หลังจากพรีวิวแรก Borderlands 4 ของเราที่แนะนำ Vex the Dark Siren และระบบการเคลื่อนไหวใหม่ไปแล้ว ล่าสุดทีมงานได้กลับมาพร้อมพรีวิวชุดที่สอง ซึ่งเผยให้เห็นถึงทิศทางใหม่ที่ชัดเจนว่า Borderlands 4 จะไม่ใช่แค่ภาคต่อที่เหมือนแค่การแต่งหน้าเค้กก้อนเดิม แต่เป็นการยกเครื่องซีรีส์ครั้งใหญ่ ด้วยระบบความสามารถของตัวละครที่ถูกออกแบบใหม่หมดจด ระบบต่อสู้กับบอสที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวตลอดเวลา และการผลักดันผู้เล่นออกจาก safe zone ของตนด้วยวิธีที่ท้าทายและสร้างสรรค์ที่สุด
ตัวละครใหม่: Rafa the EXO-Soldier
หนึ่งในตัวละครที่ได้รับการยืนยันให้เล่นได้คือ Rafa ทหาร EXO-Soldier ที่ไม่ใช้อาวุธปืนแบบเดิม แต่เลือกใช้อาวุธระยะประชิดพลังไฟฟ้าเป็นหลัก ความสามารถของเขาหมุนรอบ 3 โหมดการต่อสู้ที่เปลี่ยนวิธีการเล่นของผู้เล่นอย่างสิ้นเชิง

สกิลแรก: This Year’s Gimmick
สกิลนี้ทำให้ Rafa เปลี่ยนอาวุธจากปืนเป็นมีดคู่ไฟฟ้า “Arc Daggers” ซึ่งสามารถมาร์กศัตรูได้ การมาร์กแต่ละครั้งจะทำให้ศัตรูได้รับดาเมจมากขึ้น ผู้เล่นสามารถใช้มีดสำหรับโจมตีระยะประชิดตามปกติ หรือใช้ท่าแดชพุ่งเข้าใส่ศัตรูเพื่อปล่อยกระแสไฟฟ้า แต่ความสะใจที่แท้จริงอยู่ที่การสั่งระเบิดมาร์กทั้งหมดพร้อมกันเพื่อสร้างแรงระเบิดไฟฟ้าขนาดใหญ่
สกิลที่สอง: People Person
สกิลนี้ทำให้ Rafa ติดตั้งปืนใหญ่แขนที่เรียกว่า “Apophis Lance” ซึ่งยิงกระสุนไฟฟ้าที่สามารถทะลุผ่านศัตรูได้ การยิงแต่ละครั้งจะใช้ “ชาร์จ” ผู้เล่นสามารถกดค้างเพื่อยิงกระสุนแรงขึ้น แต่จะใช้ชาร์จมากขึ้น หากยังมีชาร์จเหลือเมื่อสกิลหมด คูลดาวน์ของสกิลจะลดลง
สกิลที่สาม: Remote Agent
สกิลนี้เรียกป้อมปืนอัตโนมัติที่ล็อกเป้าศัตรูและยิงโดยอัตโนมัติ หากสามารถสังหารเป้าหมายได้ ป้อมจะเปลี่ยนเป้าไปที่ศัตรูตัวถัดไป ผู้เล่นสามารถยกเลิกสกิลก่อนหมดเวลาเพื่อคืนคูลดาวน์บางส่วนได้เช่นกัน

เนื้อเรื่องหลักและระบบบอสไฟต์
เนื้อเรื่องหลักของเกมเริ่มต้นจากการที่ Claptrap ส่งผู้เล่นไปสร้างขบวนการต่อต้านบนดาว Kairos กลุ่มแรกที่เข้าร่วมคือ The Outbounders อดีตชาวไร่และช่างกลที่รวมตัวกันก่อกบฏเพื่อหลบหนีชีวิตที่ถูกกดขี่ แต่กลุ่ม The Order กำลังโจมตีฐานบัญชาการของพวกเขา ผู้เล่นต้องเข้าช่วยเหลือก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
ระบบบอสไฟต์ใน Borderlands 4 ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากกว่าที่เคย ในขณะที่เกมภาคก่อนมีการโจมตีที่ผู้เล่นต้องหลบหลีกอยู่บ้าง ภาคใหม่นี้นำเครื่องมือการเคลื่อนไหวทั้งหมดมาใช้เต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดสองจังหวะ (double jump), กลิ้งหลบ (dodge), ตะขอเกี่ยว (grappling hook) และการร่อนกลางอากาศ (gliding) เพื่อสร้างการต่อสู้ที่มี dynamic ยิ่งขึ้น
ความสามารถในการเคลื่อนไหวเหล่านี้ไม่ได้มีไว้แค่หลบเท่านั้น ผู้เล่นจะต้องใช้ตะขอเกี่ยวเพื่อไปยังจุดอ่อนของบอส หรือร่อนไปรอบสนามเพื่อโจมตีศัตรูที่ไม่สามารถโจมตีจากพื้นได้ บอสที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าใช้ระบบนี้เต็มรูปแบบคือ Primordial Guardian Inceptus

ระบบอาวุธใหม่: Licensed Part System
ระบบอาวุธในภาคนี้ถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมดด้วยระบบ Licensed Part System ที่เปิดให้ผู้เล่นสามารถผสมชิ้นส่วนของผู้ผลิตอาวุธต่าง ๆ เข้าด้วยกันในปืนกระบอกเดียว ไม่จำเป็นต้องเลือกแค่ Maliwan, Jakobs หรือ Torgue อีกต่อไป แต่สามารถผสมคุณสมบัติของทั้งสามผู้ผลิตในปืนกระบอกเดียว สร้างความหลากหลายในรูปแบบการใช้งานและแนวทางการเล่นได้มากขึ้นหลายเท่า

อาวุธเองก็ถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก Borderlands 3 ทั้งในแง่ของแอนิเมชัน เสียง และความรู้สึกเมื่อยิง ทำให้ทุกกระสุนรู้สึก หนักแน่น และสะใจยิ่งขึ้น ความหลากหลายในรูปแบบของอาวุธเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งสไตล์การเล่นของตัวเองได้อย่างลึกซึ้งและยืดหยุ่นกว่าที่เคย
จากพรีวิวทั้งหมดที่เห็น Borderlands 4 ยังคงมีแก่นหลักของเกมคือการยิงและล่าไอเทมอยู่ครบถ้วน แต่การผสานระหว่างการต่อสู้ประชิดพลังไฟฟ้าของ Rafa, ระบบบอสไฟต์ที่ออกแบบใหม่ และระบบอาวุธที่ยืดหยุ่น กำลังสร้างเกมที่มีความหลากหลายในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนในซีรีส์นี้
ไม่ว่าคุณจะพุ่งทะลวงศัตรูด้วย Arc Daggers ใช้ท่าเคลื่อนไหวขั้นสูงเพื่อหลบหลีกบอสขนาดยักษ์ หรือทดลองสร้างอาวุธผสมจากค่ายผู้ผลิตในฝันของคุณ Borderlands 4 กำลังกลายเป็นเกมที่มีระบบการต่อสู้ลึกที่สุดเท่าที่ซีรีส์นี้เคยมีมา

Borderlands 4 จะวางจำหน่ายในวันที่ 12 กันยายน บน PlayStation 5, Xbox Series X/S และ PC ซึ่งตอนนี้สามารถพรีออเดอร์ได้แล้ว แถมยังรองรับภาษาไทยภายในเกมอีกด้วย สำหรับใครที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่าน เว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post