Gamer555
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
Gamer555
No Result
View All Result

รีวิว Metaphor: ReFantazio การขึ้นเป็นเสาหลักใหม่ของ Atlus

Norrachai Anansakdakul by Norrachai Anansakdakul
8 months ago
in Playstation, Xbox, ทั้งหมด, รีวิว, รีวิวเกม, เกม Turn base, เกมพีซี
Reading Time: 6 mins read
0 0
รีวิว Metaphor: ReFantazio การขึ้นเป็นเสาหลักใหม่ของ Atlus
Share on FacebookShare on Twitter

หลังจากการเปิดตัว Persona 5 เกมที่ดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่และเป็นการเปิดตัวค่าย Atlus สู่ผู้เล่นทั่วโลกไม่ใช่เพียงเฉพาะกลุ่ม ตั้งแต่วันนั้นก็มีข่าวมาตลอดว่าผู้กำกับอย่างคุณ Katsura Hashino ก็เริ่มโปรเจกต์ใหม่ Re FANTASY ทันที โดยมีภาพร่างคร่าวๆ ให้เราคิดว่าเกมจะออกมาเป็นอย่างไร แต่ในที่สุดแล้วเราก็ได้ IP ใหม่ของค่ายอย่าง Metaphor: ReFantazio ขึ้นมา

SEGA และ ATLUS ได้ส่งเกมให้ทีมของเราได้ทดลองเล่นก่อนหน้าเกมจะวางจำหน่าย โดยในบทความนี้เราได้สรุปถึงสิ่งที่ได้สัมผัสมาโดยที่หลีกเลี่ยงการสปอยล์ส่วนเนื้อเรื่องให้มากที่สุด(รวมถึงในส่วนของเดโมด้วย เพราะอยากให้ไปลองเล่นกันเอง) ไปติดตามกันได้ในบทความ รีวิว Metaphor: ReFantazio ว่าตัวเกมนั้นเป็นอย่างไร

Related Posts

บทสัมภาษณ์ Zenless Zone Zero กับ โปรดิวเซอร์ Zhenyu Li – ระบบ Co-op PV Multiplayer ในอนาคต?

รีวิว Elden Ring Nightreign – แนวคิดดี แต่ยังไม่สมบูรณ์

เนื้อเรื่องสไตล์แฟนตาซี

ตัวเกมเปิดได้อย่างน่าสนใจกับการพูดถึงข้อจำกัดของงานแฟนตาซีต่างๆ ก่อนถามคำถามและชื่อของผู้เล่น(ซึ่งไม่ได้หมายถึงตัวเอก แต่หมายถึงตัวผู้เล่นเลย) ทำให้เกิดอารมณ์ break the 4th wall อยู่หน่อยๆ บางบอกถึงคความใส่ใจในผู้เล่นของทีมงาน อย่างตัวเกมยังมองว่าโลกของเรานั้นช่างเป็นโลกในอุดมคติ ปัจจุบันอยู่กันอย่างสันติไม่มีสงคราม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเรารู้ว่าโลกของเราเองไม่ได้สงบสุขเท่าที่เกมมองเรา เห็นดังนี้ก็เหมือนว่าตัวเกมนั้นเป็นอีกสิ่งมีชีวิตที่พูดคุยกับเราเลยทีเดียว

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นในอาณาจักร Euchronia ดินแดนที่ประกอบไปด้วย 8 เผ่าพันธุ์ที่แตกต่างกัน โดยตัวเอกนั้นมาจากเผ่า Elda ซึ่งโดนดูถูกเยี่ยงขยะข้างถนนในดินแดนนี้ แม้กระทั่งตัวเอกของเราที่เคยเป็นเพื่อนสนิทในวัยเด็กของเจ้าชายแห่งอาณาจักรก็ตาม แต่หลังจากนั้นเราก็จะพบว่าตัวเอกของเราโดนคำสาปและใกล้สู่ความตาย อีกทั้งยังมีคนในอาณาจักรมากมายคาดว่าคำสาปนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ราชาของอาณาจักรนั้นเสียชีวิตไปก่อนหน้า เกิดเป็นสุญญากาศทางการเมือง

