ในยุคแห่งการสื่อสารที่รวดเร็วเช่นนี้ เป็นเรื่องยากที่จะหาเกมที่สามารถทดสอบความแข็งแกร่งของสายสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนได้เหมือนกับซีรีส์ We Were Here เกมนี้ซึ่งพัฒนาโดยสตูดิโออินดี้สัญชาติดัตช์ Total Mayhem Games ประสบความสำเร็จในการทำให้การสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสาร ให้ความรู้สึกที่สำคัญอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าชะตากรรมของคุณขึ้นอยู่กับว่าคุณพูดได้ชัดเจนเพียงใด
และตอนนี้ สามเกมแรก We Were Here, We Were Here Too และ We Were Here Together ได้วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการบน Nintendo Switch พร้อมฟีเจอร์ครอสแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ ทำให้ผู้เล่นจาก Switch, PlayStation, Xbox และ PC สามารถเล่นด้วยกันได้อย่างไร้ขีดจำกัด
การสื่อสารอาจเป็นตัวตัดสินความเป็นความตาย
แนวคิดนั้นเรียบง่ายแต่ก็เจ๋ง ผู้เล่นสองคนติดอยู่ในปราสาทลึกลับท่ามกลางหิมะ พวกเขาไม่สามารถพบหน้ากันได้โดยตรง สื่อสารกันได้เพียงผ่านวิทยุสื่อสารเท่านั้น ผู้เล่นคนหนึ่งต้องอธิบายสัญลักษณ์และกลไกแปลกๆ ที่พวกเขาเห็น ในขณะที่อีกคนต้องหาวิธีจับคู่เบาะแสเพื่อดำเนินต่อไป ไม่มีแผนที่ ไม่มีหน้าจอร่วมกัน และไม่มีเบาะแสทางภาพ มีเพียงคำพูด ตรรกะ และความไว้วางใจ
ระบบการสื่อสารเช่นนี้ทำให้ทุกเซสชันการเล่นเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป บางครั้งมันอาจจะน่าตื่นเต้นมากเมื่อคุณทำสำเร็จ แต่มันก็อาจจะน่าหงุดหงิดได้เมื่อเกิดความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย แต่ความสนุกมันก็อยู่ตรงนี้ We Were Here ทำให้ผู้เล่นตระหนักว่าความร่วมมือและการสื่อสารที่ชัดเจนมีความสำคัญมากกว่าแค่การไขปริศนาอย่างรวดเร็ว

เป็นมากกว่าแค่ปริศนา แต่เป็นความไว้วางใจ
นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 ซีรีส์ We Were Here ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยโลกและปริศนาที่หลากหลายมากขึ้น แต่แก่นหลักยังคงเหมือนเดิม คนสองคน สองมุมมอง หนึ่งเป้าหมาย ผู้เล่นแต่ละคนจะเห็นส่วนต่างๆ ของโลกที่แตกต่างกัน และมีเพียงการร่วมมือกันอย่างเต็มที่เท่านั้นที่จะสามารถแก้ไขทุกอย่างได้ ไม่มีตัวละครหลัก ไม่มีตัวละครรอง ทั้งสองคนมีความสำคัญต่อความสำเร็จร่วมกัน
หลายคนเรียกเกมนี้ว่า “แบบทดสอบมิตรภาพ” หรือแม้กระทั่ง “เกมจำลองความสัมพันธ์” ผู้เล่นจำเป็นต้องอดทน ตั้งใจฟัง และพูดให้ชัดเจนที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางครั้ง นั่นคือส่วนที่ยากที่สุด แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าพึงพอใจ เพราะทุกความสำเร็จให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวอย่างยิ่ง We Were Here ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของปริศนา แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์และความไว้วางใจที่เติบโตขึ้นตลอดการเล่นด้วยกัน

Switch ไร้ขีดจำกัดด้านแพลตฟอร์ม
การมาถึงของ We Were Here, We Were Here Too และ We Were Here Together บน Nintendo Switch ถือเป็นก้าวที่สำคัญสำหรับ Total Mayhem Games ด้วยครอสเพลย์เต็มรูปแบบ ผู้เล่นจากทุกแพลตฟอร์มสามารถเล่นด้วยกันได้อย่างราบรื่น สำหรับผู้ใช้ Switch ประสบการณ์จะยิ่งยืดหยุ่นมากขึ้น เพียงแค่เสียบหูฟังและพูดคุยกับคู่หูของคุณไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
แม้จะเล่นในโหมดพกพา ความตึงเครียดและความลึกลับยังคงเข้มข้น ทุกการสนทนาสามารถเป็นตัวตัดสินได้ และทุกการตัดสินใจเล็กๆ น้อยๆ สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ ไม่ว่าจะเล่นที่บ้าน ระหว่างเดินทาง หรือแบบสบายๆ เกมนี้ยังคงทำให้อะดรีนาลีนสูบฉีดในขณะที่ทดสอบการทำงานเป็นทีมอย่างแท้จริง

การผจญภัยที่ไม่ธรรมดาของคนสองคน
โดยแก่นแท้แล้ว We Were Here ไม่ต้องการเอฟเฟกต์ที่ฉูดฉาดหรือเกมเพลย์ที่ซับซ้อนเพื่อดึงดูดผู้เล่นไว้ มันต้องการเพียงแค่สองเสียง สองความคิด และสายสัมพันธ์แห่งความไว้วางใจที่เปราะบางแต่ก็แข็งแกร่ง การสื่อสารที่นี่ไม่ใช่แค่ฟีเจอร์ แต่มันคือหัวใจของประสบการณ์การเล่นเกม
ด้วยการที่สามเกมแรกวางจำหน่ายแล้วบน Nintendo Switch และเล่นข้ามแพลตฟอร์มได้ นี่จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะได้ลองเล่น หากคุณชื่นชอบเกมที่ต้องร่วมมือกันซึ่งไม่ได้ใช้แค่สมองแต่ยังเกี่ยวกับเคมีระหว่างผู้เล่น We Were Here มอบประสบการณ์สำหรับสองผู้เล่นที่ทั้งตึงเครียด เฮฮา และซาบซึ้งซึ่งน่าจดจำอย่างแท้จริง

หากคุณสนใจที่จะเล่นทั้งซีรีส์ นอกเหนือจาก Nintendo Switch แล้ว คุณยังสามารถตรวจสอบเกมบน Steam ได้เพราะมีส่วนลดที่น่าสนใจในขณะที่ทุกคนกำลังอ่านบทความนี้อยู่
อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post