ก่อนหน้าการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Unicorn Overlord ในวันที่ 8 มีนาคม ทางทีมของเราได้โอกาสลองเล่นช่วง 3 ชั่วโมงแรกของเกมที่สำนักงานใหญ่ของ SEGA ในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับ demo ที่ปล่อยให้ทุกคนเล่นกันเป็นที่เรียบร้อย สำหรับใครที่ยังไม่ได้เล่น สามารถมาอ่านพรีวิวประสบการณ์ที่เราได้สัมผัสมาใน พรีวิว Unicorn Overlord นี้
Unicorn Overlord คือเกมแนว tactical RPG จาก Vanillaware ซึ่งทีมพัฒนานี้มีความคุ้นเคยกับเกมแนวนี้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมีคนเฝ้ารอกันมากมาย ตัวอย่างเกมก็เช่น will soon be Dragon’s Crown, Odin Sphere หรือ 13 Sentinels: Aegis Rim.
นอกจากเกมเพลย์แล้ว เอกลักษณ์ของทีมพัฒนา Vanillaware ก็คืองานภาพที่ทางทีมก็นำมาใช้กับ Unicorn Overlord ที่หาได้ยากเมื่อเทียบกับเกมแนว 2D เหมือนกัน
สำรวจโลก Fevrith
เกมเพลย์และเนื้อเรื่องโดยรวมของ Unicorn Overlord จะเป็นการเล่าถึงพื้นที่อันกว้างขวางของ Fevrith ไล่สำรวจทำภารกิจต่างๆ และครอบครองดินแดนเข้ามาอยู่ใต้อาณัติของตัวละครเรา แน่นอนว่าด้วยความเป็นโลกกว้างขนาดนี้ก็ต้องมีอะไรให้ทำอยู่มากมายแบบสากะเบือยันเรือรบ
สำหรับตัวเนื้อเรื่องหลัก การครอบครองดินแดนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดภายในเกมนี้ รวมทั้งการรวบรวมทรัพยากรเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอำนวยความสะดวกในพื้นที่ที่เรายึดครอง การหาพรรคพวกเพื่อไปปกครองป้องกันดินแดนที่เราอุตส่าห์หามาได้ดังนั้นค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครก็เลยมีบทบาทขึ้นมาทันทีภายในเกมนี้ อารมณ์เหมือนเป็นเกมจีบหนุ่มจีบสาวกลายๆ เพราะต้องหาของขวัญ เชิญมากินข้าวด้วย ไปทำภารกิจร่วมกันเพราะทั้งหมดจะช่วยเพิ่มค่าความสัมพันธ์และค่าสถานะโดยรวม รวมทั้งมินิเกมยิบย่อยอีกมากมายให้เราได้เล่นกัน
ระบบความคืบหน้าและการต่อสู้ในโลกใหญ่
ในขณะที่เราสำรวจแผนที่บางครั้งเราจะเข้าสู่ battle stage ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็คือการต่อสู้นี้เกิดขึ้นแบบ real time ดังนั้นอาจจะมีหลายจุดเกิดขึ้นพร้อมกัน แต่ละด่านก็จะมีเงื่อนไขการชนะต่างกัน ซึ่งจะยากง่ายก็แล้วแต่ว่าคุณบริหารพื้นที่ได้ดีขนาดไหน
พวก battle stages สามารถเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่อง ภารกิจเสริม หรือบางทีก็ไม่เกี่ยวกันเลย แต่ว่า battle stages ถือเป็นเกมเพลย์หลักโดยการต่อสู้นั้นแต่ละครั้งเราสามารถมีสมาชิกได้มากสุด 6 คนด้วยกัน
เมื่ออยู่ใน battle stage สมาชิกแต่ละคนสามารถวางในสนามรบโดยการใช้ Valor points ซึ่งเพิ่มขึ้นโดยการยึดป้อม หรือกำจัดศัตรู
แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถไปไล่ทุบแบบไม่แคร์สื่อได้ให้หมดแผนที่เพราะว่าทางทีมพัฒนาได้เพิ่มระบบ stamina system ที่จะลดลง 1 ทุกครั้งเมื่อเข้าสู่การต่อสู้ และเมื่อ stamina หมดลงปาร์ตี้ของเราจะขยับไม่ได้และเข้าสู่สถานะ defenseless ซึ่งศัตรูในแผนที่สามารถเลือกโจมตีเราในช่วงเวลานี้ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับวิธีการเพิ่ม stamina เราสามารถนำตัวละครไปวางในเมืองที่เคยยึดมาหรือใช้คำสั่งหยุดพัก แต่ในเมืองย่อมปลอดภัยกว่าเพราะระหว่างหยุดพักในที่โล่งแจ้งอาจจะถูกซุ่มโจมตีได้เช่นกัน
ระบบการต่อสู้
สำหรับระบบการต่อสู้จริงๆ ของ Unicorn Overlord ออกจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง เพราะเราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ละตัวละครจะมี Action Points (AP)(เพชรแดง) และ Passive Points (PP)(เพชรฟ้า) ซึ่งทั้งสองอย่างจะบอกว่าตัวละครสามารถทำอะไรได้ และเกมเพลย์การต่อสู้จะจบลงเมื่อมีการใช้ทุกอย่างหมดหรือฝั่งเราพ่ายแพ้
ถ้าฝั่งเราใช้ AP จนหมดแล้ว กองกำลังนั้นจะถูกน็อคในสนามรบของ battle stage(ใช่ครับมันคือเกมซ้อนเกมอีกที) ทำให้กองกำลังนั้นไม่สามารถเคลื่อนไหวได้และสามารถถูกจัดการซ้ำในโลกหลักได้ง่ายขึ้น ส่วน PP ก็มีไว้ตามชื่อเป็น Passive Skills เมื่อเข้าเงื่อนไข ในตอนแรกๆ แต่ละตัวละครมีแค่ 1 AP และ 1 PP แต่ก็มากพอในการเอาชนะก่อนที่จะหมด ซึ่งหลังจากนั้นจะได้เพิ่มเมื่อตัวละครแข็งแกร่งขึ้น
อย่างที่บอกไปว่ามันคือเกมซ้อนเกม ตัวที่แพ้ในการต่อสู้ก็แค่ร่วงในโลกจริง ซึ่งเราสามารถเอาตัวละครเหล่านั้นไปพักเพื่อฟื้นฟูได้ หรือไม่ก็ปล่อยไว้เมื่อเวลาผ่านไปเดี๋ยวก็ลุกขึ้นมาได้เอง แต่แน่นอนว่าถ้าทุกตัวล้มหมดแล้วจะเอาอะไรมาปกป้องเมืองระหว่างที่ทุกตัวกำลังฟื้นฟูอยู่ ดังนั้นพวกไอเทมเพื่อถ่วงเวลาการเดินทัพศัตรูก็จะมีผลในส่วนนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้ Unicorn Overlord มีความเป็นเกมวางแผนมากกว่า Tactical RPG ทั่วไป
สำหรับคนที่มองว่า เอ๊ะ ถ้าตีออโต้หมดแล้วนอกจากคุมกองทัพใหญ่ในภาพกว้างแล้วเราจะทำอะไรได้อีก สำหรับการต่อสู้ในภาพย่อยแล้วเราสามารถวางกลยุทธ์บางส่วนได้อย่างการเซ็ตให้ตัวฮีล เน้นฮีลตัวแทงค์ก่อนแม้ตัวเองจะเลือดลด หรือให้เล็งโ๗มตีเป้าหมายบางประเภทก่อนเป็นต้น
คลาสและ Customize
พูดถึงการวางแผน นอกจากภาพใหญ๋ในสนามรบแล้ว ในแต่ละการต่อสู้ย่อมมีอาชีพที่หลากหลายในปาร์ตี้ ดังนั้น 6 ตัวละครของเราก็จะถูกแบ่งออกเป็น 3 แนวหน้า 3 แนวหลัง แน่นอนสายแทงค์ยืนหน้า สาย support หรือ DPS ยืนหลังตามปกติของเกมทั่วไป
