ล่าสุดทางเราได้รับสปอตไลท์มาจากทาง THQ Nordic เกี่ยวกับเกม Alone in the Dark ภาค remake ไปดูกันว่ารายละเอียดที่เปิดเผยมามีอะไรบ้าง
อิงจากเกมต้นฉบับเวอร์ชั่นปี 1992 ที่ทุกคนยอมรับว่าเป็นต้นแบบแห่งเกม survival-horror Alone in the Dark ถูกชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งจากผู้พัฒนา Pieces Interactive และจัดจำหน่ายโดย THQ Nordic ตัวเกมเตรียมวางจำหน่ายในวันที่ 25 ตุลาคม 2023 ลงบน PC (Steam) PlayStation 5 และ Xbox Series X/S
เนื้อเรื่อง
ตัวเนื้อเรื่องจะให้คุณได้สัมผัสกับประสบการณ์หลอนผ่านสายตาของตัวเอกหนึ่งในสองคน สามารถเล่นได้เป็น Edward Carnby หรือ Emily Hartwood เพื่อเข้าไปสำรวจคฤหาสน์ Derceto ในบรรยากาศโกธิคทางใต้ของอเมริกา
ย้อนกลับไปในยุค 1920 ลุงของ Emily Hartwood (Jeremy Hartwood) ได้หายตัวไป ดังนั้นเธอร่วมกับนักสืบเอกชน Edward Carnby ได้เข้าไปสำรวจใน คฤหาสน์ Derceto บ้านสำหรับคนป่วยโรคจิตเวชที่มีสิ่งลี้ลับอยู่ภายใน
คุณจะได้พบกับผู้อยู่อาศัยที่ทำตัวแปลกๆ ภพแห่งฝันร้าย รวมถึงเหล่ามอนสเตอร์ที่เราต้องแก้ไขก่อนปิศาจจะขึ้นมายึดครองอีกครั้ง ในจุดเชื่อมต่อแห่งความจริง ปริศนา และความวิกลจริต การผจญภัยที่จะท้าทายความเชื่อภายในของคุณ ใครที่คุณสามารถเชื่อใจได้ คุณจะเหลืออะไรให้ยึดเหนี่ยว และต้องทำอะไรต่อไป
อ้างอิงจากผู้เขียนบทและผู้กำกับ Mikael Hedberg ทีมพัฒนาต้องการให้เกมนี้ดึงความน่ากลัวในระดับเช่นเดียวกับเกม Alone in the Dark ต้นฉบับในปี 1992 ทั้งบรรยากาศภายใน ความสยองขวัญต่อจิตใจที่เป็นเหมือนจุดกำเนิดให้เกมประเภทนี้ต่อๆ มา มากกว่าที่จะเน้นยัดฉากจั๊มสแกร์เพื่อให้คนตกใจ
อย่างที่บอกไปก่อนหน้า เราสามารถค้นหาความลับอันดำมืดของคฤหาสน์สไตล์โกธิค แล้วสัมผัสกับฝันร้ายที่เกิดขึ้นจากมุมมองของ Emily Hartwood หรือ Edward Carnby ตัวเนื้อเรื่องจะเล่าแตกต่างกันตามตัวละครที่เราเลือก และเช่นเดียวกันคนใน Derceto ก็จะตอบสนองต่อเราต่างออกไป แม้กระทั่งการบรรยายในเกมก็เช่นเดียวกัน
คนในทีมมีการขอความช่วยเหลือจากบุคคลที่มีส่วนร่วมในไตรภาคดั้งเดิม รวมถึงไอเดีย ในขณะเดียวกันก็พยายามนำเสนอรูปแบบใหม่ให้รู้จัก ที่สำคัญคือผู้เล่นไม่จำเป็นต้องรู้จักหรือเคยเล่นเกมภาคเก่ามาก่อนก็ได้ แต่หากมีจะทำให้เราอาจย้อนหวนนึกถึงอดีตเล็กน้อยที่อาจสอดแทรกเข้ามาในเกม
“สำหรับผม แก่นหลักในการสร้างเกม horror คือการสร้างปริศนา โดยพื้นฐาน มันต้องมีบทที่ดีควบคู่ไป สิ่งนั้นจะทำให้ตัวผู้เล่นมีสิ่งยึดติดและถูกดึงดูดเข้าไปในเกม ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงจั๊มสแกร์ หรือฉากตุ้งแช่อะไรที่เข้ามาแบบรัวๆ แต่การสร้างความกดดันโดยไม่ต้องใช้สิ่งพวกนั้นเลย แล้วทำให้พวกฉากตุ้งแช่ กลายเป็นการผ่อนคลายชั่วคราวแทนเพราะลืมเรื่องเครียดที่กดดันอยู่ภายในเกมไปช่วงหนึ่ง”
