Park Beyond ได้เปิดให้มีการทดสอบช่วง Closed Beta ซึ่งเว็บไซต์เราได้รับเกียรตินั้น ไปดูกันว่าภายในเกมหลังจากทดลองเล่นเป็นอย่างไร
Park Beyond เป็นเกมแนวก่อสร้างบริหารการจัดการ จากผู้พัฒนา Limbic Entertainment ที่พยายามทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่านั่นคือสวนสนุกของคุณแบบจริงๆ พร้อมกับการใส่ลูกเล่นเข้าไปเป็นสีสันภายในเกม
ถึงแม้เกมจะดูน่าสนใจและตื่นเต้น แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่าคนเขียนคุ้นเคยกับเกมแนวก่อสร้างบริหารการจัดการอยู่ก่อนแล้วอย่าง Cities Skylines หรือ Planet Zoo เลยจะเข้าใจระบบรวมถึงอินกับเกมสไตล์นี้มากกว่า
ในช่วง Closed Beta ตัวเกมเปิดให้ลองเล่น 3 แคมเปญรวมทั้งการเล่นในโหมด sandbox ส่วนตัวมองว่าเกมน่าจะต้องมีการเพิ่มเติมระบบหลายๆ อย่างเข้าไปแล้วก็ขัดเกลาอีกสักหน่อย แต่ก็เข้าใจได้ด้วยความเป็น Closed Beta
การเล่นแคมเปญ
สำหรับแคมเปญแรกจะเหมือนกับเดโม่ก่อนหน้าที่เน้นให้สร้างรถไฟเหาะ ซึ่งถือเป็นระบบที่เอื้อต่อผู้เล่นใหม่อย่างมาก เป็นเหมือนช่วง tutorial ที่ไม่น่าเบื่อและเข้าใจได้ง่าย
สำหรับแคมเปญที่ 2 เราจะได้ไปเป็นเจ้าของสวนสนุกเก่าแล้วต้องบริหารให้กลับมาโด่งดังอีกครั้ง ซึ่งก็จะเน้นไปที่การฝึกการสร้างทางเดิน เครื่องเล่นอื่นๆ ซึ่งระบบตัวเลือกตอนตอบกับ NPC ก็จะมีผลต่อเครื่องเล่นที่จะสร้างด้วย
อย่างเช่น ตัวอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นตอนเล่นก็คือถ้าเราถูกเลือกให้กำหนดเป้าหมายลูกค้าว่าเป็นกลุ่มไหน ก็จะมีภารกิจให้ทำให้ผ่านหรือไม่ก็ต้องรีเซ็ตเพื่อเล่นใหม่ถ้าเรารู้สึกว่าไม่ใช่ทาง
ในแคมเปญที่ 2 เกมจะให้อิสระมากขึ้นเพราะเป้าหมายคือทำให้มีผู้เข้าสวนสนุกเราเยอะๆ แต่ไม่ได้กำหนดกรอบไว้มากเกินไป เราสามารถซื้อเครื่องเล่นใหม่ ซื้อที่ดินข้างๆ ปรับปรุงสวนสนุกให้ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าซึ่งเกมก็มีระบบ Heat map ที่บอกว่าตรงจุดไหนเราต้องแก้อะไรอยู่มาช่วย
ซึ่งจากที่เล่นมา เมื่อเทียบกับเกมในค่ายเดียวกันก่อนหน้าอย่าง Jurassic World Evolution ที่เกมนั้นออกมาตั้งแต่ PS2 และมันไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่นัก (ถ้าเรารู้เทคนิคล่ะนะ) เพราะปัญหาแต่ละอย่างต้องค่อยๆ ตอบสนองให้ตรงเป็นจุดๆ ไปซึ่งถือว่าใส่ใจในความสมดุลของเกมสไตล์บริหารการจัดการได้ดี
สำหรับแคมเปญที่ 3 เกมจะแนะนำให้เรารู้จักกับ Sofia ซึ่งเป็นวิศวกรประจำสวนสนุก และแนะนำระบบ “Impossification” ซึ่งจุดนี้ทำให้เกมนี้แตกต่างจากเกมสร้างสวนสนุกอื่นๆ เรียกว่าจินตนาการสำคัญกว่าความรู้สุดๆ และถ้าเราทำได้ดีก็จะเป็นการทำให้เราบริหารสวนสนุกได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
Exploration Park Mode
ถ้าบางคนไม่ได้สนใจแคมเปญ โหมดนี้ก็จะช่วยเหมือนเป็น tutorial ให้ ซึ่งระบบเกมก็จะตั้งเงื่อนไขให้เราทำตามก็จะเป็นเหมือนการสอนเราไปในตัว
Sandbox Mode
ที่สุดแห่งความบันเทิงกับเกมสไตล์นี้ แต่การจะทำแต่ละอย่างต้องเริ่มตั้งแต่การเลือกสถานที่ตั้งสวนสนุก ถ้าเราไปตั้งสวนสนุกใกล้ธรรมชาติ เครื่องเล่นสไตล์ที่เน้นเห็นวิวก็จะเหมาะกับลูกค้าที่เข้ามามากกว่า ซึ่งก็แล้วแต่เราจะเลือกว่าอยากให้สวนสนุกเราเป็นแบบไหน
อย่างหนึ่งที่มีในช่วง Closed Beta นี้คือระบบปรับสภาพพื้นผิว ซึ่งเหมาะแก่การเล่นพิเรนทร์ของใครบางคน แต่สำหรับคนที่เน้นความเป๊ะของสวนสนุกแล้ว ก็ถือว่าเป็นระบบที่ขาดไม่ได้เลย
สรุป
Park Beyond ในช่วง Closed Beta ทำได้ดีในการเป็นเกมสไตล์บริหารการจัดการ รวมเข้ากับจินตนาการในเวลาเดียวกัน ซึ่งสิ่งที่แตกต่างคืออิสระในการสร้างที่มากกว่าเกมบริหารการจัดการทั่วไป เหมือนที่บอกไปก่อนหน้าว่าสำหรับเกมนี้ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้
แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนเล่นได้มีการพบเจอบัคเล็กน้อย ซึ่งมันก็กวนใจอยู่นิดๆ รวมถึงระบบควบคุม พวกมุมกล้องที่ทำให้การหามุมเพื่อสร้างเครื่องเล่นทำได้ลำบากก็หวังว่าเมื่อเกมตัวเต็มปล่อยออกมาสิ่งพวกนี้จะถูกแก้
รวมๆ แล้ว เกมทำออกมาได้สนุกและเพลินมาก (อาจจะด้วยนิสัยของคนเขียนด้วย) เรียกว่าวาร์ปเวลากันเลยทีเดียว
Park Beyond มีกำหนดการวางจำหน่ายในวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ในแพลตฟอร์ม PlayStation 5, Xbox Series S/X รวมถึงใน PC ด้วย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้
Discussion about this post