แต่ไม่ใช่ว่าแค่ขุนนางที่มีอำนาจจะขึ้นมายึดครองได้โดยไม่ต้องมีคุณสมบัติอันเหมาะสม เพราะราชาได้วางแผนไว้ว่าเมื่อตัวเอกเสียชีวิตลงจะทำให้เกิด Royal Magic เวทย์ที่ทำให้ผู้คนทั่วดินแดนเกิดการแข่งขันในลักษณะทัวร์นาเม้นท์เพื่อหาผู้สืบทอดตำแหน่งราชา ผู้เข้าร่วมแต่ละคนต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และหากใครเล่นนอกกติกาอย่างการลอบสังหารคู่แข่งก็จะไม่มีผลในการแข่งขันนี้เนื่องจากเวทย์ของพระราชาจะปกป้องผู้เข้าแข่งทั้งหมด

ด้วยความที่ตัวเอกมาจากเผ่าที่ถูกมองว่าต่ำต้อย แทบไม่มีใครนับถือ แต่เจ้าตัวก็ไม่ย้อท้อเพราะเป้าหมายแรกของเจ้าตัวก็คือการช่วยเจ้าชายให้รักษาอำนาจและสืบทอดบัลลังก์ของตัวเองต่อไปได้ เพื่อเป้าหมายในการสร้างโลกในฝันดั่งนวนิยายที่ทั้งคู่เคยอ่านด้วยกันในสมัยเด็ก โลกที่ทุกคนทุกเผ่าเท่าเทียม นั่นคือเนื้อเรื่องคร่าวๆ ก่อนที่เราจะเข้าไปผจญภัยในดินแดน Euchronia หาผู้ติดตาม แก้ไขข้อขัดแย้ง หาพรรคพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกัน

การออกแบบธีมของโลกในแนวนี้สร้างแรงดึงดูดในเนื้อเรื่องอย่างมาก การที่มีเผ่าหลายเผ่าทำให้เราได้โอกาสเรียนรู้เบื้องลึกเบื้องหลังประวัติศาสตร์ของอาณาจักรผ่านตัวละครที่เป็นตัวแทน เมื่อเขาเหล่านั้นมาเข้าร่วมเป็นผู้ติดตาม ดังนั้นการผูกความสัมพันะ์นอกจากจะช่วยเหลือในด้านเกมเพลย์แล้ว ยังช่วยเสริมมิติของตัวละคร รวมถึงรายละเอียดของโลก Metaphor: ReFantazio นอกจากเนื้อเรื่องหลัก

นอกเหนือจากช่วง intro/prologue ที่เราคิดว่าใช้เวลานานอยู่พอสมควรจนถ้าใครไม่ชินอาจจะรู้สึกเบื่อไปก่อน เนื้อเรื่องหลักนั้นขับเคลื่อนได้อย่างว่องไว ชัดเจน พร้อมกับการอธิบายขยายความส่วนอื่นๆ ของตัวอาณาจักรให้เราทำการสำรวจ เท่าที่สัมผัสมาผู้เขียนคิดว่าไม่มีส่วนไหนที่ดรอปลงไปเลยระหว่างเนื้อเรื่องทั้งหมด ความคิบหน้าของทัวร์นาเม้นท์ที่เกิดขึ้้นอย่างสม่ำเสมอ ความดุเดือดในการแข่งขันทำให้ทุกก้าวย่างของการผจญภัยนั้นมีความเข้มข้น นี่ยังไม่ได้พูดถึงความ beark the 4th wall ที่ตัวเกมพยายามผูกเข้ากับโลกจริงของเรา อย่างมอนสเตอร์สุดน่ากลัวที่ชื่อว่า “human” ซึ่งทำให้เราสงสัยใคร่รู้มากขึ้นไปอีกว่าทีมงานต้องการเล่าอะไรกันแน่

การผจญภัยที่น่าดึงดูด

ในส่วนของการผจญภัยภายในเกม ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายของ Metaphor: ReFantazio และทำให้เกมนี้มีความพิเศษอย่างมาก นอกเหนือจากเกมมากมายมหาศาลที่เราได้เคยสัมผัสมา ส่วนการผจญภัยที่เกมนำเสนอนั้นเรียกว่าเทียบได้กับเกม open-world ดีๆ เกมหนึ่งเลยแม้จะไม่ใช่ของจริงก็ตาม เหตุผลที่เกมสามารถทำเช่นนี้ได้ก็คือทุกความคืบหน้าของเกมนั้นพาเราไปทัวร์รอบอาณาจักรอยู่ตลอดเวลา ผ่าน Gauntlet Runner ยาพานะขนาดยักษ์ที่ทำหน้าที่เหมือนฐานหลักของกลุ่มเราด้วยเช่นกัน

