สำหรับใครที่คุ้นเคยกับชื่อ Dead or Alive อยู่แล้วก็คงจะลืมไปบ้างว่านี่คือแฟรนไชส์ที่มีแกนหลักอยู่ที่แนวต่อสู้ เพียงแต่นับตั้งแต่การวางจำหน่ายของ Dead or Alive 6 ในปี 2019 ดูเหมือนว่า Koei Tecmo และ Team Ninja จะไม่ได้สนใจผลักดันการสร้างภาคใหม่ของซีรีส์นี้อีกต่อไป ยกเว้นแต่ในรูปแบบ spin-off บางภาค พวกเขากลับไปประสบความสำเร็จอย่างงดงามผ่านซีรีส์ Venus Vacation ที่เน้นคอนเทนต์ fanservice อย่างจริงจัง และเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของแฟน ๆ กลุ่มใหญ่ ในขณะเดียวกันก็นำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมแบบใหม่ พวกเขาก็ได้เปิดตัว Venus Vacation PRISM: DEAD OR ALIVE Xtreme อย่างเป็นทางการในที่สุด
ไม่เหมือนกับซีรีส์ Xtreme Venus Vacation ดั้งเดิม เกมใหม่นี้มาในรูปแบบของเกม visual novel แนว dating sim คลาสสิก แต่มีการนำเสนอด้วยภาพ 3D ที่มีเสน่ห์และมีชีวิตชีวา พร้อมกับใส่ระบบ gameplay เสริมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสนุก เนื่องจากตัวเกมเป็นแบบเล่นคนเดียว คอนเทนต์จึงมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น ผู้เล่นสามารถออกเดทกับ waifu ได้เพียง 5 คน จากบรรดาตัวละครมากมายในแฟรนไชส์ ถึงอย่างนั้นเราคิดว่านี่คือภาคที่ตอบสนองจินตนาการของแฟน ๆ หลายคนได้อย่างแท้จริง นั่นคือ การได้มีความสัมพันธ์แบบโรแมนติกกับ waifu จาก Dead or Alive ส่วนรายละเอียดเกมภาคนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน รีวิว Venus Vacation PRISM : DEAD OR ALIVE Xtreme ได้เลย
เนื้อเรื่อง
ตัวเกมมีฉากหลักอยู่บนเกาะ Venus Island โดยคุณจะได้รับบทเป็นเจ้าของรีสอร์ทพักร้อน และมีหน้าที่จัดงาน Venus Festival งานที่ว่าด้วยเรื่องของความงามและพลัง คุณจะได้ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการของสาว ๆ 6 คน ที่ถูกเรียกว่า Venuses สำหรับเทศกาลนี้ ได้แก่ Misaki, Honoka, Tamaki, Fiona, Nanami และ Elise โดยทั้งหมดมาจากซีรีส์ DOAXVV ยกเว้น Honoka ที่เป็นตัวละครยอดนิยมจากซีรีส์ Dead or Alive ดั้งเดิม สาวแต่ละคนมีบุคลิก ความปรารถนา และเป้าหมายเป็นของตัวเอง และพวกเธอหวังให้คุณช่วยพัฒนาและสนับสนุนพวกเธอ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อคุณได้พบกับ Misaki ในฐานะพนักงานพาร์ตไทม์ ก่อนที่คุณจะค่อย ๆ รับสาว ๆ คนอื่นเข้าสู่เทศกาลเพื่อขยายฐานแฟนคลับของงาน

นี่คือเกมแนว dating sim ที่เน้นความโรแมนติกแบบบริสุทธิ์ ไม่มีดราม่าหนัก ๆ คุณจะใช้เวลาอยู่กับสาว ๆ ผ่านช่วงเวลาธรรมดา เช่น พูดคุยบนชายหาด เดินเล่นยามพระอาทิตย์ตก หรือดูพวกเธอเติบโตขึ้นอย่างมั่นใจ นี่คือการผจญภัยในรูปแบบ visual novel จากมุมมองของคุณเอง โดยมีภาพ 3D ที่ช่วยให้ช่วงเวลาเหล่านั้นรู้สึกสมจริง ตัวเลือกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบทสนทนาหรือการกระทำของคุณ จะมีผลต่อการตอบสนองของสาว ๆ เปิดทางไปสู่ฉากใหม่ ๆ เส้นเรื่องเสริม หรือจุดจบที่ดีกว่าเดิม