ตัวละครที่มีไม่ว่าจะมีชื่อหรือไม่มีชื่อก็จะมีอาชีพหลากหลาย ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในระบบแพ้ทางในลักษณะเป่ายิงฉุบ ตัวอย่างเช่น คลาสทหารม้า จะได้เปรียบคลาสเดินเท้าทั้งหมดแต่ก็เสียเปรียบคลาสที่บินได้ ส่วนฝั่งเดินเท้าสายธนูก็ได้เปรียบตัวบิน หรืออีกฝั่งอย่าง Guard สามารถกันความเสียหายกายภาพได้ดี แต่ว่าโดนเวทย์แรง เรียกได้ว่าถึงเป่ายิงฉุบก็จริง แต่มีวงเป่ายิงฉุบหลายวงเต็มไปหมด
ในด้านการ customize ต่อให้เป็นตัวละครเดียวกันเราก็สามารถอัปเกรดให้มีจุดเด่นต่างกันได้ จะให้เป็น Thief สาย Tank หลบรัวๆ ก็ทำได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังสามารถเปลีย่นชื่อ เปลี่ยนสีชุด หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนเสียงก็ได้แล้วแต่เราต้องกัน
ระบบการหาตัวละครนี้จะมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเราได้ทำการปลดปล่อยและยึดเมืองเพิ่มขึ้น ดังนั้นการขยายอาณาเขตจะเป็นเกมเพลย์บังคับและเกมเพลย์หลักที่เราต้องทำในสไตล์เกม RPG นั่นเอง
สรุป พรีวิว Unicorn Overlord
แน่นอนงานภาพ Vanillaware ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยทั้งการออกแบบตัวละคร การออกแบบสภาพแวดล้อมภายในเกม ในส่วนของเกมเพลย์มันอาจจะเป็น Tactical RPG ที่ซับซ้อนขึ้นเสียหน่อย แต่ความจริงมันง่ายกว่า Tactical RPG ทั่วไปดังนั้นน่าจะเป็นการเปิดฐานแฟนใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยเล่นเกมแนวนี้มาก่อน และหากเป้ฯคนที่ชอบ Tactical RPG ก็จะได้เจอระบบใหม่ๆ เข้ามาผสมให้ไม่น่าเบื่อ
สำหรับระบบการ Customize และการเติบโตของตัวละครเรียกว่ามีความ RPG แบบเต็มเปี่ยมทั้งคลาสที่แตกต่างกัน ภายในคลาสเดียวกันก็แยกย่อยการเล่นไปต่างๆ นาๆ การคุมพื้นที่เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้เรามีกองทัพไว้เลือกใช้สอยได้เพิ่มมากขึ้นตาม ทำให้การเล่นแต่ละครั้งมีความแตกต่างกันไปไม่มากก็น้อยอยู่เสมอ ดังนั้นนี่คืออีกหนึ่งเกมดีของค่าย Vanillaware ไม่ว่าจะเป็ฯมือใหม่หรือมือเก่าก็ตาม
Unicorn Overlord เตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 8 มีนาคมบน PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox Series และ Nintendo Switch แน่นอนสำหรับชาว Switch สามารถลองเล่นเกมได้แบบเดโมตั้งแต่วันนี้ ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ จะตามมาในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ เว็บไซต์ทางการ และสุดท้ายนี้ขอขอบคุณ SEGA ที่ให้เราได้ทดสอบตัวเกมล่วงหน้าทำให้เกิด พรีวิว Unicorn Overlord ขึ้นมาได้
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post