บน Gauntlet Runner เรามีสิ่งให้ทำมากมายซึ่งจะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ที่เรียกว่า Royal Virtues เพื่อเพิ่มค่าสถานะ ถ้าให้พูดก็คือ social stats ของแฟรนไชส์ Persona แต่ความแตกต่างคือแต่ละแต้มของค่าสถานะคือความคืบหน้าในการเข้าถึงตำแหน่งราชา ซึ่งส่งผลต่อเนื้อเรื่อง เพราะในบางจุดนั้นเราต้องมีค่า Royal Virtues ถึงเกรฑ์ก่อนจะปลดล็อคเนื้อเรื่อง

กิจกรรมอื่นๆ บน Gauntlet Runner อย่างเช่น ทำอาหาร เพิ่มค่าสถานะให้ตัวละคร ทุกครั้งที่เราทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระบบเวลาก็จะเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างตอนเช้าเป็นกลางคืน หรือเปลี่ยนวันไป อย่างที่หลายๆ คนรู้แล้วว่าเกมนี้มีระบบเวลาแถมยังมีความสำคัญอย่างมากอีกด้วย

นอกจากบน Gauntlet Runner แล้วการผจญภัยกับเพื่อนในปาร์ตี้กับวิวทิวทัศน์และสภาพแวดล้อมสุดสวยงาม ขับดันให้เรารู้สึกว่าเกมนี้มันกว้างใหญ่ได้ อีกทั้งการออกแบบแผนที่แต่ละจุดที่เมื่อเราได้ไปถึงแล้วมีผลกระทบต่อตัวเกม อย่างการไปเจอบอส เจอเหตุการณ์พิเศษ ทำให้ระหว่างการผจญภัยที่ต้องใช้เวลาพอสมควรผู้เล่นไม่รู้สึกเบื่อไปก่อน

การผจญภัยในอาณาจักร Euchronia จะพาเราไปสู่หลายๆ พื้นที่ เมืองใหญ่ๆ มากมาย แต่ละพื้นที่นั้นก็จะมีเนื้อเรื่องของตัวเอง รวมถึงมีดันเจี้ยนหลักซึ่งต้องผ่านให้ได้ก่อนหมดเวลาที่กำหนดไว้ไม่เช่นนั้นเพลินไปไม่สนเวลาจะเกมโอเวอร์ได้ง่ายๆ ในแต่ละเมืองย่อมมีอะไรให้เราทำมากกว่าบน Gauntlet Runner อย่างการไปปราศัยเรียกความเชื่อมั่นของประชาชน หรือกิจกรรมช่วยเหลือเพื่อเพิ่ม Royal Virtues การช็อปปิ้งซื้อของเพื่อใช้ในภารกิจ การรับเควสเสริมเพื่อฟาร์มของก็ทำได้เช่นกัน

ดังนั้นนอกจากภารกิจหลักในเนื้อเรื่องแต่ละบทที่บังคับให้ทำสำเร็จภายในเวลาแล้ว ตัวเกมยังนำเสนอกิจกรรมเสริมต่างๆ มากมาย ทำเควส ฟาร์มดันเจี้ยนรอง หาของ หรือแค่เลือดนักสู้มันเข้มข้นอยากไฟท์เยอะๆ ก็ทำได้ ข่าวดีก็คือพวกเควสเสริม ดันเจี้ยนรองพวกนี้กลับมาทำเมื่อไหร่ก็ได้ หรือลงซ้ำได้ก็เช่นกันถ้าเวลาเหลือ

