แฟนๆ My Hero Academia รอคอยมานานสำหรับเกมที่สามารถถ่ายทอดความเข้มข้นของการต่อสู้ไคลแม็กซ์ของซีรีส์ได้อย่างแท้จริง และตอนนี้ Bandai Namco กำลังพยายามตอบสนองความคาดหวังเหล่านั้นด้วย MY HERO ACADEMIA: All’s Justice เกมต่อสู้ 3D arena ใหม่ที่มุ่งเน้นไปที่ Final War arc
จากประสบการณ์การทดลองเล่น พรีวิว MY HERO ACADEMIA: All’s Justice เป็นเวลา 15 นาที เกมนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโปรเจกต์ที่ทะเยอทะยานที่สุดในแฟรนไชส์ MHA เท่าที่เคยมีมา เวอร์ชันพรีวิวนี้มีสองโหมดหลักให้ได้ลอง: Story Mode ที่เน้นฉากภาพยนตร์ และ 3v3 Team Battle Mode ที่เต็มไปด้วยแอ็กชัน เรามาดูรายละเอียดทั้งหมดกันเลย
Story Mode – หวนคืนสู่สงครามครั้งสุดท้ายในรูปแบบใหม่
Story Mode ของ All’s Justice พาผู้เล่นเข้าสู่ใจกลางของภาคสงครามครั้งสุดท้ายทันที มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพียงการเล่าเรื่องซ้ำของอนิเมะ แต่เป็นประสบการณ์แบบภาพยนตร์ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่แถวหน้าของการต่อสู้ตัดสินระหว่าง Izuku Midoriya และ Tomura Shigaraki การผสมผสานระหว่างคัตซีนแบบภาพยนตร์และช่วงการต่อสู้ทำให้โหมดนี้รู้สึกมีชีวิตชีวา ราวกับว่าผู้เล่นเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ยิ่งใหญ่ของ My Hero Academia อย่างแท้จริง

บทแรกเริ่มต้นด้วย Midoriya และยังทำหน้าที่เป็นบทช่วยสอนเพื่อแนะนำการควบคุมพื้นฐาน ที่น่าสนใจคือ Bandai Namco ได้ยืนยันว่าโหมดเนื้อเรื่องนี้จะมีฉากพิเศษที่ไม่มีในอนิเมะด้วย ดังนั้น นอกเหนือจากการจำลองช่วงเวลาดราม่าที่คุ้นเคยแล้ว ผู้เล่นยังสามารถค้นพบจุดหักมุมใหม่ๆ ที่สดใหม่ได้อีกด้วย สิ่งนี้ทำให้ Story Mode เป็นมากกว่าแค่การหวนรำลึกถึงความหลัง แต่ยังเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดื่มด่ำอีกด้วย

3v3 Team Battle – แอ็กชันรวดเร็ว, การผสมผสานทีม และกลยุทธ์
ในขณะที่ Story Mode มุ่งเน้นไปที่การเล่าเรื่อง 3v3 Team Battle คือที่ที่แก่นของเกมเพลย์ถูกทดสอบอย่างแท้จริง แต่ละแมตช์จะเป็นการต่อสู้ระหว่างสองทีม ทีมละสามตัวละคร และผู้ชนะจะถูกตัดสินโดยผู้ที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ทั้งหมด ในตอนแรก การควบคุมให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างซับซ้อน มีการผสมผสานปุ่มมากมายให้เรียนรู้ ตั้งแต่การเคาน์เตอร์, การโจมตีระยะประชิด ไปจนถึงการทำลายการป้องกัน, การโจมตีที่ไม่สามารถป้องกันได้ และการหลบหลีก อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณคุ้นเคยแล้ว ระบบนี้จะเปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์มากมายทั้งในการรุกและการรับ
ฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่สุดคือการใช้พลังอัตลักษณ์ (Quirk) ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะตัวที่ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ พร้อมด้วยเอฟเฟกต์ภาพที่น่าทึ่ง เมื่อใช้ร่วมกับการผสมผสานในทีม การใช้พลังอัตลักษณ์เหล่านี้สามารถสร้างความเสียหายมหาศาลและสร้างการต่อสู้ที่เหมือนภาพยนตร์ได้