Venus Festival นั้นดูเหมือนจะเป็นจุดสำคัญของเรื่องราว แต่กลับถูกเล่าด้วยความคลุมเครือ ตัวเกมจะพูดถึงการถ่ายภาพและวิดีโอเพื่อแฟน ๆ ที่เราไม่เคยเห็นหน้าค่าตา และแสดงให้เห็นเพียงผลลัพธ์ ไม่ใช่ตัวกิจกรรมจริง ๆ สิ่งนี้จึงรู้สึกแปลก เพราะมินิเกมในเกมควรจะเติมเต็มความสนุกในการจัดเทศกาล แต่กลับไม่มีการผจญภัยอันยิ่งใหญ่ ไม่มีเหตุการณ์เซอร์ไพรส์ หรือปมขัดแย้งใด ๆ ให้จัดการ มีเพียงฤดูร้อนอันยาวนานที่คุณต้องกังวลแค่การเลือกบทสนทนาที่ผิดพลาด ซึ่งก็ไม่ถึงขั้นทำให้คุณตกงานหรือถูก Venuses รังเกียจ และไม่มีฉากจบที่น่าเศร้าให้ต้องรับมือ

ห้อง Boss Office คือฐานหลักที่คุณใช้บริหารความสัมพันธ์และปรับแต่งตัวละครนอกเหนือจากการถ่ายภาพ คุณสามารถพูดคุยกับสาว ๆ เลือกชุดให้พวกเธอ ใช้โทรศัพท์เช็คความคืบหน้า ดูข้อมูลส่วนตัว และแน่นอนว่าบันทึกเกมได้ ผมสนุกกับ Venus Vacation PRISM และฉากจบดีครั้งแรกก็ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจ แต่การเล่นซ้ำเป็นอะไรที่น่าเบื่อ เพราะเกมไม่มีระบบข้ามบทหรือฉากที่เคยอ่านแล้ว โหมด Auto-forward ก็มีแต่ช้าหรือไม่แม่นยำเท่าที่ควร เนื้อเรื่องหลักยังซ้ำ ๆ เดิม ๆ ทำให้การเล่นซ้ำค่อนข้างน่าเบื่อ แม้เมนู Chapter จะโชว์เส้นทางฉากใหม่ ๆ แต่คุณไม่สามารถเริ่มจากตรงกลางหรือย้อนกลับไปยังบทก่อนหน้าได้เลย ฟีเจอร์นี้ถือว่าดีสำหรับแฟนที่ชอบเก็บเส้นเรื่อง แต่แย่สำหรับการเล่นซ้ำอย่างจริงจัง
จีบ Waifu บนเกาะสวรรค์
อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ตัวเกมมีสาว ๆ ที่เรียกว่า Venuses ให้คุณได้ปฏิสัมพันธ์ด้วยทั้งหมด 6 คน ได้แก่:
- Misaki: พนักงานพาร์ตไทม์ขี้อายที่อยากเข้าใกล้คุณให้มากขึ้น
- Honoka: นักเรียนสาวน่ารักที่มีความลับบางอย่าง
- Tamaki: ดีไซเนอร์ผู้ใหญ่ เซ็กซี่ และชอบหยอกล้อ
- Fiona: เจ้าหญิงไร้เดียงสาที่ตกหลุมรักคุณ
- Nanami: สาวงามตามธรรมชาติ ดูคูล ๆ แต่มีความสนใจในตัวคุณ
- Elise: ผู้ฝึกสอนสาวสวยสุดเข้มงวดที่ทำให้คุณมีวินัย
ในช่วงแรก สาว ๆ เหล่านี้อาจดูเป็นประเภทสาวในเกมจีบสาวที่คุ้นเคย Misaki กับบทสาวใหม่ขี้อาย, Honoka กับความสดใสร่าเริง, Elise กับบทคุณครูเข้มงวด, Fiona ที่เหมือนจะหลงใหลในตัวคุณอย่างผิดปกติและรู้เรื่องคุณมากกว่าที่ควรจะเป็น แต่เมื่อคุณใช้เวลากับพวกเธอมากขึ้น บุคลิกเฉพาะตัวของแต่ละคนจะเริ่มชัดเจนขึ้น Misaki พยายามทำงานหนักเพื่ออิสรภาพทางการเงิน, Honoka มีความรักในมวยปล้ำอาชีพและผูกพันกับคุณยายของเธอมาก ซึ่งเติมมิติให้เธอมากกว่าด้านขี้เล่นที่เห็นได้ชัด, ส่วน Fiona เองก็รู้สึกดึงดูดคุณเพราะเธออยากหนีจากชีวิตเจ้าหญิงที่แสนโดดเดี่ยว