เกมเพลย์การต่อสู้ที่ดีที่สุดของ Atlus

ระบบการต่อสู้ของ Metaphor: ReFantazio ถือเป็นการอัปเกรดจากเกมอื่นๆ แถมยังแตกต่างจากสิ่งที่เราได้สัมผัสมาก่อนหน้าอีกด้วย ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากว่านี่คือระบบการต่อสู้ที่ดีที่สุดจาก Atlus ด้วยการนำระบบอย่าง Archetype ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับ Demon หรือ Persona มาใช้ แต่เพิ่มเติมคือมันมีผลต่อเนื้อเรื่องอย่างมาก เพราะพลังที่ได้จาก Archetype นั้นเป็นพลังจากวีรบุรุษโบราณที่เกี่ยวข้อง และกว่าจะได้พลังมานั้นตัวละครต้องก้าวผ่านความกลัว ความสงสัยในใจเสียก่อน ทำให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครอย่างชัดเจน

แม้ว่าจะไม่ได้มีจำนวนมากเท่า Demon หรือ Persona รวมทั้งการออกแบบไม่ค่อยมีความโดดเด่นและออกไปในทางเดียวกันหมดนั้น อีกความแตกต่างหนึ่งของ Archetype ก็คือตัวมันทำหน้าที่เฉกเช่น Job system ในเกม RPG ตัวเกมมีมากกว่า 40 Archetypes และแต่ละแแบบมีจุดเด่นแตกต่างกันไป ทั้งสไตล์การต่อสู้ อาวุธที่ใช้ สกิลอันโดดเด่นจากแต่งละสาย และที่สำคัญคือตัวละครแต่ละตัวนั้นสามารถใช้ Archetypes ได้ทั้งหมด ทำให้จินตนาการสำคัญกว่าความรู้นั้นเกิดขึ้น เราสามารถออกแบบการเล่นได้อิสระแบบสุดทาง เรียกว่าเกมเพลย์ฝั่งการต่อสู้เล่นยังไงก็ไม่ซ้ำถ้าเราอยากเปลี่ยนเทคนิคไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ตัวเกมยังมีส่วนพิเศษอย่าง Akademia ที่ช่วยให้เราศึกษา Archetype ได้ละเอียดขึ้นอีกด้วย

พูดเรื่อง Archetype มานานวกกลับมาสู่เกมเพลย์ฝั่งต่อสู้จริงๆ ว่าทำไมผู้เขียนถึงเคลมว่านี่คือระบบการต่อสู้อันยอดเยี่ยม ตัวเกมได้ผสม classic turn-based กับฝั่งแอคชั่นไว้ได้อย่างลงตัว ถึงแม้จะไม่ใช่เกมแรกที่เคยทำแบบนี้ แต่การที่ทำให้ผู้เล่นสาย turn-based นั้นไม่รู้สึกอีหลักอีเหลื่อ เมื่อต้องมาเล่นฝั่งแอคชั่นคือสิ่งที่ทำให้เกมนี้พิเศษออกมา การทำให้ส่วนแอคชั่นนั้นเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ให้โบนัสที่ส่งผลต่อเกมเพลย์ฝั่ง turn-based เรียกว่าทีมงานเลือกได้อย่างถูกจุด

เมื่อเข้าสู่ฝั่ง turn-based แทบทั้งหมดนั้นจะไม่เห็นความแตกต่างจาเกมอื่นในค่าย แต่เมื่อเล่นไปเราจะพบว่าตัวเกมมีความซับซ้อนมากขึ้น เกมนั้นมีระบบ Press Turn ที่เราจะได้เทิร์นอย่างต่อเนื่องถ้าเราสามารถโจมตีเข้าจุดอ่อนศัตรูหรือตีติดคริได้อย่างต่อเนื่อง(แต่ก็ไม่ได้แบบไร้ขีดจำกัดนะ) ดังนั้นการวางแผนเพื่อโจมตีอย่างต่อเนื่อง หรือใช้ท่าที่รุนแรงผ่านการต่อเทิร์นนั้นเป็นส่วนสำคัญที่เราต้องออกแบบการต่อสู้ในแต่ละรอบ

