Gamer555
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับเรา
  • เว็บไซต์อื่นของเรา
    • GamerBraves
    • Wanuxi
    • Gamer Santai
    • GamerWK
No Result
View All Result
Gamer555
No Result
View All Result

รีวิว Diablo IV เกมที่ฟาร์มและออกแบบการเล่นตัวละครได้ไม่รู้จบ

Norrachai Anansakdakul by Norrachai Anansakdakul
2 years ago
in Playstation, Xbox, ทั้งหมด, รีวิว, รีวิวเกม, เกม RPG, เกมคอนโซล, เกมพีซี
Reading Time: 4 mins read
0 0
รีวิว Diablo IV เกมที่ฟาร์มและออกแบบการเล่นตัวละครได้ไม่รู้จบ
Share on FacebookShare on Twitter

Diablo IV กำลังจะเปิดให้เล่นแล้ว วันนี้เรามารีวิวประสบการณ์การเล่นช่วง Pre Release ว่าระบบตัวเกมทั้งหมดเป็นอย่างไร คุ้มค่าแก่การรอคอยหรือไม่

เกริ่นเนื้อหาสำหรับมือใหม่

Diablo IV เป็นเกมที่ให้ผู้เล่นผจญภัยไปในเทือกเขาหิมะก่อนจะเข้าไปเจอหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีปัญหาเกี่ยวกับปิศาจจนต้องร้องขอผู้เล่นให้เข้าไปแก้ไขในจุดนี้

Related Posts

Tokyo Game Show 2025 กับข้อมูลการเปลี่ยนธีมใหม่ครั้งใหญ่

รีวิว Capcom Fighting Collection 2 รำลึกยุคทองเกมต่อสู้ กับการกลับมาของตำนาน

คุณแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ ซึ่งทางหมู่บ้านก็ต้อนรับเลี้ยงฉลองเราก่อนที่จะกลายเป็นว่าคนในหมู่บ้านจับเราไปสังเวย ซึ่งทำให้เราได้ความสามารถในการดูอดีตผ่านกลีบดอกไม้สีเลือด จนได้รู้ว่า Lilith ได้กลับมา Sanctuary แล้ว

เนื้อเรื่องภายในเกม 

ในเนื้อหานี้จะไม่สปอยล์เนื้อเรื่องหลังจาก Prologue และ Act I ที่เปิดให้เล่นไปก่อนหน้า ผู้เขียนมองว่าตัวเนื้อเรื่องมีความน่าสนใจในการดึงตัวละครต้นกำเนิดของ Sanctuary อย่าง Inarius และ Lilith แต่ก็มีข้อเสียอย่างหนึ่งคือหลังความดึงดูดด้วยตัวละครในช่วงต้นแล้ว ตัวเนื้อเรื่องออกโทนไปทางน่าเบื่อเสียอย่างงั้น (ซึ่งภายในดิสคอร์ดของคนที่ได้เล่นก็เห็นตรงกัน) มันมีฉากที่บิ้วด์อารมณ์เศร้า เสียใจมากเกินไป ซึ่งอันที่จริงมันก็ตรงกับตัวแฟรนไชส์เกมนี้ แต่พอไปถึงช่วงหลังของเนื้อเรื่อง ไอ้ความเศร้าที่ปูมาก็จะทำให้เรารู้สึกว่า เออ ช่างมันละกัน

สำหรับผู้เขียนแล้วทางเกมพยายามใส่รายละเอียดเข้าไปในตัวประกอบทุกตัว ทั้งภูมิหลัง นิสัยใจคอ เป้าหมาย แต่บางทีเราก็ไม่ค่อยอินไปกับความคิดของตัวละครเหล่านั้น อย่างที่พูดกันได้เช่น เนื้อเรื่องของ Neyrelle กับแม่ เราก็ไม่ค่อยสนใจกับส่วนนี้นัก ด้วยความที่เราอยากรู้เรื่องของ Lilith Inarius และ Rathma มากกว่า ซึ่งก็มีข่าวดีที่หลังจากนี้ตัวละคร Neyrelle จะพัฒนาขึ้นกว่าเดิม

ในความคิดเห็นถ้าเทียบว่าเนื้อเรื่องใน Act I ถึง Act III นั้นมีความเร็วที่พอดี หลังจากนั้นตัวเนื้อเรื่องจะรีบเกินไปอย่างมาก กลับกันถ้าตอนแรกช้าเกินไป ตอนหลังก็จะอยู่ในระดับที่พอดี แต่ส่วนตัวแล้วน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า เพราะในตอนที่เล่นเอง ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผ่านไป Act ต่อไปแล้วหลังจากจบเควส

