การรอคอยอันยาวนานของแฟน ๆ เกม Digimon Story ได้สิ้นสุดลงแล้วในปีนี้ กับการเปิดตัวภาคล่าสุด Digimon Story: Time Stranger ที่เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ไม่แพ้การผจญภัยในโลกดิจิตอลที่แฟน ๆ คุ้นเคย Bandai Namco ลงทุนทั้งเวลาและทรัพยากรในการพัฒนาเกมภาคนี้ เพื่อขยายขอบเขตทั้งด้านระบบการเล่นและเนื้อหาให้มากขึ้นกว่าที่เคยมีมา และจากที่ทีมงานของเราได้มีโอกาสลองเล่นตัวอย่างเกมจากงานพรีวิวพิเศษที่สำนักงานใหญ่ Bandai Namco ประเทศสิงคโปร์ บอกได้เลยว่า นี่คือเกม Digimon Story ที่น่าจับตาที่สุดในรอบหลายปี

หลังจากได้ลองเล่นประมาณ 15 นาทีบนเครื่อง PS5 ความประทับใจแรกที่เกิดขึ้นคือความรู้สึกที่สดใหม่แต่ยังคงกลิ่นอายแบบดั้งเดิมของซีรีส์ไว้อย่างชัดเจน เกมภาคนี้แนะนำระบบ Digivice ที่ใช้ในระหว่างการสำรวจ ทำให้ผู้เล่นสามารถสแกนพื้นที่โดยรอบ เพิ่มลูกเล่นและความมีชีวิตชีวาให้กับการผจญภัยนอกเหนือจากการต่อสู้ ผู้เล่นสามารถพา Digimon หลักได้ 3 ตัว และมีตัวสำรองอีก 3 ตัว ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดทีม
แม้ว่า Digimon บางตัวจะไม่สามารถขี่ได้ระหว่างการสำรวจ แต่แต่ละตัวจะมีลักษณะนิสัยเฉพาะตัว และยังมีบทบาทในการวิวัฒนาการ (Digivolution) เช่นเดียวกับภาคก่อน ๆ ระบบวิวัฒนาการยังคงต้องมีเงื่อนไขเฉพาะ เช่น การใช้ Digi-Egg สำหรับการวิวัฒนาการแบบ Armor Digivolution อีกหนึ่งจุดที่ถูกนำกลับมาคือ การรีเซ็ตเลเวลกลับไปที่ 1 เมื่อวิวัฒนาการ Digimon ซึ่งเป็นระบบที่ทำให้การวางแผนทีมลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ระบบการต่อสู้ในภาคนี้ผสมผสานระหว่างกลไกดั้งเดิมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ทำให้รู้สึกสดใหม่อย่างชัดเจน วงจรสามเหลี่ยมของธาตุ แบบเป่ายิงฉุบ (วัคซีน > ไวรัส > ดาต้า > วัคซีน) ยังถูกนำมาใช้ และมีการปรับปรุงด้วยการ สลับ Digimon กลางการต่อสู้โดยไม่เสียเทิร์น เพิ่มมิติให้กับเกมเพลย์
หนึ่งในระบบใหม่ที่โดดเด่นคือ CP (Critical Point) ที่เพิ่มความซับซ้อนให้กับการต่อสู้ โดยศัตรูจะได้รับสถานะพิเศษหรือจำนวนการโจมตีมากขึ้นเมื่อ CP เพิ่มขึ้น หากผู้เล่นโจมตีจุดอ่อนของศัตรูจะเป็นการเพิ่ม CP ให้ฝ่ายศัตรู ทำให้เกิดความเสี่ยงแลกกับความแรงในการโจมตี ผู้เล่นสามารถลด CP ของศัตรูได้โดยการเพิ่ม CP ฝั่งตนเอง ทำให้ทุกเทิร์นในการต่อสู้ต้องคิดให้รอบคอบมากขึ้น

อีกสิ่งหนึ่งที่เราชอบมากคือการแยกระหว่าง Special Skill และ Attachment Skill โดย Special Skill คือท่าพิเศษเฉพาะตัวของ Digimon แต่ละตัว พร้อมอนิเมชั่นและเสียงพากย์ที่เสริมบรรยากาศการต่อสู้ให้เข้มข้นขึ้น ส่วน Attachment Skill คือสกิลเสริมที่สามารถซื้อได้จากร้านค้า และติดตั้งกับ Digimon ได้อย่างอิสระ โดยจำกัดไว้ 4 ช่องต่อตัว ช่วยเปิดทางให้กับกลยุทธ์ที่หลากหลายและสร้างทีมได้อย่างมีเอกลักษณ์
การต่อสู้กับบอสในภาคนี้ก็มีความพิเศษ เพราะแบ่งออกเป็นหลายเฟส และสามารถโจมตีชิ้นส่วนต่าง ๆ ของร่างบอสได้แยกกัน ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและความท้าทายในการวางแผน

ในแง่ของงานภาพและกลไกเกม Time Stranger แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่ก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับภาคก่อน โมเดล 3D ของ Digimon มีรายละเอียดและความมีชีวิตชีวามากขึ้น ระบบ CP ที่เพิ่มเข้ามาก็ทำให้การต่อสู้มีมิติใหม่ ด้านการสำรวจและการจัดการภายในเกมก็มีการเพิ่มระบบ Digifarm และระบบการขี่ Digimon (แม้จะยังจำกัดบางตัว) ที่สะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจของทีมพัฒนาในการขยายขอบเขตของโลกในเกม
โดยรวมแล้ว แม้จะได้ทดลองเล่นในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทีมพัฒนามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการ เสริมความแข็งแกร่งของระบบการสำรวจและการต่อสู้ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาเสน่ห์เดิมที่แฟนเก่ายังคงหลงรักในเกม Digimon ดั่งที่เราได้เขียนไว้ใน พรีวิว Digimon Story Time Stranger นี้นั่นเอง
Digimon Story: Time Stranger มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 3 ตุลาคมนี้ บนแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Xbox Series และ PC ผ่าน Steam สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและพรีออเดอร์ได้ที่เว็บไซต์ทางการของเกม
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post