การโจมตีที่รุนแรงนั้นเกมนี้จะเรียกว่า Synthesis ซึ่งเป็นสกิลพิเศษมาจากการผสมกันของ Archetype ที่แตกต่างกัน 2 แบบจากสมาชิกแต่ละคนในปาร์ตี้ สกิลที่ผสมออกมานั้นก็จะออกมาแตกต่างกัน บางส่วนอาจจะดูธรรมดาอย่าง สกิล support (Matarukaja เพิ่มพลังโจมตี) โดยต้องใช้ 2 เทิร์นต่อเนื่องในการปล่อย แต่หากจะเอาสกิลอลังการก็ต้องใช้ทั้ง MP และเทิร์นมากกว่านั้น ส่วนนี้มีผลอย่างมากกับเทิร์นต่อเนื่องที่เราได้รับมา

นอกเหนือจากสกิลพิเศษแล้ว สกิลปกติจาก Archetype นั้นสามารถใช้ได้ถี่และยืดหยุ่นมากกว่า เราสามารถปรับแต่งปาร์ตี้ผ่าน Archetype ได้ อย่างเช่น เราทำทั้งทีมเป็น DPS หมดเลยก็ได้ แล้วก็แอบใส่สกิล support เข้ามาผ่าน Archetype โดยที่ไม่ต้องมีตัว support แบบจริงจัง หรือเราจะผสมให้ตัวละครสามารถมีการโจมตีแบบเวทย์มนตร์หลากหลายธาตุเพื่อรับมือสถานการณ์ได้หลากหลายรูปแบบ เพราะว่าถึงแม้ระบบ Archetype จะดูสะดวกอย่างมากแต่มันเปลี่ยนระหว่างการต่อสู้ไม่ได้(ไม่งั้นโกงละ) ทำให้ต้องมีการเตรียมตัวก่อนลงดันเจี้ยนเสมอ

บางคนอาจจะคิดว่าระบบนี้อาจจะเป็นข้อเสีย แต่ผู้เขียนคิดว่ามันน่าดึงดูดมากกว่า(แน่นอนว่าผู้เขียนเป็นสายวางแผนก่อนสู้แบบสุดทาง) ทำให้เวลาเราเข้าสู่การต่อสู้แล้วไม่ต้องมาคิดเรื่องการปรับแผนหน้างานมากนัก รวมทั้งทำให้เราใส่ใจในส่วนของการสำรวจหรือกิจกรรมอื่นมากขึ้น เพราะว่าจะมีเควสหรือบางร้านค้าขายข้อมูลจุดอ่อนมอนสเตอร์ที่เราต้องพบเจอในอนาคตได้

บางคนอาจมีคำถามว่า ถ้าเราวางแผน หาข้อมูลทุกอย่างก่อนแบบนี้ ตัวละครนำทางอย่าง Gallica จะมีบทบาทลดลงไปหรือไม่ คำตอบคือตัวเธอนั้นมีบทในเนื้อเรื่องแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการสำรวจผ่านสกิล Fae Sight ที่ทำให้เห็นข้อมูลของพื้นที่โดยรอบชัดเจนขึ้น ทั้งรายละเอียดของศัตรู เลเวล ความแข็งแกร่ง เพราะถ้าเราเดินดุ่มๆ ไปไม่มองอะไรอาจโดนรุมกระทืบได้

แม้ Metaphor: ReFantazio จะดูเป็นเกม RPG ที่มีความยากสูง แต่ทีมงานก็ได้ใส่ระบบ Retry ซึ่งสามารถย้อนกลับไปสู้ตอนเริ่มต้นไฟท์ได้เรื่อยๆ เรียกว่าเป็น QoL ที่ดีมากเพราะเราไม่จำเป็นต้องวนโลหดเซฟใหม่รัวๆ เมื่อตัวแตก แถมยังทำให้รู้ว่าศัตรูแต่ละตัวนั้นจู่โจมอย่างไร แพ้ธาตุไหน แล้วก็จดจำเพื่อวนกลับไปกระทืบศัตรูอีกครั้ง อ้อจุดอ่อนที่เจอ เกมนั้นจะบันทึกเอาไว้ด้วยไม่ต้องจำเอง 555