สำหรับเนื้อหาตอนจบ ใช้คำว่าเหมาะสมที่จะไปต่อ ไม่ว่าจะภาคใหม่หรือการเล่นหลังจบเนื้อเรื่อง ที่ทำให้ทุกอย่างดูเมคเซนส์ อาจจะไม่ถูกใจหลายคนที่ต้องการบทสรุปทั้งหมดในจุดนั้น แต่การรอคอยหลังจากจบเนื้อเรื่องแล้วดูว่าจะมีอะไรต่อก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก

งานภาพภายใน

สิ่งที่ทุกคนเห็นร่วมกันสำหรับ Diablo III คือโทนรวมของเกมมันดาร์คไม่พอ แต่สำหรับ Diablo IV ได้กลับไปมืดหม่นอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งทำให้เราอินไปกับตัวเกมได้มากขึ้น ซึ่งตัวผู้เขียนที่โตมากับ Diablo I และ II รู้สึกชอบกับการปรับในจุดนี้มากที่สามารถดึงบรรยากาศเก่าๆ กลับมาได้อีกครั้ง

ในขณะที่ส่วนอื่นในเกมก็แสดงถึงความกดดัน หมองหม่น ทั้งซากศพ เลือด สิ่งที่อยู่ในแต่ละฉากที่กว้างขวางของเกมได้ถูกใส่รายละเอียดมาอย่างดี ซึ่งทำให้เรามีความอยากสำรวจลึกเข้าไปในแผนที่ของเกม

อีกสิ่งหนึ่งที่ตัวผู้เขียนชอบมากคือคัทซีนที่ใส่มาในเกม ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งใหม่ในแฟรนไชส์เกมนี้ ซึ่งการตัดสลับไปมาระหว่างคัทซีนและตัวเนื้อเรื่องหลักของเกมทำออกมาได้ยอดเยี่ยม เร่งเร้าจังหวะของอารมณ์ที่รู้สึกอยู่ตรงหน้า ตัวอย่างเช่นคัทซีนที่เราได้เจอ Inarius เป็นครั้งแรก ซึ่งถ้าหากเป็นตัวเกมแบบภาคก่อนๆ คงไม่อลังการระดับนี้

อีกหนึ่งระบบคือการปรับแต่งตัวละครในเกม คือมันอาจจะไม่เยอะเทียบเท่าเกมอื่นที่ใส่มาแบบเต็มที่ แต่ก็เพียงพอที่จะทำหน้าที่ของมันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นทรงผม สีผิว หรือแม้กระทั่งรอยสัก แต่ก็มีอย่างนึงที่ถ้าแก้ได้จะอิสระมากกว่าเดิมคือรูปร่างของแต่ละคลาสซึ่งกำหนดมาอยู่แล้ว แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำไมเกมถึงกำหนดมาให้เป็นแบบนั้นเพื่อให้ตรงตามเนื้อเรื่องในเกม แต่คนที่จินตนาการสร้างสรรค์ก็อยากเล่นแบบ เนโครสายกล้ามที่น่าจะเอาหมัดไปต่อยแทนเสกกระดูกไรงี้บ้าง

Gameplay 

ระบบการต่อสู้

สำหรับการเล่น Diablo IV หลักๆ ก็คือการบริหารสองสิ่งคือเลือด กับสิ่งที่ใช้ร่ายเวทย์ (ซึ่งแตกต่างไปตามคลาส) เลือดก็ตรงตัว ถ้าหมดก็ตาย และมีขวดยาไว้เติมเฉกเช่นภาคก่อนๆ

อีกสิ่งหนึ่งคือทรัพยากรสำหรับการร่ายเวทย์ (มันไม่ได้เรียกว่า mana) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำให้เล่นเกมนี้ได้สนุก กับการบริหารสิ่งนี้ร่วมกับการใช้เพื่อร่ายเวทย์จู่โจมออกไป ซึ่งที่มาก็ต่างกันไม่ว่าจะได้จากการโจมตีปกติ เพิ่มตามเวลา หรืออย่าง Barbarian ที่ต้องไล่เก็บใหม่ทุกครั้งที่เข้าสู้