ถึงแม้พวกเธอจะไม่ได้มีความซับซ้อนมากในด้านความรู้สึก แต่ก็มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ไม่ยาก การเลือกบทสนทนาที่เหมาะสมจะเผยให้เห็นด้านลึกของแต่ละคน: Misaki ชอบความซื่อสัตย์มากกว่าคำหวาน, Tamaki สนุกกับความเก้อเขินของคุณ, และ Fiona ก็จะยิ่งน่ารักและอบอุ่นขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคุณเปิดใจให้เธอมากขึ้น การตัดสินใจเลือกจีบใครสักคนอาจทำให้คุณรู้สึกแย่ เมื่อเห็นสีหน้าผิดหวังของสาวคนอื่นที่คุณไม่ได้เลือก

นอกจากเส้นเรื่องหลักแล้ว คุณยังสามารถส่งข้อความพูดคุยกับสาว ๆ ได้ผ่านแอปในมือถือของคุณ โดยคำตอบของคุณจะมีผลต่อระดับความชอบของพวกเธอ การแชทจะเปิดเพิ่มขึ้นเมื่อระดับความชอบสูงขึ้น และถ้าดูแชทบางอันก่อนถึงบทเนื้อเรื่องเฉพาะ จะปลดล็อกฉากพิเศษเฉพาะตัวของแต่ละคนถึง 3 ตอน ซึ่งจะแสดงด้านส่วนตัวของพวกเธอได้อย่างชัดเจน

เรื่องราวจะจบลงด้วยคำมั่นสัญญาแห่งความรักที่หนักแน่น—ไม่มีฉากจบแบบ “แค่เพื่อน” เหมือนใน DOAXVV ถ้าค่าความชอบเกิน 100% คุณจะได้ฉากพิเศษ ซึ่งจะอยู่ในพิพิธภัณฑ์พร้อมมินิเกมและการถ่ายภาพเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม สำหรับแฟนเกม Dead or Alive รุ่นเก๋าอาจรู้สึกผิดหวังอยู่บ้าง เพราะตัวละครระดับตำนานอย่าง Kasumi, Ayane, Helena และ Hitomi ไม่ได้มาร่วมด้วยเลย โดยมีเพียง Honoka เท่านั้นที่มาจากซีรีส์หลัก
Available Mini-Games
ในบางบทของเกมจะมี มินิเกม ที่ให้คุณได้เชื่อมสัมพันธ์กับสาว ๆ ผ่านกิจกรรมเบา ๆ และสนุกสนาน เช่น
- Hand Sumo: แข่งขันดันมือกับสาว ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของลำตัวกลาง ดันแรงเกินไปอาจทำให้คุณล้มกระแทกกำแพงหรือโดนทับติดอยู่
- Abs: ให้คุณเชียร์สาว ๆ ตอนที่เธอกำลังซิทอัพ เหงื่อและเสื้อผ้าที่แนบเนื้อจะเป็นบททดสอบความมีสมาธิของคุณ
- Water Fight: โหมดต่อสู้ด้วยปืนฉีดน้ำแบบ 2 ต่อ 1 ที่คุณต้องหลบหลีกและโต้กลับให้แม่น การทำได้ดีจะเพิ่มระดับความชอบของสาว ๆ และยังมีระบบ “เปียกบางส่วน” ที่แสดงรูปลักษณ์ของพวกเธอเมื่อเปียกน้ำอีกด้วย
- Big Jump Rope: กระโดดเชือกพร้อมกับสาว ๆ โดยจะมีสิ่งรบกวนมากมาย และถ้าพลาดก็อาจโดนพันกันจนล้มกลิ้งไปด้วยกัน

