อีกหนึ่งในเกมเสาหลักของ Atlus ที่อยู่มาอย่างยาวนาน Shin Megami Tensei ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ถูกสร้างมาเพื่อแฟน RPG เฉพาะกลุ่มด้วยความยากของตัวเกมแบบนรกแตก ถึงแม้ว่าในยุคนี้เหล่าเกมที่ยากระดับนั้นจะลดน้อยถอยลงตามไป ไปดูกันว่าในภาคที่กำลังจะวางจำหน่ายน Atlus จะยังคงความเป็นเอกลักษณ์ไว้ได้หรือไม่ใน พรีวิว Shin Megami Tensei V: Vengeance
อย่างที่ทุกคนรู้กันสำหรับ Shin Megami Tensei V: Vengeance คือภาคปรับปรุงของ Shin Megami Tensei V ซึ่งต้องมาดูกันว่าระบบต่างๆ จะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน โดยทาง SEGA ได้เชิญทีมของเราไปทดลองเล่นซึ่งในพรีวิวมีเวลาเล่นมากกว่า 6 ชั่วโมง(ซึ่งหากจะเก็บให้ครบยังมีคอนเทนต์อีกมากมายให้เล่นต่อ)
Canon of Vengeance
ความแตกต่างสำคัญของ Shin Megami Tensei V: Vengeance คือการระบุว่า Vengeance route ถือเป็น Canon ในจักรวาลเกมอีกทางหนึ่ง ทำให้ในตอนเริ่มเกมนั้นจะมีทางเลือกให้เราสองเส้นทาง หนึ่งคือการตอบรับหญิงสาวปริศนาตอนเริ่มเกมและเข้าสู่ Vengeance route และอีกเส้นทางคือการไม่ตอบรับและเข้าสู่ Creation route(เนื้อเรื่องเดียวกับภาคต้นฉบับ)
สำหรับผู้เล่นเก่าหลายคนอาจจะกลับไปเล่นเนื้อเรื่องเดิมใน Canon of Creation ก่อน แต่สำหรับผู้มาใหม่ ก็ต้องเลือกว่าจะไปเส้นทางไหน ซึ่งเมื่อเทียบกันตัวผู้เขียนเอนเอียงไป Canon of Vengeance อยู่เล็กน้อยจากเนื้อเรื่อง
โดยในส่วนเนื้อเรื่องนี้จะมีธีมที่ตรงตามชื่อเกม สำหรับผู้เล่นเก่าก็จะเจอตัวละครคุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง Yoko Hiromine หรือกลุ่มตัวร้าย Qadištu ซึ่งแต่ละตัวละครก็มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเคยเล่นภาคหลักมาก่อนหรือไม่ก็ตาม
แต่ต้องบอกตามตรงว่าผู้เขียนยังมีอคติอยู่เพราะว่าเคยเล่นภาคหลักมาก่อนแล้ว ซึ่งอาจจะทำให้เราอวยฝั่ง Canon of Vengeance เพราะมันสดใหม่มากกว่าทั้งเนื้อเรื่อง และตัวละคร รวมถึงอาจจะมีเซอไพรส์ให้เราค้นหาในเนื้อเรื่องเมื่อเล่นไปถึงช่วงกลางเกม แต่โดยสรุปก็คืออยากเล่นฝั่งไหนก่อนก็ยังสนุกได้ไม่ต่างกัน
พูดถึงฝั่งเนื้อเรื่องภาคต้นฉบับ ด้วยความที่ทีมงานอยากคงเนื้อเรื่องเดิม สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ตัวเกมไม่น่าเบื่อจะเป็นเควสเสริม วิธีการเล่นใหม่ๆ QoL ที่ดีขึ้นแทนที่เนื้อเรื่องที่เปลี่ยนไป
Da’at
เซตติ้งในเกมนี้เกือบทั้งหมดจะอยู่ใน Da’at หรือเมืองโตเกียวในอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าปิศาจ ซึ่งเมื่อเทียบกับเกมภาคหลักแล้ว ตัวแผนที่ยังคงการออกแบบในลักษณะเดิม แต่เพิ่มเติมคือ QoL อย่าง Magatsu Rail ที่เป็นรถไฟในการเปลี่ยนพื้นที่ หรือระบบ sky view ที่ทำให้เห็นบริเวณโดยรอบจากมุมสูงคล้ายการเปิด mini map ทำให้เราเล่นได้สะดวกสบายขึ้นเมื่อเทียบกับภาคต้นฉบับ .