ส่วนของการวางแผนเกมนี้ได้เพิ่มความลึกจากเกมอื่นๆ ด้วยการใส่ระบบการจัดเรียงปาร์ตี้ เราสามารถวางตำแหน่งพร้อมทั้งสลับตัวละครให้ยืนหน้าหรือยืนหลังได้โดยไม่เสียเทิร์น ตัวที่ยืนหน้านั้นจะมีพลังโจมตีสูงขึ้นแลกมากับพลังป้องกันที่ลดลง เช่นเดียวกันถ้ายืนแนวหลังผลก็จะกลับกัน หรือบางสกิลนั้นจะใช้ได้ต่อเมื่อวางตำแหน่งของตัวละครไว้ในรูปแบบที่กำหนดเท่านั้น อย่างเช่น สกิลฮีลใช้ได้ผลแค่แถวเดียว หรือสกิลตีไกลต้องวางไว้ตำแหน่งหลังเท่านั้น

ระบบนี้ทำให้ความหลากหลยของเกมเพลย์มีมากขึ้น เล่นรอบนี้ลองแบบหนึ่ง อีกรอบลองแบบหนึ่ง สามารถทดลองเปลี่ยนบางจุดก็ได้ ทำให้ Metaphor: ReFantazio มีความน่าสนใจมากกว่าเกม turn-based อื่นๆ

การออกแบบภาพสุดโดดเด่น

จุดเด่นของ Atlus ที่ไร้ข้อครหาก็คืองานออกแบบ เราเห็นจุดเด่นนี้ตั้งแต่การเปิดเผย UI เป็นครั้งแรก Metaphor: ReFantazio ใช้การออกแบบภาพและสีสไตล์คลาสสิค เพิ่มเติมความ abstract แถมยังกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับพื้นหลังของโลกภายในเกม ทั้งท้องฟ้า เมฆ สถานที่ เรียกว่ามีความสวยงามเป็นอย่างมากแถมยังเป็นเอกลักษณ์พร้อมกับเพลงประกอบที่เหมาะสมอีกด้วย

ส่วน UI บางคนอาจจะมองว่ามันดูอาร์ตจนรกมากเกินไปหน่อย แต่เมื่อเราเล่นไปสักพักก็จะชินแล้วมองว่ามันดูสวยงาม แต่ก็ไม่ใช่ว่าเกมจะไม่มีข้อติ เพราะว่าความพยายามออกแบบสุดอาร์ตนี้ตัวเกมดันออกมาไม่ได้สุดในบางจุด อาจจะเพราะ Metaphor: ReFantazio นั้นยังใช้ engine ในการสร้างแบบรุ่นเก่าอยู่ ทำให้กราฟฟิคในบางจุดนั้นออกมายอดเยี่ยม แต่บางจุดก็ดูตกยุค โดยเฉพาะในส่วนของ โมเดลตัวละคร 3D วิธีแก้คือการกด 200% Rendering Scale

สำหรับการลองเล่น PC ทีมของเราพบว่ามันเกิดปัญหาอยู่พอสมควร จนต้องไปแก้ไขเพื่อให้เล่นได้อย่างราบลื่น(ซึ่งมันไม่ใช่วิธีที่เกมนั้นให้มา) หวังว่าทีมงานจะมีการแก้ไขแพทช์ในอนาคต

ความแตกต่างกับ Shin Megami Tensei และ Persona

นี่คือรีวิวทั้งหมดของเราแล้ว แต่หลายคนยังมีคำถามว่าตัวเกมนั้นแตกต่างอย่างไรกับทั้ง Shin Megami Tensei และ Persona โดยเฉพาะที่เราเคลมไว้ว่านี่แหละคือเสาหลัก IP ใหม่ของ Atlus นอกจากส่วนที่เรารีวิวมาก่อนหน้า ส่วนสำคัญคือเนื้อเรื่องและโลกที่ทีมงานนั้นนำเสนออกมา ถ้าเป็น Shin Megami Tensei นั้นจะนำเสนอวันสิ้นโลกที่เกิดจากความขัดแยกระหว่างเทวดาและปิศาจ ส่วน Persona จะเกี่ยวข้องกับชีวิตของนักเรียนม.ปลาย ที่เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ในขณะที่ Metaphor จะเน้นความแฟนตาซีแบบสุดทางแถมด้วยปรัชญาที่เกี่ยวข้องกับโลกแห่งความเป็นจริงอีกด้วย

