ที่งาน Tokyo Game Show 2025 เราได้มีโอกาสทดลองเล่นเดโมของ Yakuza Kiwami 3 ซึ่งเป็นการรีเมคเต็มรูปแบบของเกมคลาสสิก Yakuza 3 รวมถึงเรื่องราวดั้งเดิมในชื่อ Yakuza 3 Gaiden: Dark Ties ที่นำแสดงโดย Yoshitaka Mine เป็นตัวละครหลัก เดโม Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties ที่มีความยาว 20 นาทีนี้อนุญาตให้ผู้เล่นสลับไปมาระหว่างทั้งสองเกมได้ ทำให้สามารถสัมผัสถึงความแตกต่างระหว่างความรู้สึกที่ชวนให้นึกถึงวันวานกับมุมมองใหม่ที่สดใหม่ได้ในทันที
ความประทับใจแรกที่โดดเด่นในทันทีคือการปรับปรุงด้านภาพอย่างมีนัยสำคัญ ถนนในเมืองที่คุ้นเคยให้ความรู้สึกที่มีรายละเอียดมากขึ้น, แสงไฟที่สมจริงยิ่งขึ้น และบรรยากาศโดยรวมที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบการต่อสู้ยังได้รับการปรับปรุงให้เป็นไปตามมาตรฐานสมัยใหม่ ในขณะที่ Dark Ties ก็นำเสนอมุมมองใหม่ที่ทำให้เรื่องราวรู้สึกแตกต่างออกไป แม้ว่าจะยังคงอยู่ในขอบเขตของ Yakuza 3 ก็ตาม
ภาพและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น
ทั้ง Kamurocho และ Okinawa ปรากฏตัวในเดโมได้อย่างดื่มด่ำยิ่งขึ้น ถนนที่เคยเป็นเอกลักษณ์ในตอนนี้ให้ความรู้สึกที่มีชีวิตชีวามากขึ้น ด้วยแสงไฟนีออนที่มีรายละเอียด, เงาของอาคาร และความรู้สึกของเวลากลางคืนที่เป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น เพียงแค่เดินไปรอบๆ ก็เพียงพอที่จะทำให้คุณดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบฉบับของ Yakuza ชีวิตประจำวันที่ดูเหมือนปกติสามารถดิ่งลงสู่ความโกลาหลที่รุนแรงได้ทุกเมื่อ
ปฏิสัมพันธ์เล็กๆ น้อยๆ และเหตุการณ์สุ่มระหว่างทางยังคงอยู่ ซึ่งเป็นการรักษแนวทางอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ในด้านการต่อสู้ รวมถึงแง่มุมที่ไม่เหมือนใครของชีวิตประจำวัน รายละเอียดเหล่านี้ทำให้การรีเมคให้ความรู้สึกที่เป็นมากกว่าแค่การอัปเกรดกราฟิก แต่ยังเป็นความพยายามที่จะเสริมสร้างบรรยากาศและรักษาความเกี่ยวข้องในโลกปัจจุบัน

Kiryu และ Mine มีสไตล์เป็นของตัวเอง
ใน Yakuza Kiwami 3, Kazuma Kiryu ยังคงพึ่งพาสไตล์การต่อสู้แบบ Dragon of Dojima สุดคลาสสิกของเขา อย่างไรก็ตาม มีการเพิ่มเติมที่น่าสนใจในรูปแบบของ Ryukyu Style ซึ่งเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโอกินาว่า สไตล์ใหม่นี้มีความคล่องตัวมากกว่าและให้ความรู้สึกที่มีประสิทธิภาพเมื่อต่อสู้กับฝูงชน ทำให้ผู้เล่นมีความยืดหยุ่นในการสลับระหว่างพลังเต็มเปี่ยมของ Dragon Style กับความคล่องแคล่วของ Ryukyu Style การเปลี่ยนสไตล์ในเดโมให้ความรู้สึกที่ราบรื่น และการออกท่วงท่าโจมตีก็ยังคงน่าพึงพอใจ