การเข้าร่วมมินิเกมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มระดับความสนใจ (Interest Level) ของสาว ๆ ซึ่งจะทำให้เธอเปิดใจมากขึ้นและสนใจในการพูดคุยกับคุณมากขึ้น ยิ่งระดับสูงเท่าไร การโต้ตอบต่าง ๆ ก็จะยิ่งลึกซึ้งมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มินิเกมเหล่านี้ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโอกาสถ่ายภาพเซ็กซี่มากกว่าจะเป็นเกมจริงจัง เพราะจำนวนมินิเกมมีไม่มาก และระบบการเล่นส่วนใหญ่ก็เป็นแค่การกดปุ่มให้ถูกจังหวะ ไม่มีอะไรลึกซึ้งนัก

ถ้าย้อนกลับไปดู Xtreme ภาคเก่า ๆ จะเห็นว่ามีเกมอย่างแบล็กแจ็ก รูเล็ต หรือการปีนหน้าผาที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความท้าทาย หรือแม้แต่จะได้ดูฉากที่ตัวละครต้องพยายามฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ แต่ใน PRISM ทุกอย่างถูกลดทอนลงให้กลายเป็นมินิเกมสั้น ๆ ที่เน้นท่าโพสเซ็กซี่ของสาว ๆ มากกว่า ส่งผลให้ความรู้สึกของเกมกลายเป็นเหมือนโชว์ชุดว่ายน้ำมากกว่าเกมที่มีความหลากหลายแบบแต่ก่อน

โหมดถ่ายรูปที่ต้องยกนิ้วให้
Photo Mode ถือเป็นหนึ่งในระบบหลักของเกมที่เชื่อมโยงกับเนื้อเรื่องและความก้าวหน้าของผู้เล่น ไม่ใช่แค่ลูกเล่นเสริม เพราะสามารถใช้งานได้แทบทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะเป็นตอนคุยกับตัวละคร เดินเล่นชายหาด ยามเย็น หรือแม้กระทั่งในมินิเกม ทำให้มันกลายเป็นฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยสร้างความนิยมให้กับ Venus Festival

โหมดนี้มาพร้อมกับเครื่องมือมากมายให้คุณสร้างภาพถ่ายที่สมบูรณ์แบบ เช่น การปรับมุมกล้องได้ตามใจชอบ หมุนมุม มองแนวตั้ง ซูมเข้าออก หรือจะปรับรูรับแสงเพื่อเบลอฉากหลังก็ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบแสงที่สามารถเพิ่มแสงเสริมได้สูงสุด 3 ดวง และปรับค่าแสงให้สว่างหรือมืดได้ตามต้องการ รวมไปถึงฟิลเตอร์เปลี่ยนบรรยากาศของภาพ และลูกเล่นกรอบหรือแสตมป์ตกแต่ง (แม้ตัวเลือกแสตมป์จะมีไม่มากนัก)
เมื่อผ่านจุดหนึ่งของเนื้อเรื่อง (หรือปลดล็อกก่อนด้วย Digital Deluxe Edition) คุณจะได้รับ Time-Stopping Hourglass ที่สามารถหยุดเวลาในช่วงบทสนทนาเพื่อให้คุณเคลื่อนกล้องและจับภาพช่วงเวลาสำคัญได้จากทุกมุม เช่น สีหน้าเขินอาย หรือเสียงหัวเราะแบบเป็นธรรมชาติ