ผู้เขียนอยากวนกลับไปพูดถึงระบบ Follower system ที่เหมือน Social Link ของ Persona ตัวละครที่เราสามารถสร้างความสัมพันธ์ได้อาจจะไม่เยอะเท่า รวมถึงระดับสูงสุดนั้นจะอยู่แค่ 8 แทนที่ 10 แต่ว่าเนื้อเรื่องที่เล่าผ่านตัวละครที่ตัวเอกนั้นเกี่ยวข้องด้วยออกแบบมาได้อย่างดี ไม่ม่ตัวไหนที่รู้สึกอ่อนด้อยไปกว่าตัวอื่น ส่วนความสามารถของการเพิ่มระดับนี้ก็จูงใจให้เราสร้างความสัมพันธ์ เพราะเราจะได้เข้าถึง Archetypes ใหม่ๆ ได้สกิลเพิ่มเติม สิ่งเหล่านี้ช่วยให้การผจญภัยของเราง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันก็ผลักดันตัวละครไปข้างหน้าด้วย พอมาเทียบกับ Persona ซึ่งระบบความสัมพันธ์เราสามารถปล่อยจอยไม่ทำก็ได้ ใน Metaphor นั้นจะมีความจำเป็นมากกว่า

ความต่างอีกอย่างก็คือ ตัวเอก Metaphor: ReFantazio นั้นพูดได้ ใช่พูดจริงจังและเยอะด้วย ไม่ใช่สายเงียบขรึมแบบดอกพิกุลจะร่วงจากปากแบบตัวเอกอื่นๆ ทำให้เรารู้สึกเชื่อมต่อกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้ง่ายมากขึ้น ก็ต้องบอกว่าการออกแบบตัวเอกทั้งสองแบบนั้นมีจุดเด่นจุดด้อยต่างกัน แต่หากตัวเอกของภาคต่อๆ ไปใน Shin Megami Tensei หรือ Persona เป็นคนช่างพูดก็ดูดีอยู่ไม่น้อยเลยนะ

ปิดท้ายในด้านความซาดิสม์ของเกมเพลย์ เรารู้อยู่แล้วว่า Shin Megami Tensei ทำมายากแบบโคตรพ่อโคตรแม่ โดยเฉพาะภาคเก่าๆ ในวัยเด็ก ที่ไม่รู้ว่าต้องยากอะไรขนาดนั้น(แต่มันก็หล่อหลอมให้ผู้เขียนชอบเกมยากนะ 555) ส่วน Persona จะมีความง่ายเข้าถึงผู้คนได้หลากหลายกว่า Metaphor: ReFantazio นั้นมาอยู่จุดตรงกลาง โดยไม่ได้ยากแบบนรกแตกเฉกเช่น Shin Megami Tensei แต่แค่ความยากระดับ normal นั้นก็มากกว่า hard mode ของ Persona แล้ว แถมยังมีความลึกในด้านเกมเพลย์ส่วนต่อสู้เพิ่มเติมมาอีก

สรุป รีวิว Metaphor: ReFantazio

การขัดเกลาที่ใช้เวลานานของ Metaphor: ReFantazio นั้นออกดอกออกผล เราได้สัมผัสเกมมาหลายต่อหลายครั้งและพบว่ามันดีมากขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าพัฒนามามากจาก PROJECT Re FANTASY แต่ในขณะที่มีสิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ถ้าได้สัมผัสโดยที่ไม่รู้รายละเอียดอะไรเลย เราก็ยังรู้ว่านี่คือเกมของ Atlus และมันจะเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์หลักที่เพิ่มขึ้นมาของค่ายโดยสร้างจุดขายที่แตกต่างจากเกมพี่ๆ อย่างชัดเจน และบอกได้เลยว่าเกมนี้จะเพิ่มความเข้มข้นในการชิง Game of the Year ไปอีกขั้นและคาดว่าต้องเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงอย่างแน่นอน(Persona 3 Reload เหงื่อตกละนะ 555)

ข้อดี

  • เนื้อเรื่องน่าสนใจ เข้มข้น ดึงดูดให้ติดตามอยู่ตลอด
  • ตัวละครหลักและรองมีบทน่าจดจำ
  • การออกแบบ UI และสไตล์ภาพเป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการต่อสู้ที่ดีที่สุดของ Atlus
  • เพลงประกอบหลากหลายแนว แถมเข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม
  • ความรู้สึกระหว่างการผจญภัยที่เปรียบได้ดั่งเกม Open-world

