Gamer555
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
  • Borderlands 4
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
  • Borderlands 4
No Result
View All Result
Gamer555
No Result
View All Result

[TGS 2025] คุยหลังเล่น พรีวิว Dragon Quest I & II HD-2D Remakes – การเติมเต็มรีเมคไตรภาค Dragon Quest

Norrachai Anansakdakul by Norrachai Anansakdakul
2 days ago
in ทั้งหมด, รีวิว, รีวิวเกม
Reading Time: 2 mins read
0 0
[TGS 2025] คุยหลังเล่น พรีวิว Dragon Quest I & II HD-2D Remakes – การเติมเต็มรีเมคไตรภาค Dragon Quest
Share on FacebookShare on Twitter

เกมใหม่เกมถัดไปของ Square Enix ที่เราได้ลองเล่นในสัปดาห์นี้คือ Dragon Quest I & II HD-2D Remake ด้วยระยะเวลาการเล่นประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นับจากเมนูหลัก เกมจะให้คุณเลือกเล่นได้ทันที สำหรับบริบทโดยรวม เราเคยพรีวิว Dragon Quest III Remake ไปเมื่อปีที่แล้ว และเกมเพลย์ในครั้งนี้ให้ความรู้สึกค่อนข้างคล้ายกัน แม้ว่าแต่ละภาคจะมีแกนหลักและเรื่องราวที่แตกต่างกัน รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในบทความ พรีวิว Dragon Quest I & II HD-2D Remakes นี้ได้เลย

เริ่มต้นด้วย Dragon Quest I คุณจะไม่มีปาร์ตี้ แต่จะเป็นฮีโร่ผู้โดดเดี่ยวที่เดินทางและต่อสู้กับมอนสเตอร์เพียงลำพัง แนวทางนี้ทำให้มันแตกต่างจากเกม Dragon Quest ส่วนใหญ่อย่างชัดเจน และการรีเมคครั้งนี้ก็สามารถรักษากลิ่นอายคลาสสิกนั้นไว้ได้ ตั้งแต่เกมเพลย์ที่ปรับจูนมาอย่างดีและความสมดุลของเกม ไปจนถึงการนำเสนอภาพที่มีเสน่ห์และชวนให้นึกถึงอดีต

Related Posts

[TGS 2025] เยี่ยมชมบูธ SEGA – จัดเต็มงานแสดง เกมที่ให้ลอง คอสเพลย์ และของรีดเงินจากกระเป๋า

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Dragon Quest I & II HD-2D Remake กับ Masaaki Hayasaka – ทางเลือกระหว่างดั้งเดิมและสมัยใหม่

เรื่องราวของ Dragon Quest I Remake เริ่มต้นขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งตัวละครของคุณได้รับมอบหมายให้ไล่ตามผู้แอบอ้างเพื่อทวงคืนกุญแจของโจร (Thief’s Key) แต่ตามสไตล์ของ Dragon Quest กุญแจก็ถูกขโมยไปอีกครั้งโดยศัตรูที่เป็นสัญลักษณ์ชื่อ Robbin’Ood หลังจากเอาชนะเขาได้ คุณก็ตระหนักว่าคุณต้องช่วยเหลือสหายที่ติดอยู่ในถ้ำก่อนจึงจะสามารถเอากุญแจคืนมาได้จริงๆ จากนั้นฮีโร่จึงต้องดำดิ่งลงไปในถ้ำ, ต่อสู้กับมอนสเตอร์, ช่วยเหลือพันธมิตร และค่อยๆ คลี่คลายปริศนาที่ใหญ่ขึ้นของเรื่องราว

มาต่อกันที่ Dragon Quest II ซีรีส์นี้ก็ใช้แนวทางที่แตกต่างออกไปเช่นกัน ครั้งนี้จะเน้นไปที่ระบบการต่อสู้มากกว่าเรื่องราว ในภารกิจที่เราได้เล่น เป้าหมายของคุณคือการตามหาประภาคาร ซึ่งกลับกลายเป็นกับดักที่วางไว้โดย Necromancer ผู้ชั่วร้ายที่รอคุณอยู่ โชคดีที่ตัวละครของคุณและสหายมองกลอุบายออกและเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ครั้งใหญ่