เมคคานิคใหม่สำหรับ Diablo IV ที่เพิ่มเข้ามาแล้วทำให้การต่อสู้ลื่นไหลขึ้นคือระบบหลบหลีก (Evade) ซึ่งก็ง่ายๆ ก็ปุ่มแล้วตัวละครเราจะพุ่งไปด้านหน้า แต่การที่มีการหลบทำให้จังหวะในการต่อสู้ซับซ้อนและสนุกขึ้น ยิ่งบอสในภาคนี้เวลาโจมตีจะมีตัวระบุว่าจุดไหนจะโดนจู่โจม ทำให้การใช้ระบบนี้มีความสำคัญมากนั่นเอง

นอกจากนี้การออกแบบแผนที่ยังมีผลในการต่อสู้สำหรับบางคลาส เช่น Barbarian ที่สามารถดันศัตรูได้ แล้วถ้าตรงนั้นมีกำแพงก็จะสตั้นมันแทน ทำให้ตัวสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรามีผลต่อการต่อสู้ไปด้วย

สำหรับการต่อสู้กับบอส ตัวบอสจะมีขีดที่แปะอยู่บนหลอดเลือด ซึ่งเมื่อเราตีบอสจนเลือดลดถึงขีดนั้นจะดรอปยาเลือดมาให้เรา แต่ตัวบอสก็จะมีรูปแบบการโจมตีใหม่ๆ ขึ้นมา ทำให้ยิ่งบอสเลือดเหลือน้อยจะยิ่งสู้ยากมากขึ้น ทำให้มีความหลากหลายเกิดขึ้นในระหว่างการสู้บอสแค่ตัวเดียว

คลาส (ระบบอาชีพ)

พูดถึงคลาสที่มีในเกมทั้งหมด 5 คลาส (Necromancer, Druid, Rogue, Barbarian, Sorcerer) ถือว่ามีจุดเด่นที่ไม่มีความใกล้เคียงในวิธีการเล่นหรือแม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกเลยซึ่งเป็นเรื่องที่ดี  ซึ่งจะเป็นการตอบสนองต่อสไตล์การเล่นของผู้เล่นแต่ละแบบ ไม่ว่าจะโดดแปลงร่างเข้าไปลุย สร้างกองทัพแล้วตัวเองนั่งจิบชา โดดหลบไปมาแบบพริ้วๆ ก็สามารถเลือกได้ตามความชอบของผู้เล่น

นอกจากนี้ภายในคลาสเองก็ยังมีสายการเล่นหลากหลาย ซึ่งก็มีความแตกต่างกันมากพอสมควร ทำให้เราอาจจะชอบคลาสนี้มาก จนวนกลับมาสร้างตัวละครเพื่อไปเล่นสายอื่นยังได้ ซึ่งพอมีวิธีการเล่นมากขนาดนี้ ยังไงก็ตอบสนองผู้เล่นได้ครบทุกสไตล์แน่นอน

Skills 

ระบบ Skill tree ของ Diablo IV นั้นกว้างมาก ทำให้อาจจะมีการลองผิดลองถูกพอสมควรในการสร้างสายการเล่นที่เหมาะสม ซึ่งบางทีเล่นๆ ไปเราอาจเจอ build ที่โกงเทพโดยบังเอิญก็ได้

แต่มันก็มีข้อเสียอยู่สำหรับผู้เล่นใหม่ เมื่อเข้ามาแล้วเจอจำนวนสกิลมากขนาดนั้น แล้วยังไม่มีพื้นฐานในเกม Diablo ทำให้เลือกไม่ถูกว่าควรอัพสกิลอะไรดีถึงจะมีประโยชน์จริงๆ ซึ่งเกมน่าจะเข้าใจในจุดนั้นเลยเพิ่มระบบการรีสกิลฟรีให้สำหรับ เลเวล 1-8 ทำให้ผู้เล่นได้ลองไปเรื่อยๆ ว่าสกิลไหนมีประโยชน์กับวิธีการเล่นของแต่ละคน โดยที่ไม่ต้องคิดมากว่าจะอัพผิด

แต่หลังจากที่ชินกับระบบสกิลแล้ว เมื่อผู้เล่นไปถึง เลเวล 50 จะมีระบบ Paragon Board ที่เรียกว่าต้องทำการวิจัยเลยดีกว่าว่าจะทำอย่างไรกับระบบนี้ (ซึ่งเราจะไม่ลงลึกกับระบบที่ว่ามา)