ข้อเสีย

  • มีกราฟฟิคบางส่วนดูตกยุค โดยเฉพาะโมเดลเหล่าตัวละคร
  • เวอร์ชั่น PC ทำการ optimize มาได้ไม่ค่อยดี ส่งผลด้าน performance

คะแนน 9/10


อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ

Tags: AtlusMetaphor : ReFantazioReview
ShareTweetPin
Previous Post

Wonderland M ปล่อย PC Launcher เล่นบนคอมพ์ฟิลหลายหน้าจอได้แล้ว

Next Post

[TGS 2024] คุยหลังเล่น เดโม Metal Gear Solid Δ: Snake Eater ภาค Remake ที่คาดหวังได้

Norrachai Anansakdakul

Norrachai Anansakdakul

Book - เภสัชกรผู้เสพติดเกม รวมถึงชอบงานเขียน สามารถหายไปเป็นวัน เพราะการเล่นเกม Turn Base Strategy ได้

Related Posts

บทสัมภาษณ์ Zenless Zone Zero กับ โปรดิวเซอร์ Zhenyu Li – ระบบ Co-op PV Multiplayer ในอนาคต?
Android

บทสัมภาษณ์ Zenless Zone Zero กับ โปรดิวเซอร์ Zhenyu Li – ระบบ Co-op PV Multiplayer ในอนาคต?

June 6, 2025
รีวิว Elden Ring Nightreign – แนวคิดดี แต่ยังไม่สมบูรณ์
ทั้งหมด

รีวิว Elden Ring Nightreign – แนวคิดดี แต่ยังไม่สมบูรณ์

June 4, 2025
พรีวิว RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army – การคืนชีพเกมคลาสสิกที่มีแนวทางแตกต่างจากแฟรนไชส์
Nintendo Switch

พรีวิว RAIDOU Remastered: The Mystery of the Soulless Army – การคืนชีพเกมคลาสสิกที่มีแนวทางแตกต่างจากแฟรนไชส์

June 4, 2025
Next Post
[TGS 2024] คุยหลังเล่น เดโม Metal Gear Solid Δ: Snake Eater ภาค Remake ที่คาดหวังได้

[TGS 2024] คุยหลังเล่น เดโม Metal Gear Solid Δ: Snake Eater ภาค Remake ที่คาดหวังได้

Discussion about this post

ติดตามเราได้ที่ Facebook

รีวิว

รีวิว Clair Obscur: Expedition 33 เกมระดับ AAA แรกของค่ายที่เปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
Playstation

รีวิว Clair Obscur: Expedition 33 เกมระดับ AAA แรกของค่ายที่เปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม

April 23, 2025
รีวิว Venus Vacation PRISM : DEAD OR ALIVE Xtreme – เกมจีบสาวที่มีทุกสิ่งที่ควรมี
ทั้งหมด

รีวิว Venus Vacation PRISM : DEAD OR ALIVE Xtreme – เกมจีบสาวที่มีทุกสิ่งที่ควรมี

April 16, 2025
รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่
Nintendo Switch

รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่

April 8, 2025
พรีวิว Den of Wolves เอกลักษณ์การปล้นเป็นทีม ในโลกอนาคต
ทั้งหมด

พรีวิว Den of Wolves เอกลักษณ์การปล้นเป็นทีม ในโลกอนาคต

April 1, 2025
พรีวิว DOOM: The Dark Ages ความมันส์สุดเดือดในยุคกลาง
ทั้งหมด

พรีวิว DOOM: The Dark Ages ความมันส์สุดเดือดในยุคกลาง

March 31, 2025
พรีวิว Clair Obscur: Expedition 33 หนึ่งในที่มีโอกาสเป็นเกมยอดเยี่ยมของปี 2025
Playstation

พรีวิว Clair Obscur: Expedition 33 หนึ่งในที่มีโอกาสเป็นเกมยอดเยี่ยมของปี 2025

March 4, 2025 - Updated on March 7, 2025
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

No Result
View All Result
  • Home
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • เกี่ยวกับเรา

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In