“สำหรับทางผม มันคือการสร้างประสบการณ์ที่มีรากฐานมากจากเนื้อเรื่องและปริศนาที่ผู้เล่นได้พบเจอ ผมเคยทำเกม Amnesia: The Dark Descent และ SOMA มันช่วยผมได้เยอะมาก ถึงแม้ Alone in the Dark จะแตกต่างออกไป อย่างแรกก็คือมันเป็น 3rd person รวมทั้งธีมที่ไม่เหมือนกัน นี่ทำเกมนี้แตกต่างจากเกมอื่น” Mikael Hedberg กล่าว
ผู้ให้เสียง
- Edward Carnby – David Harbour
- Emily Hartwood – Jodie Comer
เกมเพลย์
เป้าหมายของเกมคือการหนีออกจากคฤหาสน์รวมถึง หลบเลี่ยง เอาชนะเหล่าศัตรูเหนือธรรมชาติไปตามรายทางที่ Edward Carnby หรื อ Emily Hartwood ได้พบเจอ
สิ่งหนึ่งที่แตกต่างจากต้นฉบับ คือมุมกล้องโดย Alone in the Dark เวอร์ชั่นปัจจุบันจะใช้มุมกล้องแบบมองข้ามไหล่ หรือ 3rd person เช่นเดียวกับ Resident evil 4 remake ที่เพิ่งออกมา
นอกจากนี้ตัวผู้เล่นยังสามารถใช้อาวุธปืนในการต่อสู้ รวมถึงอาวุธระยะประชิด หรืออาวุธขว้างด้วยเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างของอาวุธที่เราสามารถใช้ได้
- ปืนลูกซอง
- ปืนลูกโม่
- พลั่ว
- ขวาน
- ท่อเหล็ก
- ปืนพก
ส่วนหลักของเกมจะเต็มไปด้วยการสำรวจ รวมถึงแก้ปริศนาซึ่งภายในคฤหาสน์จะมีเบาะแสแฝงอยู่ทั่ว ซึ่งบ่งบอกถึงเหตุการณ์ก่อนตัวเอกทั้งสองจะมาถึง นอกจากนี้ใน spotlight ยังบ่งบอกสถานที่อื่นนอกจากตัวคฤหาสน์แล้ว ยังมีสุสานรวมถึง bayou (ชื่อเรียกเฉพาะของแหล่งน้ำทางตอนใต้ของอเมริกา)
เราพยายามกระจายเนื้อหาต่างๆ ให้เข้าถึงแก่นหลักของเกม survival horror (ระบบการต่อสู้ การสำรวจ ปริศนา และเนื้อเรื่อง) โดยอาจจะเน้นไปที่ปริศนาและเนื้อเรื่องเป็นหลักสักหน่อย ซึ่งผู้เล่นก็พอจะมีทางเลือกที่จะสามารถทำแต่ละสิ่งได้ เช่นอาจจะสำรวจจนละเอียดเพื่อหาข้อมูลไปช่วยแก้ Puzzle หรือจะระเบิดพลังสมองโดยการเข้าไปแก้มันตรงๆ เลยก็ได้
“การเข้าไปแก้ปริศนาแบบไม่หาข้อมูลก่อน อาจจะต้องใช้ความอดทน และความพยายามพอสมควร บางคนอาจจะชอบมันก็ได้ เราเลยไม่อยากจำกัดผู้เล่นว่าต้องไปหาคำใบ้ก่อน ซึ่งอาจจะทำให้บางคนเบื่อเอาได้ แต่ถ้าหากเป็นผู้เล่นสายสำรวจก็จะมีตัวช่วยในการแก้ปริศนาและการสำรวจในพื้นที่ต่อไปมากขึ้น ยิ่งมีคำใบ้มากก็ทำให้คุณผ่านแต่ละจุดได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้พลังสมองเยอะนัก” THQ Nordic กล่าว
“ยังมีส่วนสำคัญต่อตัวเกมอีกอย่างคือระบบควบคุม ที่ทำให้ง่ายต่อผู้เล่น ซึ่งเกมยุคใหม่อย่างน้อยต้องมีมัน แต่เราก็คิดว่าถ้ามีทั้งหมดอาจจะทำให้เกมจบไวรวมถึงไม่ได้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่ ดังนั้นเราจึงออกแบบให้เหมาะสมที่สุด” THQ Nordic กล่าว
ลองเล่น Prologue ได้ฟรี
จะมีบท prologue ที่เรียกว่า Grace in the Dark โดยเราจะได้เล่นเป็น Grace Saunders โดยตัว prologue สามารถเล่นได้บน PS5, Xbox Series และ PC
โดยหน้าที่ของ prologue จะทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์แรกของเนื้อเรื่องและบรรยากาศภายในเกม และยังมีสิ่งให้สำรวจให้คนหา แต่อาจจะตรงไปตรงมามากกว่าปริศนาที่ใส่เข้าไปในเกมจริง
