คุยหลังเล่น พรีวิว Zenless Zone Zero เดโมของรอบสื่อ เจาะลึก end game content

ใครที่ติดตามกันมาก่อนหน้า จะรู้ว่าทีมของเราได้โอกาสไปเป็นสื่อเยี่ยมชม Hoyoverse พร้อมทั้งเข้าร่วมอีเวนต์ของ Zenless Zone Zero นอกจากการได้สัมภาษณ์กับทาง Zhenyu Li โปรดิวเซอร์ของ Zenless Zone Zero แล้วเรายังได้รับโอกาสทดลองเล่นเดโมรอบสื่อ ซึ่งเรียกว่าแทบจะไม่มีความแตกต่างจากตัวเกมเต็มที่กำลังจะเปิดให้เล่นเร็วๆ นี้ หลังจากเล่นมาแล้วมาคุยกันว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากที่ทุกคนเคยสัมผัสมาในช่วง HoYo FEST 2023 หรือ CBT ใน พรีวิว Zenless Zone Zero นี้

Disclaimer: เดโมที่ทดลองเล่นอาจมีการปรับเปลี่ยนได้ในเวอร์ชั่นจริง ดังนั้นข้อมูลบางจุดจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ

สำหรับเกมเพลย์ที่เราได้สัมผัสนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วนโดยใช้เวลารวม 5 ชั่วโมง ซึ่งทางทีมงานมีไอดีที่ตัวละครทุกตัว level 60 โดยประกอบไปด้วยทุกตัวที่ประกาศมาแล้ว(จนถึงวันนี้) รวมถึงอาวุธและ Bangboo เพื่ออำนวยความสะดวกในการเล่น

เกมเพลย์และระบบต่อสู้

ในด้านของเกมเพลย์และระบบต่อสู้ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้าทั้งเดโมหรือ CBT จะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงนัก ตัวเกมยังคงเน้นเกมเพลย์แบบแอคชั่น ต่อคอมโบด้วยการโจมตีปกติและใช้สกิลพิเศษ รวมไปถึงการหลบหลีกและสวนกลับซึ่งถือว่าเป็นแกนหลักของเกมแอคชั่นแบบ Hack and Slash ซึ่งอาจจะมีตัวละครบางตัวที่มีเทคนิคการเล่นแตกต่างกันออกไป(จะไม่ลงส่วนนี้ลึกเพราะหลายๆ คนรู้อยู่แล้ว)

ตัวละครในเกมนี้ (Agent) จะมีการแบ่งหน้าที่เหมือนกับเกมอื่นๆ ในค่ายเพียงแต่ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน เราสามารถปรับเปลี่ยนบิวด์ให้เข้ามือเราได้ พร้อมกับระบบ Faction และ ธาตุของตัวละคร ส่วนความลื่นไหลต้องบอกว่าพัฒนามาจากช่วงเดโมอยู่พอตัวซึ่งใครที่ได้ทดสอบ CBT มาอาจจะสัมผัสความเปลี่ยนแปลงนี้ไปเรียบร้อยแล้ว

Zhu Yuan

ใช่ครับ ส่วนนี้คือการอวยตัวละครล้วนๆ ถึงแม้ว่าทีมงานจะมีตัวละครมาให้เราทดสอบครบทุกตัวเท่าที่มี แต่เราจะอวย Zhu Yuan เป็นพิเศษจากเกมเพลย์ของเธอที่สามารถจ่ายความเสียหายได้สองแบบในตัวละครเดียวทั้งกายภาพและ Ether

โดยเกมเพลย์ Zhu Yuan จะมีด้วยกัน 2 โหมดคือ Assault Mode และ Suppressive Mode สำหรับ Assault Mode หลังจากการโจมตีครบ 5 ครั้งเต็มคอมโบหรือท่าอื่นๆ (Quick Assist, Assist Follow-Up, EX Special Attack, Chained Attack และ Ultimate) เราจะได้ชาร์จ “Enhanced Shotshell” ซึ่งถ้าเรากดค้างโดยมีค่าสถานะนี้อยู่จะเปิด Suppressive Mode สร้างความเสียหาย Ether จำนวนมากโดยใช้ชาร์จ Enhanced Shotshell 1 ชาร์จ ซึ่งเราสามารถเก็บได้สูงสุด 9 ชาร์จแล้วอัดรัวๆ เลยก็ได้ แถมท่าต่างๆ ยังมีทั้งเข้าออกตั้งแต่ระยะใกล้ถึงไกล เรียกว่าเปิดตัวเดียวได้เกมเพลย์แบบคุ้มๆ

Endgame Content

สำหรับผู้เล่นสายสปีดรันที่เล่นไม่ถึงอาทิตย์แล้วก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรทำและเสาะแสวงหา eng game content อยู่ ทางเราก็ไปลองมาให้แล้วโดยมีทั้งหมด 4 โหมดด้วยกันได้แก่ Hollow Zero, Notorious Hunt, Routine Cleanup และ Shiyu Defense

