Street Fighter 6 ได้ปล่อยออกมาให้เล่นกันแล้วเป็นเวลาพักหนึ่ง ซึ่งด้วยคะแนนรีวิวสูงลิบ วันนี้เรา Gamer555 เลยมารีวิวให้เห็นว่า Street Fighter 6 เป็นอย่างไร และเป็นการยกระดับเกมสายไฟต์ติ้งให้ไปอีกขั้นของวงการเกมได้หรือไม่
ระบบการต่อสู้
สำหรับคนที่ชื่นชอบในการต่อสู้ไต่แรงค์ และถวายวิญญาณลงไปในส่วนนี้ ระบบเกมเพลย์ต่อสู้ของ Street Fighter 6 คือจุดเด่นอย่างไม่ต้องสงสัย โดยตัวเกมเพิ่มความตื่นเต้นพร้อมทั้งบิวด์ให้คนเล่นแบบสไตล์บุกได้สนุกขึ้น แต่ก็ยังไม่ทิ้งรากของ Street Fighter
จุดที่ทำให้บุกไวขึ้นคือระบบ Drive Gauge ที่ทำให้ใช้ท่าพิเศษได้ตั้งแต่ต้นโดยไม่ต้องเก็บเกจแต่อย่างใด แต่ก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นเองว่าจะบริหารเกจส่วนนี้อย่างไร เพราะว่าเกจส่วนนี้หมด ก็จะทำให้เราเปิดจุดอ่อนรวมทั้งมีโอกาสให้โดน stun ได้ซึ่งจากการที่บุกเพลินๆ อาจโดนทุบจนหน้ายู่เลยก็ได้
ดังนั้นระบบนี้จึงเป็นระบบที่สร้างสรรค์อย่างมาก เพราะจะทำให้ผู้เล่นเลือกที่จะใช้บุกตั้งแต่แรก ตั้งรับแล้วรอสวน ทั้งหมดก็แตกต่างตามสไตล์การเล่นของแต่ละคนแม้จะใช้ตัวละครเดียวกันก็ตาม
โดยรวมแล้วตัวผู้เขียนประทับใจกับระบบ Drive มากๆ ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงมาสู่ Street Fighter ที่นอกจากสิ่งพื้นฐานที่ต้องเรียนรู้ให้ลึกซึ้งในแต่ละตัวละคร ก็สามารถสนุกได้โดยที่เกมไม่รู้สึกช้า ลองคิดว่าปกติ Street Fighter มีเวลาแต่ละรอบ 99 วินาที ในเกมแข่งของเกมภาคก่อนๆ ใช้กันหมดตลอดจากการสแปมท่าโซน เน้นตั้งรับทั้งคู่ทำให้ดูน่าเบื่อไป ต่างกับภาคนี้ที่จังหวะสวนไปมาสนุกมากขึ้นถ้ารู้จุดที่ต้องใช้เกจ
อีกหนึ่งระบบที่สร้างความหลากหลายคือ Drive Rush ที่ทำให้เราแคนเซิลท่าโจมตีปกติ เพื่อเปลี่ยนกลายเป็นพุ่งไปข้างหน้าระหว่างท่าโดยไม่เสียเฟรม (หากใครเคยเล่นเกมค่าย Arc System น่าจะคุ้นเคยกันดีซึ่งมันทำให้การบุกหลากหลายมาก)
นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้เกมเข้าถึงง่ายขึ้นคือระบบ Modern Controls ที่บางคนอาจจะมองว่าเป็น easy mode แต่ความจริงคือบางทีการกดท่าบางท่าไม่น่าจะต้องยากขนาดนั้น ซึ่งการมีระบบนี้จะทำให้ตัวคอมโบเสถียรขึ้น และยังเข้าถึงง่ายต่อผู้เล่นใหม่อีกด้วย
ตัวอย่างสิ่งที่ เกจ Drive ทำได้ทั้งหมด
- Drive Rush แคนเซิลท่าเพื่อพุ่ง
- Overdrive ท่า Ex เหมือนใช้เกจในภาค 5
