดับความยากได้ โดยระดับความยากที่ให้เลือกได้แก่ Dawn, Dusk และ Twilght ซึ่งมีข้อดีก็คือว่าเราสามารถปรับระดับเมื่อไหร่ก็ได้ หากรู้สึกว่าเกมยากเกินไปก็ปรับลด หรือถ้าง่ายเกินไปก็ปรับเพิ่มได้ทันทีระหว่างเกม
หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่หน้าการสร้างตัวละคร ซึ่งมีทั้งตัว ชาย และ หญิง เพราะว่าในเกมนเนื้อเรื่องจะดำเนินผ่านตัวเอกสองตัวละครพร้อมกัน ส่วนในด้านความหลากหลายของการปรับแต่งตัวละครเรียกว่ามาอย่างเพียงพอเหมือนกับเกมก่อนหน้าของทีม แต่ถึงจะบอกว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินผ่าน 2 ตัวละคร แต่ว่าตัวหลักที่เราจะเล่นมีแค่ตัวเดียวถ้าไม่คิดอะไรมากก็สามารถใส่ใจการปรับแต่งแค่ตัวละครหลักก็ได้
ส่วนต่อมาคือการเลือกอาชีพ(Class) ซึ่งประกอบไปด้วย Killer, Breaker, Seducer, Sapper, Beginner และ Unsharpened ซึ่งแต่ละคลาสก็จะมีจุดเด่นต่างกันออกไป ทั้งสกิลพิเศษ ค่าสถานะ รวมถึงอาวุธที่เหมาะสม
หลังจากนั้นก็ได้เวลาเข้าสู่โลกของ Rise of the Ronin ที่จะเกริ่นนำเกี่ยวกับเนื้อเรื่องความเป็นไปตั้งแต่เริ่มจนตัวละครออกมาผจญภัยในฐานะ Ronin ข้อดีสำหรับมือใหม่ก็คือมีภารกิจที่เป็นดั่ง tutorial ให้ ดังนั้นจะไม่ใจร้ายเกินไป อีกทั้งในส่วนของ tutorial ก็มีอิสระพอสมควรทำให้ผู้เล่นที่ชำนาญไม่รู้สึกเบื่อเท่าไหร่
สิ่งที่ทางทีมพัฒนาทำได้อย่างยอดเยี่ยมก็คือความลื่นไหลในการเคลื่อนไหวของตัวละคร ทั้งการหลบซ่อน (หลายคนบ่นเรื่องนี้ใน Wo Long) มีอาวุธให้เลือกใช้หลากหลายตามสถานการณ์ ยังคงสร้างคอมโบตื่นตาตื่นใจได้แบบ Nioh
สำหรับในส่วน tutorial ก็จะมีบอสให้เราสู้เช่นกัน ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่ถูกจริตบางคนเพราะว่าเกมบังคับให้เราใช้ดาบเป็นหลัก แต่มาคิดถึงความเป็นจริงนั้นก็ถูกต้องแล้ว เมื่อรวมกับความที่ว่าบอสจะไม่แฟนตาซีแบบเกมอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเกมมีความสมจริงอยู่ในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งทำให้เกมเพลย์ในส่วนการต่อสู้มีความซับซ้อนขึ้นเช่นกัน(แต่เราจะเก็บส่วนนี้ไปเขียนในรีวิวเต็มอีกที)
Open-World เกมแรกจาก Team Ninja
ไม่นานหลังจากผ่านภารกิจ tutorial และเนื้อเรื่องอีกเล็กน้อย ความเป็น open-world ก็ได้เริ่มต้น ตัวเราสามารถไปไหนก็ได้ตามที่ต้องการ ทำภารกิจเสริม มุ่งเน้นเนื้อเรื่อง ไล่ฟาร์มของแล้วแต่เราจะเป็นคนเลือก ซึ่งถือว่าให้ความสดใหม่ในการเล่นเกมแนวนี้พอสมควร ยิ่งเมื่อเทียบกับเกมอื่นๆ ของ Team Ninja ซึ่งถือว่าทีมพัฒนาสอบผ่านในการทำเกม open-world เป็นครั้งแรก an
ส่วนหลักส่วนหนึ่งที่จะพูดถึงในพรีวิวนี้คือ Public Order ซึ่งจะเป็นพื้นที่ซึ่งถูกปกครองโดยเหล่าโจร หากเราสามารถกวาดล้างไปได้ ชาวบ้านในพื้นที่นั้นก็จะมีความสัมพันธ์อันดีกับคุณ มีการตั้งรกรากให้เห็นชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เปิดโอกาสให้เราซื้อขายสินค้า คราฟของพิเศษตามแต่ละจุด ซึ่งเป็นส่วนที่ผลาญเวลามากพอตัวเลยทีเดียว (ในส่วนอื่นๆ ขอเก็บไว้ในรีวิวเต็มภายหลัง)
ความรู้สึกที่ได้เล่นมาจนถึงตอนนี้
ถึงแม้ว่าส่วนที่เล่นมาจะยังไม่ได้เข้าถึงตัวเกมหลักจริงๆ มากนัก แต่ว่าอย่างน้อยเท่าที่สัมผัสมา Rise of the Ronin นั้นคือเกมที่ทาง Team Ninja พัฒนาขึ้นมาอย่างใส่ใจ ใส่ความทะเยอทะยานในการยกระดับเกมของทีม และมันได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีในฐานะเกม open-world มารอดูกันว่าเมื่อเล่นเกมเต็มมาแล้วความรู้สึกจะเป็นอย่างไร
Rise of the Ronin เตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 22 มีนาคม 2024 บน PlayStation 5 ที่สำคัญรองรับภาษาไทยภายในเกมด้วย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้าร้านค้าของ PlayStation Store
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post