Hollow Zero

สำหรับโหมดนี้ถ้าให้เปรียบเทียบกับ Honkai: Star Rail ก็คือ Simulated Universe ในโหมด Swarm Disaster หรือ Gold and Gears แต่แทนที่เราจะขยับไปทีละช่องเป็นด่านๆ เราจะเปลี่ยนด่านผ่าน TV แทน โดยแต่ละโซนจะมีบอสแตกต่างกันออกไป ซึ่งแต่ละโซนก็จะให้รางวัลในการเคลียร์ครั้งแรกและรางวัลการเคลียร์ตามปกติ (credits, XP, Withered Crystals, Bangboo XP, Investigation Points) แต่ละโซนจะมีระดับความยากตั้งแต่ Normal, Hard, High-Risk, และ Disaster ซึ่งยิ่งยากก็จะยิ่งได้ Investigation Points ไว้รับรางวัลทุกการรีเซ็ต

สำหรับเวลารีเซ็ตนั้นโหมดนี้จะอยู่ที่ทุกๆ 2 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังมีเควส bounty commission จำกัดเวลาที่ให้เคลียร์ประมาณ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์มาให้รับของเราวัล(bounty commission จะแบ่งเป็นแบบ special และ common ซึ่งแบบ special จะรีทิ้งไม่ได้แต่ได้รางวัลเยอะกว่า common ที่รีเพื่อหา commission rank สูงๆ ได้)

ในด้านเกมเพลย์สำหรับใครที่ไม่ได้เล่น Honkai: Star Rail และไม่เห็นหน้าตาของโหมดนี้ ทุกการเล่น Hollow Zero เราจะเลือกตัวละคร 1 ตัวซึ่งจะเรียกว่า “leader” และตัวละครเสริมอีก 5 ตัวเป็น “squad members” (ดังนั้นใช้รวม 6 ตัว) โดยเมื่อเริ่มเล่นแล้วเราจะมีตัวละครที่เป็น leader ให้ใช้แค่ตัวเดียว แต่จะสามารถเพิ่มตัวละครที่เราเลือกเป็น squad members ไว้ก่อนหน้าได้เมื่อเล่นผ่านด่านไปเรื่อยๆ แต่ว่าจะสามารถใช้ได้แค่ 3 คนต่อทีมตามเกมเพลย์หลักเท่านั้น

นอกจากการผ่านด่านจะได้ตัวละครอื่นมาเสริมแล้ว เรายังได้ “Resonia” หรือ “Resonium” ที่เป็นบัฟให้ตัวละครเราไม่ว่าจะเพิ่มความเสียหาย เพิ่มอัตราคริ โดยจุดสำคัญคือการได้ Resonia ประเภทเดียวกันครบ 4 หรือ 8 บัฟ จะทำให้เราได้ Advanced Resonium ซึ่งเป็นบัฟที่ดีขึ้นกว่าเก่าแบบฟรีๆ เสร็จแล้วก็วนไปเรื่อยๆ เคลียร์ด่าน ได้บัฟ เคลียร์ด่านที่ยากขึ้นไปเรื่อยๆ

ความแตกต่างจากการรันแบบ Rougelike จากเกมอื่นก็คือเมื่อเราผ่านด่านไปเรื่อยๆ จะมีเกจที่เรียกว่า “Pressure” อยู่เมื่อครบ 100 เราจะโดน “Corruption” ซึ่งเป็นดีบัฟ ให้บอสตีแรงขึ้น หรือผลเสียต่างๆ ซึ่งถ้าโ๙คดีก็จะมีโอกาสเอาดีบัฟนี้ออกเช่นเดียวกัน

นอกจากความเป็น Rougelike ที่ถือเป็นข้อดีอย่างมากเพราะมันช่างดูดเวลา มาถึงข้อเสียคือการเดินสำรวจในพื้นที่และอนิเมชั่นของตัวเกมนั้นช้าพอตัว เรียกว่าต้องกด x2 อยู่ตลอด แต่มันก็ยังช้าอยู่ดี ถ้ามี x3 หรือ skip น่าจะถูกใจผู้เล่นมากกว่า

Notorious Hunt

Notorious Hunt โดยสรุปก็คือบอสรายสัปดาห์ ที่ต้องมาฟาร์มเพื่อเอาของไปอัปเกรดตัวละคร แต่ว่าต่างจากบอสรายสัปดาห์ของเกมอื่นๆ เพราะว่าก่อนจะเล่นจะได้เลือกบัฟ Resonium ก่อนที่จะสู้ด้วย