- Drive Parry เป็นเหมือนการบล็อคที่หากทำได้พอดีจะรีเกจ รวมถึงสวนได้ด้วย
- Drive Reversal ถ้าโดนบุกเยอะก็กดเพื่อผลักอีกฝั่งออก
- Drive Impact Power crush จาก Tekken7 ที่เอามาหวดคนที่สแปมปุ่มไม่หยุด
- Burnout เกิดขึ้นเมื่อเกจหมด เฟรมจะติดลบหนักขึ้น และถ้าอีกฝั่งใช้ Drive Impact โดนเราจะติด stun ทันที
ตัวละครใหม่เอี่ยม และตัวละครเก่าหน้าใหม่
ในขณะที่มีระบบใหม่มากมายเข้ามา อีกส่วนที่ทำให้ Street Fighter รู้สึกสดใหม่คือตัวละครใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างมหาศาล หรือแม้แต่ตัวละครคลาสสิคก็ถูกปรับปรุงให้ไม่รู้สึกซ้ำกับภาคก่อนๆ อย่างเช่น Ryu หรือ Dhalsim ก็ยังรู้สึกสดใหม่แม้จะเป็นตัวละครเก่าก็ตาม
ซึ่งส่วนนี้ไม่ใช่แค่คนที่เคยเล่นอยู่แล้วจะหาอุปกรณ์การเล่นใหม่ๆ จากเบสิคเดิมๆ แต่ผู้เล่นรวมถึงนักแข่งจำนวนมากที่ต้องปรับตัว ลองคิดว่าถ้าตัวเมนยังอยู่แต่มีอาวุธที่สามารถใช้ในการต่อสู้มากมายขึ้นจากแต่ก่อนจะมีการบริหารการเล่นอย่างไร หรือคนที่ไม่มีเมนในภาคล่าสุดจะไปเล่นตัวละครใหม่ตัวไหน แนวคล้ายเดิมหรือไม่
แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่าตัวละครใหม่อาจจะน่ากลัวก็คือพวกตัวที่เคลื่อนที่ช้า เมื่อไปรวมกับระบบ Drive ที่พูดไปข้างต้น ลองคิดว่า Zangief ที่พุ่งได้สวนได้จะสยองขนาดไหนถ้าอยู่ในมือคนที่เล่นมาอย่างเชี่ยวชาญ
ถึงแม้ตัวละครใหม่หลายตัวอาจจะมีสไตล์คล้ายกันเช่น Grappler หรือ Zoner แต่ทุกตัวก็มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก อย่างตัวผู้เขียนเล่น Dhalsim มาก่อน ถึงแม้ในภาคนี้จะยังมี Dhalsim เช่นเดิม แต่ว่าการได้ไปลองเล่นตัวละครใหม่อย่าง JP ก็สนุกมากด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่เหมือนกันเลยแม้จะเป็นตัวละครประเภทเดียวกัน
Content มหาศาล
Street Fighter 6 นอกจากโหมด rank ไล่ซัดกับคนอื่นแล้ว ตัวเกมมีเนื้อหาให้เล่นเยอะมากๆ โหมด World Tour ที่ต้องเล่นไต่เต้าตัวละครของตัวเองเพื่อปรับปรุงตัวละครของเราเอง เอาจริงๆ แค่โหมด World Tour อาจจะเป็น DLC แยกหรือเกมใหม่เลยได้ด้วยซ้ำ (ถึงแม้จะต้องไปต่อยคนแก่ เพื่อหาตังก็เถอะนะ แต่ก็บันเทิงดี)
เอาตรงๆ คือโหมด World Tour มีเควสมหาศาล คือคุณไม่ต้องไปไต่ rank ซัดคนอื่นก็ได้ เพราะเป็นเหมือนเกม RPG อีกเกมนึงเลย ดังนั้นถึงมึคุณจะเป็นสายไต่ rank โหมดนี้ก็ยังสนุกพอให้เข้ามาเล่น และหากคุณเป็นผู้เล่นใหม่โหมดนี้คือส่วนที่จะทำให้คุณเล่นสนุกได้อย่างเต็มที่