การปรับแต่งพัฒนาตัวละคร

สำหรับการอัพเกรดตัวละครซึ่งมองได้ 2 แบบ คือ ความเก่งในเกม กับรูปลักษณ์ภายนอก สำหรับระบบ loot หรือดรอปของจะไม่ได้ช่วยเรื่องรู้ลักษณ์ภายนอก ซึ่งตัวไอเทมที่อยู่ในส่วนนี้จะเน้นไม่ที่ด้านเกมเพลย์ ซึ่งก็มีความลึกเข้าไปอีกจากระบบ Occultist ที่สามารถผสมความสามารถของไอเทมระดับ Legendary ไปมาได้

ในส่วนของไอเทมสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกจะมีระบบ Transmogrification ที่สามารถใส่ของทับไอเทมหลักเพื่อแสดงผลด้านรูปลักษณ์เท่านั้น เพราะบางทีไอเทมเทพแต่มันไม่เท่ แล้วระบบนี้ยังใช้ง่ายไม่ยุ่งยากซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมาก

สำหรับการดรอปของระดับ Legendary ยิ่ง World Tier สูงของยิ่งดี โดยเฉพาะตั้งแต่ Tier 3 เป็นต้นไป ซึ่งยิ่งฟาร์มมากเท่าไหร่ก็มีโอกาสที่เราจะหาของผสมเพื่อเอฟเฟคที่สุดยอดมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ทำให้เกมสามารถฟาร์มกันได้ยาวๆ แม้จะเล่นจบเนื้อเรื่องไปแล้ว

ดันเจี้ยน

เวลาทั้งหมดส่วนมากใน Diablo IV จะถูกดูดไปกับการลุยดันเจี้ยน ไม่ว่าจะเกี่ยวกับเนื้อเรื่อง จุดฟาร์ม เควสรอง ซึ่งถ้านับรวมๆ มันมีดันเจี้ยนมากกว่า 110 แห่งภายในเกม ซึ่งภายในแต่ละดันเจี้ยนก็มีการสุ่มสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน ทำให้มีความหลากหลายในการเล่นอีกด้วย (ยกเว้นที่เป็นดันเจี้ยนเนื้อเรื่อง)

ด้วยความที่ภายในดันเจี้ยนนั้นมีเป้าหมายต่างกันเพื่อเคลียร์ เช่น กวาดมอนให้หมด ช่วยนักโทษที่อยู่ภายใน วิ่งทะลุไปปาดบอส ซึ่งทำให้เราสามารถเล่นวนได้เรื่อยๆ โดยไม่รู้สึกเบื่อจากความจำเจ

หนึ่งในดันเจี้ยนที่รู้สึกใช่เลย คือดันเจี้ยนที่มีห้องเดียวเสร็จแล้วก็มีมอนโผล่มารุมกระทืบเรา ซึ่งถ้ากำลังฟาร์มอยู่เรียกได้ว่าเป็นดันเจี้ยนที่อยากเจอมากๆ

สรุป

ถ้าเป็นผู้เล่นสายฟาร์มของ ที่มีสิ่งต่างๆ ให้คนหา ปรับแต่งความสามารถของตัวละครเราไปเรื่อยๆ Diablo IV เรียกว่าเป็นเกม AAA ที่ดีที่สุดเลยก็ได้ ด้วยความอิสระในการเลือกวิธีการเล่นภายในเกม ทั้งสกิล สไตล์การเล่น ไอเทมที่ฟาร์มมาซึ่งมีให้เราค้นพบได้แบบแทบไม่จบสิ้น สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือเรารู้สึกว่าเราเก่งขึ้นเมื่อเรายิ่งฟาร์ม ไม่ใช่บางเกมที่ฟาร์มไปแล้วเราจะรู้สึกว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่นะ

Diablo IV ยังคงความเป็นตัวเองได้สูง ถึงแม้จะมีการเพิ่มระบบ MMO มาเล่นกับคนอื่นเช่น Worldboss แต่ตัวเกมหลักยังสามารถเล่นแบบไม่สนใจใคร ฉันสนุกของฉันนี่แหละคือทางเดิมของ Diablo

ในส่วนของการฟาร์ม เรียกว่าบันเทิงหรือหัวร้อนดี เพราะลองคิดว่าเล่น Sorcerer สายไฟ แต่ของที่ดรอปออกมาหลังจากฟาร์มอย่างยาวนานมีแต่ไฟฟ้า เรียกความหัวร้อนได้พอตัว แต่ก็เป็นทั่วไปของเกมสายฟาร์มที่รับได้ แถมการฟาร์มก็ไม่ได้เอื่อยถึงขนาดที่ว่าดรอปของรอบนี้ไม่ได้กว่าจะดรอปอีกทีแทบหลับ แต่ก็สามารถลุ้นดรอปได้เรื่อยๆ ซึ่งมากลบจุดที่ทำให้หัวร้อนได้