ในขณะเดียวกัน Dark Ties เปิดโอกาสให้ได้เล่นเป็น Yoshitaka Mine เป็นครั้งแรก แตกต่างจาก Kiryu สไตล์การต่อสู้ของ Mine เร็วกว่า คล่องตัวกว่า และหลากหลายกว่า กลไกสำคัญของเขาคือ Dark Awakening ที่ซึ่งการโจมตีแต่ละครั้งจะชาร์จ “Shackled Hearts” เมื่อเต็มแล้ว Mine จะสามารถเข้าสู่โหมดพิเศษที่เพิ่มความเสียหายและปลดล็อกท่าใหม่ๆ ได้
เทคนิคที่เป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่ได้แสดงให้เห็นคือความสามารถในการใช้ศัตรูเป็นฐานเพื่อต่อคอมโบกลางอากาศ สร้างการต่อสู้ที่ฉูดฉาดและมีสไตล์ แม้ว่าในเดโมจะยังไม่มีคู่ต่อสู้ที่ท้าทาย แต่แรงปะทะของการโจมตีแต่ละครั้งก็น่าพึงพอใจ

มุมมองใหม่ผ่าน Dark Ties
หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจที่สุดของเดโมคือวิธีที่ Dark Ties นำเสนอมุมมองที่แตกต่างต่อเรื่องราวของ Yakuza 3 แทนที่จะเป็นเพียงส่วนเสริมเล็กๆ น้อยๆ Dark Ties ได้เน้นย้ำถึงการเดินทางของ Mine จากนักธุรกิจสู่การเข้าสู่โลกของยากูซ่าในที่สุด ในเดโมมีการปะทะกับตัวละครอื่นหลายฉาก เช่น Kanda ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกตึงเครียดได้ในทันที
ด้วยมุมมองใหม่นี้ เรื่องราวของ Yakuza 3 จึงมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้เล่นสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในอดีตผ่านสายตาของอดีตตัวร้ายได้ สิ่งนี้ทำให้ Dark Ties ให้ความรู้สึกที่เป็นมากกว่าแค่ส่วนเสริม แต่เป็นการตีความใหม่ที่ขยายความเรื่องราวดั้งเดิม

ระบบเพิ่มเติมและมินิเกม
นอกเหนือจากจุดสนใจหลักที่เรื่องราวและการต่อสู้แล้ว เดโมยังได้ให้เราได้เห็นเนื้อหาเสริมอีกด้วย คาราโอเกะ, ตู้ถ่ายรูป และมินิเกมอันเป็นเอกลักษณ์อื่นๆ กลับมา ซึ่งเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของซีรีส์ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมเบาสมองนอกเหนือจากเนื้อเรื่องหลักเสมอมา
ตามที่นักพัฒนากล่าว Dark Ties มีขนาดเทียบเท่ากับ Like a Dragon Gaiden ซึ่งหมายความว่ามันไม่ใช่แค่ DLC เล็กๆ แต่เป็นประสบการณ์เต็มรูปแบบพร้อมเรื่องราวดั้งเดิม ในขณะเดียวกัน Kiwami 3 ก็ไม่ได้เพียงแค่เล่าเรื่องเก่าซ้ำ มีการเพิ่มฉากใหม่และเนื้อหาพิเศษที่ทำให้มันเป็นมากกว่าแค่การรีเมคกราฟิก

สรุป เดโม Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties
โดยรวมแล้ว เดโม Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties ประสบความสำเร็จในการสร้างสมดุลระหว่างความคุ้นเคยและนวัตกรรม ในแง่ของเกมเพลย์ Kiryu มอบการแสดงที่แข็งแกร่งพร้อมสไตล์การต่อสู้ใหม่ที่เพิ่มความหลากหลาย ในขณะที่ Mine นำเสนอกลไกที่สดใหม่ผ่าน Dark Awakening ภาพที่ปรับปรุงใหม่ทำให้โลกให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ในขณะที่ Dark Ties นำเสนอเรื่องราวที่จบในตัวซึ่งทั้งเสริมเรื่องราวดั้งเดิมและยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง
แม้ว่าจะยังมีคำถามบางอย่างเหลืออยู่ เช่น ระบบการต่อสู้จะพัฒนาไปลึกซึ้งเพียงใดในภาคสุดท้าย หรือจังหวะของเรื่องราวใน Dark Ties จะถูกรักษาไว้อย่างไร แต่คุณภาพที่ได้แสดงให้เห็นที่ TGS 2025 ก็เป็นเหตุผลที่แข็งแกร่งสำหรับความมองโลกในแง่ดี ความคิดถึงที่ผสมผสานกับความประหลาดใจใหม่ๆ ทำให้ทั้งสองเกมเป็นการเพิ่มเติมที่น่ายินดีสำหรับซีรีส์ซึ่งคุ้มค่าแก่การรอคอยสำหรับทั้งแฟนๆ รุ่นเก่าและผู้เล่นหน้าใหม่
Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2026 บน PS4, PS5, Xbox Series, Switch 2 และ PC สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post