นอกจากโหมดดังกล่าวแล้ว ตัวเกมยังมีสิ่งต่างๆ มากมายมีมินิเกมให้เล่น เผื่อคุณจะหัวร้อนที่แพ้ rank ติดกัน 50 เกม ก็จะมีเกม arcade เก่าๆ ของ Capcom ให้เล่น ไม่ต้องไปซื้อ Emulator แยกเพื่อเล่นเกมเก่าแล้ว
หรือถ้าคุณกระหายการต่อสู้อย่างมาก นอกจากโหมด arcade เนื้อเรื่องธรรมดา ฝั่งโหมด Training ก็อัปเกรดมาเต็มเหนี่ยว เรียกว่าสิ่งที่ควรมีในโหมดนี้ที่ไม่เคยมีในภาคก่อนใส่มาหมดทั้ง frame data หรือแม้กระทั่งกดให้เกมช้าเพื่อฝึกคอมโบก็ยังได้
ดังนั้นถือว่า Street Fighter 6 มีคอนเทนต์ให้เล่นจำนวนมากถ้าอยากตบคอมก็เล่นโหมด World tour ได้ยาวๆ ถ้าเป็นผู้เล่นใหม่ที่อยากฝึกเพื่อไปสู้อย่างจริงจังโหมดฝึกซ้อมก็ช่วยเหลือได้เป็นอย่างดี หรือถ้าเป็นคนแก่อายุเยอะ ก็มีเกมย้อนวัยให้คุณได้เล่นด้วยนะ
ระบบฟาร์มเงิน/เติมเงินในเกมที่โดนลืม
นี่น่าจะเป็นจุดที่ผู้เขียนไม่ค่อยชอบในเกมนี้คือระบบ Live service ที่ต้องหาเหรียญเพื่อมาซื้อชุด ไม่ก็ title ของตัวละคร ซึ่งมันฟาร์มนานมาก คุณต้องเล่นในตัวละครนั้นๆ เยอะจริงๆ เพื่อให้มีเงิน Kudos ไปซื้อของซึ่งเอาจริงๆ เหรียญซื้อได้เพียงแค่ Title
ในขณะที่ถ้าอยากได้ชุดตัวละครต้องไปฟาร์มที่โหมด World Tour ซึ่งตัวโหมดมันสนุกแหละ แต่คนอยากมาเล่นเกมต่อสู้การไปฟาร์มแบบนั้นมันน่าเบื่อเอามากๆ
สรุป
ในฐานะเกมต่อสู้คงไม่มีคำอธิบายไหนนอกจากคำว่ายอดเยี่ยมให้กับเกม Street Fighter 6 คือคนที่เล่นแฟรนไชส์นี้อยู่แล้วชอบแน่นอน แต่ตัวเกมยังขยายให้ผู้เล่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วม ภายในเกมก็ตื่นเต้น บุกสนุก คนกันก็สวนได้เร้าใจตลอดเวลา
ในส่วนของ Battlepass มองว่าเป็นความล้มเหลวของเกม คือมันไม่ได้มีผลกระทบต่อเกมเพลย์ แต่ว่ากลัว Capcom จะไม่ได้เงินเพิ่มจากระบบนี้ในอนาคตมากกว่า
ดังนั้นถ้าคุณสนใจเกมสายไฟท์ติ้ง Street Fighter 6 เป็นหนึ่งในเกมที่อยากให้เริ่มเล่นโดยไม่มีข้อแม้เลยทีเดียว
ข้อดี
- มีคอนเทนต์มากมายให้เล่นภายในเกม
- ระบบ Cross-play ทำให้ไม่ต้องหาห้องนาน
- งานภาพดี สีสวย
ข้อเสีย
- ระบบฟาร์ม Battlepass กับฟาร์มเงินที่แทบไม่ให้อะไรเลยหลังจากเล่น Rank
คะแนน: 9/10
Street Fighter 6 วางจำหน่ายแล้วตอนนี้บน PlayStation 4, PlayStation 5, Steam, Xbox One และ Xbox Series X|S
Discussion about this post