นอกจากนี้เรายังสามารถเข้าถึงพื่นที่ใหม่ “Shinjuku” ซึ่งก็มีสิ่งต่างๆ ให้สำรวจต่างจากพื้นที่เดิม ทั้งปิศาจชนิดใหม่ๆ เกมเพลย์การผ่านที่ต้องใช้เทคนิคเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะกลายเป็นพื้นที่ที่เราตายซ้ำตายซ้อนได้หากเข้ามาเป็นครั้งแรกๆ
แต่การมีปิศาจใหม่ๆ เพิ่มเข้ามานอกจากจะทำให้เราปวดหัวเรียนรู้เทคนิคเพิ่มแล้ว กลับกันก็ทำให้เรามีโอกาสได้ปิศาจที่หลากหลายขึ้นในการดึงเข้าปาร์ตี้ เพิ่มความหลากหลายของการจัดทีม เกมเพลย์ การวางแผนการเล่นเพื่อดึงประสิทธิภาพของเหล่าปิศาจที่เป็นพรรคพวกเราออกมาให้สูงสุด
ความยากของเกม
คำถามสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์ก็คือ เกมมันยังยากแบบนรกแตกเหมือนเดิมหรือไม่ เราบอกได้เลยว่าเกมมันยังยากและท้าทายอยู่ อย่างที่บอกไปนิดหน่อยในพื้นที่ใหม่ที่ต้องมานั่งจำพื้นที่ที่ปิศาจจะซุ่มโจมตี บอสที่ยังดุดันไม่ว่าจะเลือดเยอะ พลังโจมตีสูง เรียกว่าถ้าไม่จัดทีมมาให้ดีล่ะก็สามารถร่วงไปคุยกับรากมะม่วงไปแบบง่ายๆ
โดยรวมด้วยเกมเพลย์ระดับนี้ทำให้เราต้องใช้เวลาฟาร์มและจัดหาปาร์ตี้ที่เหมาะสมในการสู้บอสแต่ละตัว(ขนาดว่าเล่นในระดับความยาก Casual) เมื่อ Hydra ซึ่งเป็นบอสตัวแรกยังทำให้เราเหนื่อยหอบได้ บอสตัวอื่นๆ ก็โหดไม่แพ้กัน อย่างแกงค์ Qadištu ก็มีเกมเพลย์ที่ดุดันสุดๆ
แต่ถ้าเทียบกับภาคเก่าๆ อย่างภาค 1-3 อันนั้นเรียกว่าเป็นอีกระดับ ถึงแม้เหล่าบอสใน Shin Megami Tensei V: Vengeance ถึงแม้จะดูยาก แต่เมื่อจัดทีมที่เหมาะสมแล้ว ก็สามารถหาช่องว่างของบอสขโมยเทิร์นไล่โจมตีอย่างเดียวได้เช่นเดียวกัน
สรุป พรีวิว Shin Megami Tensei V: Vengeance
จากการที่เล่นมาในช่วงแรกยาว 6-7 ชั่วโมงของเกมในเนื้อเรื่องฝั่งใหม่ สิ่งที่เราได้สัมผัสมาถือว่าน่าพึงพอใจ นอกจากเนื้อเรื่อง ความสดใหม่ QoL ความยากของเกมแล้ว ยังมีส่วนอื่นๆ ทั้งด้านงานภาพ กราฟฟิค ซึ่งเรียกว่าปลดล็อคในด้านเทคโนโลยีเมื่อได้พอร์ตให้หลายแพลตฟอร์มตามที่แฟนเกมเรียกร้องกันมานาน
แน่นอนว่าในพรีวิวนี้ไม่ได้เล่นตัวเกมเต็มจึงไม่อาจจะรีวิวทุกสิ่งอย่างได้ แต่บอกได้เลยว่าทีมพัฒนานั้นนำข้อเสนอแนะของแฟนๆ ที่แนะนำมาปรับใช้เพื่อให้ตัวเกมออกมาดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เห็นได้จากการที่ยังมีเนื้อเรื่องเก่าให้เล่นกันให้หายคิดถึง แถมยังมีการปรับปรุงระบบไม่ได้ดึงของเก่ามาใช้ทั้งดุ้น ดังนั้นตัวเกมจึงสามารถเล่นซ้ำได้หลายครั้งจากเส้นเนื้อเรื่อง รวมถึงต่อให้เล่นเนื้อเรื่องเดิมก็มีจุดที่ทำให้ลืมเวลามากมายอย่างแน่นอน
ทางเราขอขอบคุณ SEGA ที่เชิญเราไปที่สำนักงานใหญ่และเปิดโอกาสให้ได้สัมผัสเกมจนเกิดพรีวิวนี้ขึ้นมาได้ Shin Megami Tensei V: Vengeance เตรียมวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ บน PC, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One และ Xbox Series ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการ
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post