ช่วง Q&A
Question | Answer THQ Nordic |
ตัวเนื้อเรื่องของ Alone in the Dark Remake จะเป็นยังไง จะอ้างอิงจากเนื้อเรื่องเดิม หรือจะเล่าใหม่ที่เป็นเนื้อเรื่องที่แตกต่างจาก Edward Carnby เดิม | เราได้นำสิ่งต่างๆ มามากมายรวมถึงตัวละครจากฉบับปี 1992 และตัวเนื้อเรื่องเริ่มต้นเราก็คล้ายคลึงกัน แต่ว่าก็มีส่วนที่เราทำมาใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งถ้าหากคุณเคยเล่นฉบับเก่ามาก่อน ก็จะมีคำใบ้ หรืออ้างอิงมามากพอสมควร แต่เราก็ใส่เซอไพรส์ไว้ด้วย เพื่อที่ผู้เล่นใหม่จะได้ไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปเล่นเกมเวอร์ชั่นต้นฉบับก่อน |
Alone in The Dark ต้นฉบับสร้างโดย Frederick Raynal ได้ยินว่าเขาพอจะมีส่วนร่วมในภาคใหม่ด้วย เขามองว่าตรงไหนควรปรับปรุง หรือได้ให้คำแนะนำรวมถึงลงแรงมาบ้างไหม | ทีมผู้สร้างทั้งหมดเป็นแฟนตัวยงของเกมฉบับปี 1992 มันคงยากที่จะบอกว่าไม่มีผลมาสู่เกมฉบับ remake เรายินดีมากที่ Frederick ช่วยอวยพรแก่งานของเรา รวมถึงอนุมัติสิ่งที่พวกเรากำลังทำอยู่ในเกม แต่เขาไม่ได้ลงมาช่วยโดยตรงหรอกนะ |
ด้วยความที่มีตัวละครเล่นได้ 2 ตัว ผู้เล่นสามารถคาดหวังถึงความแตกต่างได้ระดับไหน เกี่ยวกับการเล่าเรื่อง ปริศนา หรือระบบการต่อสู้ | จากมุมมองการเล่าเรื่อง เราตื่นเต้นมากที่จะแสดงให้เห็นถึงความต่างจากการเลือกตัวละครของคุณ Emily และ Edward แตกต่างกันอย่างมาก ทั้งความสัมพันธ์รวมถึงเนื้อเรื่อง โดย Edward จะชำนาญปืนมากกว่า แล้วค่อยไปแก้ไขปริศนาทีละขั้นที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ในขณะที่ Emily จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องมากกว่าเพราะเธอกำลังตามหาลุงของเธออยู่ รวมถึงต้องรับมือกับ “The Hartwood Curse” ทั้งหมดจะแสดงให้เห็นในคัทซีน ซึ่งจะเห็น NPCs ทำตัวแตกต่างออกไปหรือเจอคนละตัวเลยก็มี รวมทั้งยังมีบางส่วนของคฤหาสน์ที่เปิดให้เฉพาะตัวละครที่เราเลือกเล่นเข้าไปได้ในขณะที่อีกตัวไม่สามารถเข้าไปในจุดนั้น มันจะทำให้หลายคนอยากเล่นเกมรอบที่สอง ซึ่งการเล่นรอบที่สอง ไอเทมบางอย่างที่เจอในการเล่นรอบแรกจะมีผลด้วยนะ |
ในมุมมองของผู้พัฒนา คุณเชื่อมั่นในอะไรในแก่นหลักหรือระบุเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ คุณทำอย่างไรถึงจะรักษาแก่นหลักนั้นเอาไว้ได้ในขณะที่กำลังเสริมเติมแต่งสิ่งใหม่เข้าไปอยู่ | พูดถึงแก่น เกมหลักนั้นมันคือประสบการณ์บ้านผีสิง ที่ต้องให้คุณค่อยๆ เข้าไปค้นหามันทีละนิดเพื่อเปิดเผยเนื้อเรื่องของเกม ดังนั้นส่วนนี้เราต้องทำให้คงอยู่ไว้ทั้งการสำรวจที่กดดัน ปริศนาที่ท้าทาย การต่อสู้เมื่อจนตรอก รวมถึงเนื้อเรื่องที่ดี (อย่าง Silent Hill หรือ Resident Evil ยุคแรกๆ) ด้วยการนำเสนอแบบ 3rd-person |
Discussion about this post