ในแง่ของการต่อสู้ ทั้งสองเกมยังคงรักษาสไตล์เทิร์นเบสแบบดั้งเดิมไว้ แต่มีระดับความลึกที่แตกต่างกัน ใน Dragon Quest I เนื่องจากมีตัวละครเพียงตัวเดียว คุณจึงสามารถสลับอาวุธได้อย่างอิสระกลางการต่อสู้โดยไม่เสียเทิร์น ซึ่งหมายความว่าตัวละครของคุณสามารถเป็นผู้เล่นที่ “หลากหลาย” ได้ ไม่ว่าจะร่ายเวทย์, ป้องกัน หรือโจมตี โดยไม่ถูกล็อกอยู่กับอาชีพใดอาชีพหนึ่ง สกิลคลาสสิกอย่าง Sizz, Heal และ Snooze ก็กลับมาเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ใน Dragon Quest II ระบบปาร์ตี้เป็นตัวสร้างความแตกต่างที่สำคัญ สมาชิกแต่ละคนมีบทบาทเฉพาะ ตั้งแต่ Tank, Healer หรือ Sorcerer และชัยชนะในแต่ละการต่อสู้จะขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้ประโยชน์จากพวกเขาอย่างไร บอสตัวสุดท้ายในพรีวิวนี้คือ Necromancer ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าท้าทายและดูดพลังสมาธิของเราอย่างแท้จริง บางครั้งความพยายามในการชุบชีวิตก็ล้มเหลว ทำให้ศัตรูสามารถสังหารตัวละครได้ในครั้งเดียว และเมื่อ Healer ล้มลง เราก็รู้ได้ทันทีว่าการต่อสู้จบลงแล้ว องค์ประกอบต่างๆ พึ่งพา RNG อย่างมาก แต่มันก็คือความไม่แน่นอนนี้เองที่ทำให้การผจญภัยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ JRPG คลาสสิก

การรีเมคครั้งนี้ยังนำฟีเจอร์ปรับความเร็วการต่อสู้จาก Dragon Quest III Remake กลับมาด้วย ทำให้คุณสามารถตั้งค่าจังหวะการต่อสู้เป็น Normal, Fast หรือ Ultra-Fast ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบทางลัดที่เข้าถึงได้โดยการกด R1 ค้างไว้ และคุณสามารถตั้งค่าได้สูงสุดสี่สกิลเพื่อการเข้าถึงที่รวดเร็ว สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งในการตัดสินใจว่าจะฮีลทีมเมื่อใดหรือจะปล่อยสกิลเฉพาะในจังหวะสำคัญ

สำหรับดนตรีและภาพ ผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึงมากนัก เพราะมันมีมาตรฐานเดียวกับ Dragon Quest III Remake ภาพแบบ HD-2D ยังทำให้โลกมีชีวิตชีวา ในขณะที่ดนตรีก็ช่วยเสริมบรรยากาศทั้งในการต่อสู้และระหว่างการสำรวจ ท้ายที่สุดแล้ว การได้ลองเล่นในครั้งนี้ทำให้หวนนึกถึงอดีตอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราไม่เคยเล่นเกมทั้งสองภาคนี้จนจบ สำหรับใครที่สงสัยว่าทำไม Dragon Quest ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งใน JRPG ที่เป็นสัญลักษณ์มากที่สุดตลอดกาล การรีเมคครั้งนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

หากใครสนใจเกมนี้ Dragon Quest I & II HD-2D Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ บน PlayStation 5, Xbox Series, Nintendo Switch และ PC และ Square Enix ยังได้ยืนยันด้วยว่าเกมจะมีเวอร์ชัน Nintendo Switch 2 ควบคู่ไปกับคอนโซลรุ่นก่อนหน้า สำหรับรายละเอียดฉบับสมบูรณ์และอัปเดตเกี่ยวกับไตรภาคการรีเมค Dragon Quest สามารถติดตามได้ผ่านเว็บไซต์ทางการ


อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

Tags: Dragon Quest I & II HD-2D RemakeReviewSquare EnixTGS2025
ShareTweetPin
Previous Post

[TGS 2025] คุยหลังเล่น Octopath Traveler 0 – ความคุ้นเคยและความแตกต่างที่สัมผัสได้พร้อมกัน

Next Post

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Call of Duty: Black Ops 7 กับ Creative Director และ Lead Designer

Norrachai Anansakdakul

Norrachai Anansakdakul

Book - เภสัชกรผู้เสพติดเกม รวมถึงชอบงานเขียน สามารถหายไปเป็นวัน เพราะการเล่นเกม Turn Base Strategy ได้

Related Posts

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Octopath Traveler 0 กับ Suzuki Hirohito – เกมภาคที่ทีมงานได้ลองของมากที่สุด
ทั้งหมด

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Octopath Traveler 0 กับ Suzuki Hirohito – เกมภาคที่ทีมงานได้ลองของมากที่สุด

September 26, 2025
[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties กับ Ryosuke Horii – ไม่ใช่แค่ Spin-off หรือรีเมค
ทั้งหมด

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Yakuza Kiwami 3 & Dark Ties กับ Ryosuke Horii – ไม่ใช่แค่ Spin-off หรือรีเมค

September 26, 2025
[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Call of Duty: Black Ops 7 กับ Creative Director และ Lead Designer
ทั้งหมด

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Call of Duty: Black Ops 7 กับ Creative Director และ Lead Designer

September 26, 2025 - Updated on September 27, 2025
Next Post
[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Call of Duty: Black Ops 7 กับ Creative Director และ Lead Designer

[TGS 2025] บทสัมภาษณ์ Call of Duty: Black Ops 7 กับ Creative Director และ Lead Designer

Discussion about this post

ติดตามเราได้ที่ Facebook

รีวิว

คุยหลังเล่น พรีวิว MY HERO ACADEMIA: All’s Justice
ทั้งหมด

คุยหลังเล่น พรีวิว MY HERO ACADEMIA: All’s Justice

September 15, 2025
รีวิว Borderlands 4 – การกลับสู่คอนเซปต์ดั้งเดิม ง่าย เป็นเอกลักษณ์ และสนุกแบบวายป่วง
BL4

รีวิว Borderlands 4 – การกลับสู่คอนเซปต์ดั้งเดิม ง่าย เป็นเอกลักษณ์ และสนุกแบบวายป่วง

September 11, 2025
พรีวิว Little Nightmares III – มีสองคนสยองสองเท่า
ทั้งหมด

พรีวิว Little Nightmares III – มีสองคนสยองสองเท่า

September 11, 2025
พรีวิว Borderlands 4 – 2 Vault Hunters Harlowe และ Amon พร้อมบอส Idolator Sol
BL4

พรีวิว Borderlands 4 – 2 Vault Hunters Harlowe และ Amon พร้อมบอส Idolator Sol

September 4, 2025 - Updated on September 10, 2025
รีวิว Everybody’s Golf Hot Shots – จุดลงตัวของความผ่อนคลายที่เสพติดได้
ทั้งหมด

รีวิว Everybody’s Golf Hot Shots – จุดลงตัวของความผ่อนคลายที่เสพติดได้

September 4, 2025
คุยหลังเล่น เดโม The Blood of Dawnwalker – เกม RPG ที่เกมเพลย์และเนื้อเรื่องผสานความเป็น RPG ตะวันตกแบบเต็มๆ
ทั้งหมด

คุยหลังเล่น เดโม The Blood of Dawnwalker – เกม RPG ที่เกมเพลย์และเนื้อเรื่องผสานความเป็น RPG ตะวันตกแบบเต็มๆ

September 3, 2025
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

No Result
View All Result
  • Borderlands 4
  • Home
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • เกี่ยวกับเรา

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In