Photo Mode ไม่ใช่แค่เพื่อความสนุก แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบความก้าวหน้าในเกม เพราะในแต่ละบทจะมีข้อความจากทีมงานเทศกาลแจ้ง Focus Points ที่ควรถ่ายให้ได้ เช่น ท่าทาง สีหน้า หรือตัวละครที่ต้องเน้น หากถ่ายได้ตรงตามที่กำหนด ความนิยมของ Venus คนนั้นก็จะเพิ่มขึ้น และสามารถส่งรูปได้สูงสุด 6 รูปต่อบท ซึ่งจะถูกให้คะแนน (เต็ม 100) ยิ่งคะแนนสูงเท่าไร แฟนคลับของสาว ๆ ในภาพก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
แฟนคลับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นตัวปลดล็อกชุดใหม่และทรงผมต่าง ๆ ซึ่งมีทั้งชุดเดรส ชุดว่ายน้ำ และชุดในโอกาสต่าง ๆ บางชุดยังสามารถปรับแต่งได้ เช่น การเพิ่มหรือลดเครื่องประดับ และถุงน่องเองก็สามารถเลือกความหนาได้ 30, 40, 60, 80 หรือ 110 เดนิเย่ร์ มีให้เลือกทั้งสีดำและครีม

อย่างไรก็ตาม ระบบให้คะแนนภาพยังค่อนข้างไม่ชัดเจน ทำให้ผู้เล่นบางคนอาจรู้สึกหงุดหงิด โดยเฉพาะสายถ่ายภาพที่จริงจังซึ่งอาจรู้สึกว่าการไม่มีโหมดโพสท่าอิสระนั้นเป็นข้อจำกัด แต่เกมนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่น “อิน” กับประสบการณ์ มากกว่าจะได้ภาพเป๊ะ ๆ หากคุณต้องการเน้นเนื้อเรื่องมากกว่า ก็สามารถเลือก simple shooting ที่แค่กดถ่ายภาพโดยไม่ต้องตั้งค่าซับซ้อน ซึ่งเพียงพอจะนำไปสู่ฉากจบที่ดีได้ แต่คุณก็จะพลาดความสนุกของโหมดควบคุมแบบเต็มรูปแบบไปด้วย
ภาพกราฟฟิกที่ตราตรึงใจ
Venus Vacation PRISM เปลี่ยนจากเอนจินเก่าของ DOAXVV ที่ใช้มาตั้งแต่ DOA5 ในปี 2012 มาเป็น Katana Engine ของ Koei Tecmo ซึ่งเคยใช้ใน Dynasty Warriors: Origins และ Rise of the Ronin เพื่อเรนเดอร์รายละเอียดของเสื้อผ้าและผิวหนังได้สมจริงยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อผ้าที่แนบไปตามร่างกายหรือโปร่งแสงเมื่อเปียกน้ำ รวมถึงเอฟเฟกต์ผิวเปลี่ยนสี เช่น หน้าแดง

กราฟิกของเกมถือว่าสวยมาก ตัวละครทั้งหกมีโมเดล 3D ที่ละเอียดสูงมาก รายละเอียดของเส้นผม แสงตกกระทบบนผิว ไปจนถึงแววตาในฉากใกล้ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการออกแบบโดยเฉพาะ ฉากโรแมนติกยิ่งโดดเด่น เพราะการเคลื่อนไหวและสีหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างอาย ดีใจ หรือไม่พอใจ ดูสมจริงและสื่ออารมณ์ได้ดี