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Rising Mode ซึ่งเป็นโหมดบัฟที่เพิ่มค่าสถานะทั้งหมด ตั้งแต่พลังโจมตี, ความเร็วในการเคลื่อนที่ ไปจนถึงการฟื้นฟู ที่เป็นเอกลักษณ์คือ หากผู้เล่นเหลือตัวละครเพียงตัวเดียว Rising Mode จะเปิดใช้งานโดยอัตโนมัติ ทำให้มีโอกาสสุดท้ายสำหรับการกลับมาอย่าง драматиค
ยิ่งไปกว่านั้น การสลับตัวละครสามารถทำได้ตลอดเวลา ฟีเจอร์นี้ไม่ได้มีไว้เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่ยังสามารถใช้เพื่อต่อคอมโบ, หลบหนีจากสถานการณ์อันตราย หรือปล่อยการโจมตีสนับสนุนในจังหวะที่เหมาะสมได้อีกด้วย มีคูลดาวน์เพื่อป้องกันการใช้รัวๆ ดังนั้นจังหวะจึงเป็นกุญแจสำคัญ การผสมผสานขององค์ประกอบทั้งหมดนี้ทำให้การต่อสู้ให้ความรู้สึกที่รวดเร็ว, เข้มข้น แต่ก็มีกลยุทธ์

ตัวละครที่ครบครันและระบบใหม่ที่น่าตื่นเต้น
หนึ่งในข่าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดจาก All’s Justice คือการรวมสมาชิกทุกคนของห้อง 1-A เข้ามาเป็นตัวละครที่เล่นได้เป็นครั้งแรกในเกมคอนโซลของ MHA นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกของโปรฮีโร่และวิลเลินในร่างที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขา ดังที่เห็นในภาคสงครามครั้งสุดท้าย ตัวละครที่หลากหลายมากมายนี้ทำให้การเล่นเป็นทีมในโหมด 3v3 น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยการทดลองมากยิ่งขึ้น
ระบบ Rising ที่กล่าวถึงข้างต้นยังเพิ่มมิติใหม่ของกลยุทธ์เข้ามาด้วย ด้วยความสามารถในการปลดปล่อยพลังอัตลักษณ์ของคุณอย่างเต็มศักยภาพ การต่อสู้แต่ละครั้งสามารถไปถึงจุดไคลแม็กซ์ที่เข้มข้นอย่างแท้จริง มันให้ความรู้สึกที่เข้ากับธีมของสงครามครั้งสุดท้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่ซึ่งตัวละครทุกคนต่อสู้จนตัวตายราวกับว่าไม่มีอะไรจะมาฉุดรั้งพวกเขาได้อีก

สรุป พรีวิว MY HERO ACADEMIA: All’s Justice
จากประสบการณ์สั้นๆ กับ All’s Justice การต่อสู้ให้ความรู้สึกที่รวดเร็ว, ลื่นไหล และซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของอนิเมะเป็นอย่างมาก แอนิเมชันของพลังอัตลักษณ์มีรายละเอียด, เอฟเฟกต์ภาพน่าทึ่ง และท่าไม้ตาย Plus Ultra ก็มอบการแสดงที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คล้ายกับฉากไคลแม็กซ์ของซีรีส์ สิ่งที่ทำให้มันน่าดึงดูดยิ่งขึ้นคือความสมดุลระหว่างการเข้าถึงง่ายและความลึกของเกมเพลย์
การควบคุมนั้นง่ายพอที่จะเข้าใจได้ ทำให้เหมาะสำหรับผู้เล่นทั่วไป เนื่องจากมีโหมด “กดปุ่มรัว” (button smash) ที่คอมโบจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่ระบบ 3v3 และ Rising Mode ก็มีพื้นที่มากมายให้ผู้เล่นที่มีประสบการณ์ได้สำรวจกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ด้วยการผสมผสานระหว่างการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์, รายชื่อตัวละครที่ครบครัน และระบบการต่อสู้เชิงกลยุทธ์ MY HERO ACADEMIA: All’s Justice ดูพร้อมที่จะเป็นเกม MHA ที่ครอบคลุมและทะเยอทะยานที่สุดเท่าที่เคยมีมา Bandai Namco ประสบความสำเร็จในการทำให้มันไม่ใช่แค่การดัดแปลงอนิเมะ แต่เป็นการเฉลิมฉลองการต่อสู้ไคลแม็กซ์ที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้น

MY HERO ACADEMIA: All’s Justice จะวางจำหน่ายบน PlayStation 5, Xbox Series, และ PC แต่วันที่วางจำหน่ายยังไม่มีการประกาศมาตอนนี้ สามารถติดตามรายละเอียด wishlist หรือ pre-order ได้ที่ เว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post