งาน Tokyo Game Show 2025 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ได้มีการเปิดให้พรีวิวส่วนเสริมขนาดใหญ่ของ Crusader Kings III อย่าง All Under Heaven ก่อนใคร และเราก็บังเอิญได้รับโอกาสให้ลองเล่นก่อนเป็นเวลา 30 นาที ในการเล่นเป็น Lu Ci ขุนนางศักดินาภายใต้จักรพรรดิ Yizong แห่งราชวงศ์ถังในปี 867 ส่วนเสริมนี้ได้แสดงให้เห็นในทันทีว่าเอเชียตะวันออกนำเสนอกลไกและการเล่าเรื่องที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากประสบการณ์เกมแนววางแผนกลยุทธ์ระดับมหภาคที่เน้นยุโรปเป็นหลักตามแบบฉบับดั้งเดิม
เส้นทางของเหตุการณ์ที่หล่อหลอมเรื่องราว
สิ่งแรกที่ดึงดูดความสนใจของเราคือการที่เกมนำเสนอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเข้ามาอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์แรกๆ ที่เกิดขึ้นคือมีเด็กคนหนึ่งมาอ้างว่าตัวละครของเราเป็นพ่อแท้ๆ ของเขา และเราต้องตัดสินใจว่าจะปฏิเสธ, ยอมรับ หรือใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว แต่สถานการณ์ก็บานปลายอย่างรวดเร็ว ระหว่างการเดินทางทางการทูต ตัวละครของเราถูกซุ่มโจมตีและปล้น จากนั้นก็หลงทางและอดตายในที่สุด แทนที่เกมจะจบลง เรื่องราวกลับดำเนินต่อไปอย่างราบรื่นโดยที่ลูกของเราขึ้นมาสืบทอดแทน นี่คือสิ่งที่ทำให้ Crusader Kings มีเอกลักษณ์: การเปลี่ยนช่วงเวลาส่วนตัวให้กลายเป็นละครชีวิตครอบครัวที่ดำเนินต่อไปข้ามรุ่น
การเล่นภายใต้ราชวงศ์ถังให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากการเล่น Crusader Kings III ตามปกติอย่างมาก ราชสำนักเต็มไปด้วยพิธีกรรมและระบบข้าราชการ ที่ซึ่งชื่อเสียงมีความสำคัญพอๆ กับกำลังทหาร ตัวละครไม่ได้เป็นเพียงขุนนางที่กระหายอำนาจเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้กับค่านิยมแบบขงจื๊อ เกียรติยศของวงศ์ตระกูล และสิ่งที่เรียกว่า Mandate of Heaven แทนที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงดินแดนอยู่ตลอดเวลา ช่วงต้นเกมของเราส่วนใหญ่เน้นไปที่การเอาตัวรอดในแวดวงการเมือง การทำตามคำสั่งของจักรพรรดิ และการรักษาความปลอดภัยภายในวัง รายละเอียดทางประวัติศาสตร์ เช่น การสอบคัดเลือกขุนนาง การเลื่อนตำแหน่งตามความสามารถ และการรุ่งเรืองและล่มสลายของราชวงศ์ ทำให้โลกรู้สึกสมจริงและมีรากฐานที่มั่นคง

แผนที่ที่ใหญ่ขึ้นพร้อมพื้นที่ใหม่
All Under Heaven ขยายแผนที่ของเกมออกไปกว่า 30% ด้วยการเพิ่มประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ามา ซึ่งเป็นการเปิดดินแดนใหม่ๆ ให้สำรวจ พิชิต และปกครอง ประเทศจีนถูกสร้างขึ้นโดยมีระบบ Mandate of Heaven เป็นศูนย์กลาง ซึ่งผู้เล่นจะต้องนำทางผ่านวัฏจักรของความมั่นคงและความโกลาหล ผู้เล่นสามารถมุ่งมั่นที่จะเป็น Hegemon โดยใช้ระบบ Imperial Examination ที่อิงตามความสามารถ หรือจัดการคลังหลวง (Imperial Treasury) เพื่อสนับสนุนโครงการต่างๆ หรือรับมือกับเหตุฉุกเฉิน
ญี่ปุ่นจะเน้นไปที่การเมืองของตระกูลและการสงครามของซามูไร ผู้เล่นสามารถนำพาตัวเองไปสู่การเป็น Shogun หรือผู้สำเร็จราชการแทนจักรพรรดิ (Kampaku) หรือพยายามฟื้นฟูอำนาจให้กับจักรพรรดิผ่านเส้นทางที่แตกต่างออกไป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ระบบการปกครองแบบ Mandala ซึ่งผู้ปกครองจะต้องสร้างสมดุลระหว่างรัฐบริวารต่างๆ ในฐานะ Devaraja (เทวราชา) ผู้เล่นจะต้องตัดสินใจว่าจะเป็นผู้นำประเภทใด โดยมีพิธีกรรมและวัดวาอารามเป็นแกนหลักในการสร้างความชอบธรรมทางอำนาจ

สรุป เดโม Crusader Kings III: All Under Heaven
แม้จะใช้เวลาเล่นเพียง 30 นาที แต่ All Under Heaven ก็แสดงให้เห็นว่าทำไม Crusader Kings III ถึงน่าหลงใหลขนาดนี้ เกมนี้ไม่ใช่แค่การชนะสงคราม แต่เป็นการเฝ้าดูเรื่องราวส่วนตัวคลี่คลายกลายเป็นมหากาพย์ที่ยาวนานข้ามรุ่น การเล่นเป็น Lu Ci ในช่วงราชวงศ์ถังทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ ของปริศนาที่ใหญ่กว่า คอยตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวอยู่ตลอดเวลา
เหตุการณ์แบบสุ่มทำให้เกมรู้สึกคาดเดาไม่ได้และน่าติดตาม ขณะหนึ่งเรากำลังพิจารณาว่าจะรับเด็กคนหนึ่งเป็นลูกของเราหรือไม่ อีกขณะหนึ่งเราก็ต้องเผชิญกับผลที่ตามมาของการถูกปล้นและหลงทาง สถานการณ์เหล่านี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าถูกยัดเยียด แต่เหมือนเป็นส่วนหนึ่งตามธรรมชาติของเรื่องราวที่ใหญ่กว่าและดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
All Under Heaven ไม่ใช่แค่ดินแดนใหม่ให้สำรวจ ส่วนเสริมนี้นำเสนอวิธีการเล่าเรื่องและการเล่นแบบใหม่ ทำให้ชีวิตของผู้ปกครองทุกคน, มรดกของทุกตระกูล และทุกวิกฤตการณ์รู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ใหญ่กว่า ด้วยเหตุการณ์ที่ซับซ้อน ความขัดแย้งในครอบครัว และความสมดุลระหว่างประเพณีกับความทะเยอทะยาน ส่วนเสริมนี้ตั้งเป้าที่จะมอบประสบการณ์ใหม่ที่หลากหลาย

Crusader Kings III: All Under Heaven จะวางจำหน่ายในวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ผู้เล่นที่สนใจในเนื้อเรื่องใหม่และโอกาสในการสวมบทบาทที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นน่าจะตั้งตารอการเปิดตัวอย่างใจจดใจจ่อสำหรับส่วนเสริมนี้แน่นอน
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post