ข้อดี

  • ปรับแต่งการเล่นตัวละครได้หลากหลายมาก
  • คัทซีนในเกมดีอลังการ
  • สามารถเล่นได้เรื่อยๆ แม้จะจบเกมแล้ว
  • แต่ละคลาสที่เล่น เหมือนเล่นคนละเกมทำให้ปั้นตัวละครใหม่ได้ไม่เบื่อ

ข้อเสีย

  • ความเร็วของการเล่าเนื้อเรื่อง ที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วงท้ายไวเกินไปเหมือนยัดมา

คะแนน: 9/10 

Tags: BlizzardDiabloIV
ShareTweetPin
Previous Post

PS Plus Premium เพิ่ม Football Manager 2023 แบบทดลองเล่นฟรีแล้ว

Next Post

Konami ยืนยัน ไม่เชิญ Kojima มาช่วยในการสร้าง Metal Gear Solid Dealta

Norrachai Anansakdakul

Norrachai Anansakdakul

Book - เภสัชกรผู้เสพติดเกม รวมถึงชอบงานเขียน สามารถหายไปเป็นวัน เพราะการเล่นเกม Turn Base Strategy ได้

Related Posts

Tokyo Game Show 2025 กับข้อมูลการเปลี่ยนธีมใหม่ครั้งใหญ่
ข่าว

Tokyo Game Show 2025 กับข้อมูลการเปลี่ยนธีมใหม่ครั้งใหญ่

May 15, 2025
รีวิว Capcom Fighting Collection 2 รำลึกยุคทองเกมต่อสู้ กับการกลับมาของตำนาน
Nintendo Switch

รีวิว Capcom Fighting Collection 2 รำลึกยุคทองเกมต่อสู้ กับการกลับมาของตำนาน

May 15, 2025
รีวิว DOOM: The Dark Ages – การเล่าเรื่องในยุคกลางที่เกมเพลย์ซับซ้อนกว่า sci-fi
Playstation

รีวิว DOOM: The Dark Ages – การเล่าเรื่องในยุคกลางที่เกมเพลย์ซับซ้อนกว่า sci-fi

May 9, 2025
Next Post
Konami ยืนยัน ไม่เชิญ Kojima มาช่วยในการสร้าง Metal Gear Solid Dealta

Konami ยืนยัน ไม่เชิญ Kojima มาช่วยในการสร้าง Metal Gear Solid Dealta

Discussion about this post

ติดตามเราได้ที่ Facebook

รีวิว

รีวิว Clair Obscur: Expedition 33 เกมระดับ AAA แรกของค่ายที่เปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม
Playstation

รีวิว Clair Obscur: Expedition 33 เกมระดับ AAA แรกของค่ายที่เปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยม

April 23, 2025
รีวิว Venus Vacation PRISM : DEAD OR ALIVE Xtreme – เกมจีบสาวที่มีทุกสิ่งที่ควรมี
ทั้งหมด

รีวิว Venus Vacation PRISM : DEAD OR ALIVE Xtreme – เกมจีบสาวที่มีทุกสิ่งที่ควรมี

April 16, 2025
รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่
Nintendo Switch

รีวิว Xenoblade Chronicles X: Definitive Edition แม้จะเกมเก่า แต่ยังเก๋าอยู่

April 8, 2025
พรีวิว Den of Wolves เอกลักษณ์การปล้นเป็นทีม ในโลกอนาคต
ทั้งหมด

พรีวิว Den of Wolves เอกลักษณ์การปล้นเป็นทีม ในโลกอนาคต

April 1, 2025
พรีวิว DOOM: The Dark Ages ความมันส์สุดเดือดในยุคกลาง
ทั้งหมด

พรีวิว DOOM: The Dark Ages ความมันส์สุดเดือดในยุคกลาง

March 31, 2025
พรีวิว Clair Obscur: Expedition 33 หนึ่งในที่มีโอกาสเป็นเกมยอดเยี่ยมของปี 2025
Playstation

พรีวิว Clair Obscur: Expedition 33 หนึ่งในที่มีโอกาสเป็นเกมยอดเยี่ยมของปี 2025

March 4, 2025 - Updated on March 7, 2025
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

No Result
View All Result
  • Home
  • ติดต่อเรา
  • สำหรับนโยบายความเป็นส่วนตัว
  • เกี่ยวกับเรา

© 2023 - 2025 Digital Braves Media Group Sdn Bhd

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In