แต่ในแง่ของฉากหลังกลับแตกต่างออกไป แม้ว่า Venus Festival จะถูกกล่าวถึงว่าเป็นงานใหญ่ รีสอร์ตกลับดูว่างเปล่า ไม่มีแขก ไม่มีตัวประกอบ ไม่มีความมีชีวิตชีวาเหมือนเทศกาลจริง ๆ เหมือนเป็นเกาะสวรรค์ที่มีเพียงเหล่า Venuses เท่านั้น แม้จะทำให้ตัวละครเป็นศูนย์กลางชัดเจน แต่ก็นำมาซึ่งความรู้สึกว่าเกาะนี้ “ว่างเปล่า”
สรุป รีวิว Venus Vacation PRISM – DEAD OR ALIVE Xtreme
Venus Vacation PRISM – DEAD OR ALIVE Xtreme เป็นเกมที่พึ่งพาบรรยากาศชิล ๆ และภาพที่สวยงาม ถ่ายทอดแนว dating sim ที่ให้ผู้เล่นสร้างความสัมพันธ์กับสาว ๆ ทั้งหกบนเกาะเขตร้อน การใช้ Katana Engine ทำให้รายละเอียดของตัวละครโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นผม ผิว หรือเสื้อผ้า Photo Mode ก็มีเครื่องมือให้เล่นสนุกในการถ่ายภาพอย่างจุใจ มินิเกมต่าง ๆ อย่าง Hand Sumo หรือ Water Fight ให้ความสนุกระยะสั้นและเสริมความสัมพันธ์ และบุคลิกของสาว ๆ แต่ละคน ตั้งแต่ Misaki ผู้ขี้อาย ไปจนถึง Fiona ที่ทั้งหวานและเอาแต่ใจ ก็ทำให้คุณอยากลองทำความรู้จักพวกเธอให้ครบ

แต่เกมก็มีจุดอ่อน เนื้อเรื่องค่อนข้างบาง ไม่มีความขัดแย้งหรือเดิมพันอะไรให้ลุ้น เทศกาล Venus Festival ที่ถูกชูเป็นจุดขายกลับรู้สึกไม่สมบูรณ์ ไม่มีผู้ร่วมงาน ไม่มีบรรยากาศให้ชวนอิน ขาดตัวละครเด่นจากซีรีส์ Dead or Alive เช่น Kasumi, Ayane, Helena หรือ Hitomi ซึ่งอาจทำให้แฟนเก่าผิดหวัง โดยมีเพียง Honoka ที่เป็นตัวละครจากภาคหลัก นอกจากนี้ยังไม่มีระบบข้ามบทสนทนาหรือฉากที่เคยเห็น ทำให้การเล่นซ้ำรู้สึกน่าเบื่อ และถึงแม้ความสัมพันธ์จะส่งผลต่อฉากจบ แต่เนื้อเรื่องหลักก็ยังเหมือนเดิมแทบทั้งหมด
ส่วนตัวแล้วสนุกกับเวลาที่ใช้ไปกับเกมนี้ และฉากจบที่ดีทำให้รู้สึกพอใจ แต่ความตื้นของเนื้อหาและระบบที่ไม่เอื้อต่อการเล่นซ้ำ ทำให้มันเหมาะสำหรับคนที่อยากหา “โลกหลบหนีแบบเบา ๆ” มากกว่าจะเป็นเกมที่มีการผจญภัยหรือลึกซึ้งจริงจัง
คะแนน 8.5/10
ข้อดี
- คุณภาพกราฟิกดีที่สุดในซีรีส์
- Photo Mode ฟีเจอร์ครบ เล่นสนุกและอิสระ
- Waifu หลักทั้งหกมีเสน่ห์น่าสนใจเท่าเทียมกัน
- Dating sim ดำเนินเรื่องแบบสบาย ๆ ไม่กดดัน
- คอนเทนต์ด้านแฟชั่นและเครื่องแต่งกายไม่มีระบบกาชามาขวาง
ข้อเสีย
- ระบบให้คะแนนใน Photo Mode ไม่ชัดเจน
- เนื้อเรื่องเรียบง่ายเกินไป เน้นแค่ความสัมพันธ์เชิงรักใคร่
- การเล่นซ้ำอาจทำให้เหนื่อย เพราะไม่มีระบบข้ามฉากหรือบทสนทนา
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post