เพื่อเป็นเวทีสำหรับการสนทนาที่สำคัญเกี่ยวกับการออกแบบเกมและแนวโน้มของอุตสาหกรรม หนึ่งในผู้บรรยายที่งานประชุม Busan Indie Wave Conference คือ Eddie Cai นักออกแบบเกมจากสตูดิโออินดี้สัญชาติแคนาดา Pengonauts ซึ่งได้มาแบ่งปันแนวทางของเขาในการสร้างเกมที่สามารถเล่นซ้ำได้ (replayability) เพื่อดึงดูดให้ผู้เล่นกลับมาเล่นอีก โดยใช้เกมแนว deck-building roguelike ของทีมเขาอย่าง StarVaders เป็นกรณีศึกษา Cai ได้อธิบายถึงสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นต้องการกลับมาเล่นเกมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
แรงจูงใจของผู้เล่นและองค์ประกอบการออกแบบ
Cai ได้แบ่งแรงจูงใจของผู้เล่นออกเป็นสองประเภทหลัก ประเภทแรกคือแรงจูงใจภายใน (intrinsic motivation) เช่น การพัฒนาทักษะ, ความท้าทาย, ความอยากรู้อยากเห็น, การสำรวจ และความสนุกสนาน “ผู้เล่นเล่นเพราะพวกเขาต้องการที่จะเล่น” Cai อธิบาย พร้อมเสริมว่า “ความสนุกคือเป้าหมายสูงสุดของการทำให้เกมสามารถเล่นซ้ำได้”
ประเภทที่สองคือแรงจูงใจภายนอก (extrinsic motivation) ซึ่งรวมถึงรางวัล, ของที่ปลดล็อกได้, ระบบความคืบหน้า, ความสามารถใหม่ๆ และเนื้อหาใหม่ๆ สิ่งเหล่านี้คือผลตอบแทนภายนอกที่ขับเคลื่อนให้ผู้เล่นเล่นต่อไป แม้ว่า Cai จะตั้งข้อสังเกตว่าแรงจูงใจทั้งสองประเภทสามารถทำงานได้ดี แต่เขาเชื่อว่าแรงจูงใจภายในนั้นมีพลังที่ยั่งยืนกว่า
Cai กล่าวว่ามีตัวเลือกในการออกแบบหลายอย่างที่สามารถเพิ่มความสามารถในการเล่นซ้ำได้ เกมจะได้รับประโยชน์จากการมีเส้นทางให้ผู้เล่นเลือกได้หลายทาง, เนื้อหาที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับความยาก และตัวเลือกที่ให้ความรู้สึกว่ามีความหมาย การเล่นแต่ละครั้งควรให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโอกาสใหม่ในการลองทำสิ่งที่แตกต่างออกไป
เนื้อหาที่ปลดล็อกได้ เช่น บอส, ตัวละคร หรือสถานที่ใหม่ๆ จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเล่นซ้ำโดยไม่ทำให้เกมยากขึ้น ระบบที่ติดตามความคืบหน้า เช่น ของสะสมหรือไอเทมที่ปลดล็อกได้ จะช่วยให้ผู้เล่นมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการมุ่งไปสู่เป้าหมาย
การสร้างความสมดุลของความท้าทาย
หนึ่งในอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการออกแบบเกมที่เล่นซ้ำได้คือความสมดุล Cai กล่าว กุญแจสำคัญคือการทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าโดยรวมแล้วเกมมีความยุติธรรม แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การแพ้ชนะในแต่ละครั้ง แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่จะทดสอบทุกสถานการณ์ที่เป็นไปได้ แต่เกมเล่นคนเดียวนั้นปรับสมดุลได้ง่ายกว่าเกมเล่นหลายคน
องค์ประกอบหลักที่เรียกว่าเป็นเมต้าของการพัฒนาเกม เช่น คลาสตัวละคร, ทักษะ หรือกลไกเกมใหม่ๆ ช่วยมอบประสบการณ์ที่สดใหม่ซึ่งทำให้ผู้เล่นสนใจอยู่เสมอ Cai ได้แบ่งปันปรัชญาของเขาในเรื่องนี้ว่า “ผมเชื่อว่าเป้าหมายของเมต้าคือการทำให้ผู้เล่นเล่นเกมซ้ำบ่อยพอที่จะเรียนรู้ว่าพวกเขาสามารถสนุกกับเกมได้โดยไม่ต้องพึ่งเมต้า”
Cai ยังชี้ให้เห็นว่าไม่ใช่ทุกเกมที่จำเป็นต้องเล่นซ้ำไปตลอดกาล เกมบางเกมได้รับประโยชน์จากการมีจุดจบที่ชัดเจน ซึ่งทำให้ผู้เล่นรู้สึกพึงพอใจหลังจากที่ได้สำรวจทุกสิ่งที่เกมนำเสนออย่างเต็มที่แล้ว การนำเสนอนี้ได้มอบข้อมูลเชิงปฏิบัติสำหรับนักพัฒนาอินดี้คนอื่นๆ ที่ต้องการสร้างเกมที่มีเสน่ห์ดึงดูดในระยะยาว โดยอิงจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริงกับเกม StarVaders และการตอบรับในเชิงบวกจากผู้เล่น

อย่าลืมติดตาม Gamer555 เพื่อไม่พลาดข่าวสารเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
Discussion about this post