จากที่เราได้เล่นมามีบอสอยู่ทั้งหมด 3 ตัว ได้แก่ Newborn Dead End Butcher, Unknown Corruption Complex และ Twin Marionettes

Newborn Dead End Butcher เป็นบอสที่มี 2 เฟส ซึ่งช่วงแรกไม่ค่อยน่ากลัวนักด้วยการโจมตีจากหอกที่หลบไม่ยาก แต่ว่าในเฟส 2 จะมี 4 แขนทำให้ท่าโจมตีไวและยากต่อการหลบ จนบังคับให้เราใช้ parry หรือ defensive assist แทน

Unknown Corruption Complex หุ่นแมงป่องขนาดยักษ์ที่มีอาวุธติดอยู่แบบรอบตัวพร้อมทั้งหางของตัวมันเอง โดยมี 2 เฟสเช่นเดียวกัน พอถึง เฟส 2 หางจะสามารถยิง laser ระยะไกลได้ ทำให้บอสตัวนี้มีการโจมตีที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงไปตามมุมที่เรายืนสู้

Twin Marionettes ตามชื่อของบอส ตัวบอสจะอยู่เป็นคู่คอยช่วยกันเองในแต่ละจังหวะ และบังคับให้เราต้องจัดการทั้งคู่ลงในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่เช่นนั้นอีกตัวจะชุบอีกตัววนกันไปเรื่อยๆ แต่ก็มีวิธีที่ง่ายขึ้นในการสู้ด้วยการนำตัวละครที่มี stun หรือ freeze ซึ่งสามารถหยุดอนิเมชั่นการชุบได้

Routine Cleanup

เป็นโดเมนที่เอาไว้ฟาร์ม Drive Discs(หรืออาร์ติแฟก) ที่เราจะลงแล้วลงอีก โดยที่ทดสอบมาตอนนี้มีทั้งหมด 6 แบบ (รวมแล้วมี Drive Discs 12 ชนิด) โดยแต่ละดันจะมีบอส 2 ตัวโผล่มาพร้อมกัน

Shiyu Defense

ถ้าให้เทียบโหมดนี้ก็คือ Spiral Abyss (Genshin Impact) หรือ Memory of Chaos (Honkai: Star Rail) ที่เป็นที่สุดของ end game content ของ Zenless Zone Zero ซึ่งรายละเอียดก็เหมือนทั้งการมีบัฟประจำรอบ เปลี่ยนศัตรูให้มีความสามารถพิเศษเพิ่มขึ้น

แต่สำหรับเกมเพลย์จะแตกต่างออกไปบ้าง อย่างการที่เน้นในด้านการป้องกันเวฟของมอนสเตอร์เป็นเวลา 10 นาที

โดยระดับก็จะมี 2 แบบ ก็คือ Stable Node ที่อยู่ยาวๆ ตลอดทั้งเกมโดยจะใช้ตัวละคร 1 ทีมไปจนถึงเลเวล 6 ก่อนที่ระดับ 7 จะต้องใช้ 2 ทีมในการเคลียร์จนไปถึงเลเวล 10 จะปลดล็อค Critical Node ที่จะเป็นด่านที่รีเซ็ตให้เราฟาร์มซึ่งที่ทดสอบมาจะมีทั้งหมด 7 ด่าน

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Node จริงๆ ดูแล้วมีทั้งหมด 4 Node ซึ่งอาจจะเพิ่มมาในอนาคตอย่างเช่น Honkai: Star Rail มี 2 Memory of Chaos เพื่อให้ผู้เล่นไม่เบื่อกันนั่นเอง(แต่ตอนนี้เล่นได้แค่ 2)

สรุป พรีวิว Zenless Zone Zero

Zenless Zone Zero เป็นเกมที่ทุกคนรอคอยรวมถึงคนในทีมของเราเช่นเดียวกัน และตัวเกมก็ไม่ทำให้ผิดหวังทั้งการเล่นเดโมครั้งแรก CBT และ การทดสอบเล่นของรอบสื่อ ที่ตัวเกมพัฒนามาอย่างเป็นลำดับเสมอโดยเฉพาะในด้านความเป็นเกมแอคชั่น ที่ดึงดูดได้ทั้งผู้เล่นแอคชั่นจ๋าๆ หรือว่าผู้เล่นหน้าใหม่ที่ไม่ได้เล่นเกมแนวนี้เป็นหลัก(ส่วนเรื่องการฟาร์ม Drive Discs อันนั้นร่ำร้องกันแน่นอน 555) ใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนล่วงหน้าอย่าลืมไปลงกันได้ที่เว็บไซต์ทางการ

Zenless Zone Zero เตรียมเปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 กรกฎาคม 2024 บน PC, iOS, Android และ PlayStation 5

สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านบทสัมภาษณ์กับ โปรดิวเซอร์คุณ Zhenyu Li สามารถอ่านได้ที่นี่

---

อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